ป.ป.ช. 28 ส.ค.-ป.ป.ช.เผยมีคดีการเมือง ค้างไต่สวน 49 คดี อยู่ระหว่างไต่สวนเบื้องต้นอีก 109 คดี “สุภา” ระบุคดีจีทูจีข้าว-มันสำปะหลัง สมัย “อภิสิทธิ์” ยังรวบพยานเอกสารไม่เสร็จ
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จัดงานคณะกรรมการ ป.ป.ช. พบบรรณาธิการและผู้บริหารสื่อมวลชน โดย น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีสำคัญที่อยู่ระหว่างการไต่สวน ว่า สำหรับคดีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่อยู่ในการรับผิดชอบของสำนักการเมือง อยู่ระหว่างการไต่สวน 49 เรื่อง อยู่ระหว่างการตรวจสอบเบื้องต้น 109 เรื่อง มีทั้งเรื่องเก่า และเรื่องใหม่สะสมมา โดยคดีทางการเมืองสำคัญนั้น กรอบระยะเวลาตามกฎหมาย ป.ป.ช.ใหม่ ทำให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทุกคนต้องเร่งทำสำนวนกันหมด โดยเป็นเรื่องที่ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. เคยชี้แจงแล้วว่าคดีการเมืองก้าวหน้าไปมาก แม้ที่ผ่านมาไม่สามารถชี้มูลอะไรได้เพราะอยู่ในช่วงเลือกตั้ง
น.ส.สุภา กล่าวว่า คดีที่ประชาชนสนใจ เช่น คดีการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ล็อตสอง ดำเนินการไต่สวนอยู่ มีการกันบุคคลไว้เป็นพยานเรียบร้อยแล้ว และแจ้งข้อกล่าวหาไปหมดแล้ว ส่วนคดีระบายข้าวจีทูจี และคดีมันสัมปะหลังจีทูจียุครัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กำลังรวบรวมพยานเอกสาร อย่างไรก็ตาม 2 คดีนี้มีโมเดลเหมือนกับคดีข้าวจีทูจี และมันเส้นจีทูจี สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ส่วนคดี นปช.ลั่นกลองรบ ถูกกล่าวหาปราศรัยแบ่งแยกประเทศ แจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว อยู่ระหว่างรอคำชี้แจง คดีจัดซื้อจัดจ้างโครงการขุดลอกคลอง 1.5 พันล้านบาท อยู่ระหว่างเตรียมเอกสารแจ้งข้อกล่าวหา
น.ส.สุภา กล่าวด้วยว่า ส่วนคดีการจ่ายเงินเยียวยาผู้ชุมนุมทางการเมืองระหว่างปี 48-53 โดยไม่มีกฎหมายรองรับของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้เกี่ยวข้องไปหมดทุกคนแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการสรุปสำนวน
ส่วนคดีการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิกาสภาความั่นคงแห่งชาติ (สมช.) น.ส.สุภา กล่าวว่า ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว อยู่ระหว่างการสรุปสำนวน คดีการปรับปรุงข้าวให้ประเทศอินโดนีเซีย (บูล็อค) สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว อยู่ระหว่างสรุปสำนวน คดีก่อสร้างฝายแม้ว มีทั้งหมด 4 สำนวน มีการแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว เสร็จ 1 สำนวน เหลืออีก 3 สำนวน อยู่ระหว่างไต่สวนรอสรุป ส่วนคดีการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับเหมาเข่ง อยู่ระหว่างสรุปสำนวน และพิจารณาพยานหลักฐานเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป คดีทุจริตโครงการรถไฟฟ้าชานเมืองตลิ่งชัน อยู่ระหว่างสรุปสำนวน
น.ส.สุภา กล่าวด้วยว่า ขณะที่คดีสินบนข้ามชาติเรื่องเหมืองแร่ทองคำ มีการขอข้อมูลจากต่างประเทศไปแล้ว และแจ้งข้อกล่าวหาทางอาญากับผู้ถูกกล่าวหาแล้วด้วย ส่วนคดีสินบนข้ามชาติภาษีสุราดิอาร์จิโอ อยู่ระหว่างสรุปสำนวน ส่วนคดี พีทีที.จีอี. เครือ ปตท. ลงทุนปลูกปาล์มที่ประเทศอินโดนีเซีย ขณะนี้กำลังสรุปข้อมูล และรอเอกสารบางส่วนจากต่างประเทศ
“คดีที่เป็นที่สนใจของประชาชนทั้งหมดนั้น จะเห็นได้ว่าแจ้งข้อกล่าวหาเกือบหมดแล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมสรุปสำนวน พยายามทำตามกฎหมายให้มากที่สุด ทุกคนทำกันเต็มมือเต็มที่” น.ส.สุภา กล่าว
น.ส.สุภา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีคดีร่ำรวยผิดปกติที่ดำเนินการไปแล้ว เช่น นายพนม ศรศิลป์ อดีตผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ส่วนนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีต ผอ.พศ. กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ เนื่องจากคดีการทุจริตเงินบูรณปฏิสังขรณ์วัด (เงินทอนวัด) เป็นคดีใหญ่
ด้าน นายวิทยา อาคมพิทักษ์ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีการนำเข้ารถหรูหลบเลี่ยงภาษี ว่า คดีนี้มีหลายสำนวน เสร็จแล้วบางส่วน มีการส่งเรื่องไปยังต้นสังกัดให้ไล่ผู้ถูกกล่าวหาออกแล้ว ส่วนคดีอาญาอยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการ สาเหตุที่เสร็จบางส่วน มีรถหรูจำนวนมาก ในส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐ เอกสารหลักฐานต่าง ๆ กำลังทยอยเข้ามา ขณะเดียวกันประสานงานกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อให้ได้เอกสารที่แท้จริงจากต่างประเทศ จึงจะพิจารณาคดีอาญาได้ หากมีเอกสารเข้ามา จะทยอยไต่สวนเพิ่มเติม
ส่วนความคืบหน้าคดีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนอมนั้น นายวิทยา กล่าวว่า ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหมดแล้ว อยู่ระหว่างให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจง สาเหตุที่เรื่องนี้ช้า เพราะระหว่างไต่สวนที่มีการแจ้งข้อกล่าวหาผู้ถูกล่าวหาคนเก่าไปแล้ว ในข้อเท็จจริงมีการเพิ่มเติมผู้ถูกกล่าวหาขึ้นมา จึงดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม คาดว่าจะเสร็จในเร็ว ๆ นี้.-สำนักข่าวไทย
