fbpx

ซีไอเอ็มบีไทยหั่นจีดีพีปีนี้เหลือร้อยละ 2.8

กรุงเทพฯ 30 ส.ค. – ซีไอเอ็มบีไทยหั่นจีดีพีปี 2562 เหลือร้อยละ 2.8 มองสงครามการค้ายืดเยื้อถึงปีหน้า หวังมาตรการกระตุ้นลงทุนหนุนเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง


นายอมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัยธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) กล่าวว่า  สำนักวิจัยธนาคารซีไอเอ็มบีไทยได้ปรับประมาณการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2562 ลงเหลือร้อยละ 2.8 จากเดิมคาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 3.3 โดยปัจจัยหลักมาจากความตึงเครียดจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนที่คาดว่าจะยืดเยื้อไปถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปีหน้า และความตึงเครียดของ 2 ประเทศจะยังคงมีอยู่เนื่อง ตราบใดที่ทรัมป์ยังนั่งตำแหน่งผู้นำสหรัฐ ซึ่งปัจจัยนี้เริ่มส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจไทยแล้ว และคาดว่าจะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตช้าไปถึงปี 2563 

ทั้งนี้ เห็นได้จากสัญญาณชะลอตัวจากภาคต่างประเทศเริ่มลุกลามมาในประเทศไทย ส่งผลให้ภาคการลงทุนเอกชนมีแนวโน้มติดลบครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะภาคการส่งออกมีแนวโน้มติดลบต่อเนื่อง แต่จะไม่รุนแรงเท่าครึ่งปีแรก เมื่อการส่งออกเริ่มมีปัญหาผู้ประกอบการจะปรับลดกำลังการผลิตลง และจะมีผลต่อการนำเข้าเครื่องจักร รวมถึงวัตถุดิบอื่น ๆ เกิดภาวะเงียบเหงา เมื่อภาคเอกชนชะลอการลงทุน จะส่งผลกระทบต่อภาคการบริโภค การจ้างงานจะมีแนวโน้มลดลง และโอทีมีแนวโน้มถูกตัดมากขึ้น


ขณะที่เชื่อว่านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจะช่วยประคับประคองเศรษฐกิจไม่ให้ย่ำแย่ไปกว่านี้ ด้วยการกระตุ้นการบริโภคระดับล่าง อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีหลังยังหวังที่จะได้เห็นมาตรการกระตุ้นภาคการลงทุน ด้านนโยบายการเงินนั้น มองว่ามีโอกาสจะได้เห็นมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติม ด้วยการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อีกครั้งไตรมาส 4 ปีนี้ เพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจ ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายภาคเอกชน ประคับประคองภาคการส่งออก กดดันค่าเงินบาทให้อ่อนค่าลงด้วย

อย่างไรก็ตาม ทิศทางค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลง คาดปลายปีนี้ค่าเงินบาทจะแตะที่ 30.9 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยสำนักวิจัยธนาคารซีไอเอ็มบีไทย มองว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีความเป็นไปได้ที่จะปรับลดดอกเบี้ยลงถึง 3 ครั้งในปีนี้ ส่งผลให้นักลงทุนจะกลับเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์สกุลดอลลาร์มากขึ้นและค่าเงินบาท รวมถึงค่าเงินในภูมิภาคจะอ่อนค่าลงเล็กน้อย. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME

“บิ๊กโจ๊ก” ร้อง ตร.ขอความเป็นธรรม ปมโดนให้ออกจากราชการ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล บุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หอบหลักฐานยื่นคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ ขอให้เพิกถอนคำสั่งให้ออกจากราชการ

เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลโรงงานย่านพระราม 2

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลในโรงงานย่านพระราม 2 ควันสีขาวลอยโขมง เบื้องต้นพบเป็นสารไทโอยูเรีย

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง