คณะรวมพลังแผ่นดินฯ เรียกร้อง ป.ป.ช. เร่งส่งคดี ม.144 ให้ศาล

ป.ป.ช. 2 ก.ย.- คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย เรียกร้อง ป.ป.ช. ทำตามอำนาจหน้าที่ เร่งส่งคดี ม.144 ให้ศาล รธน.

คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย เดินทางมายังสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อติดตามเรื่องร้องเรียนที่เคยได้ยื่นไปก่อนหน้านี้ กรณียื่นให้ตรวจสอบการกระทำขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ซึ่งนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ และคณะยื่นให้ตรวจสอบการกระทำของคณะรัฐมนตรี คณะกรรมาธิการงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 สส.และ สว.เนื่องจากคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้คณะกรรมาธิการวิสามัญฯปรับลดงบประมาณสำหรับการชำระหนี้ เพื่อชดเชยต้นทุนเงินจากการให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ชดเชยภาระดอกเบี้ยหรือชดเชยหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ซึ่งเป็นหนี้ตามมาตรา 28 ของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ ที่กำหนดให้รับต้องจัดงบฯ ชดใช้คืนทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย  


และเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบเรื่องจริยธรรมบุคคลที่เกี่ยวข้อง ในกรณีเอื้อประโยชน์ให้กับนายทักษิณ ชินวัตร ไปพักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ทางกลุ่มยังเห็นว่าหาก ป.ป.ช. ไม่ดำเนินการก็จะฟ้องมาตรา 157 เรื่องการละเว้นหรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้นายชาญชัย และแกนนำประมาณ 10 คน ได้เข้าพบกับนายภูเทพ ทวีโชติธนากุล รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.

นายชาญชัย  ระบุว่าหลักฐานครบถ้วนแล้ว ขอให้ ป.ป.ช. พิจารณาลงความเห็นโดยไม่ต้องวินิจฉัย ว่าใครทำถูกผิด ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาวินิจฉัย ขณะนี้สถานการณ์ทางการเมืองมีความซับซ้อน หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งจากกรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ขณะนี้กำลังเร่งพูดคุยเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งแต่ละพรรคการเมืองมุ่งหวังเพื่อประโยชน์ของตัวเองไม่ใช่เพื่อประชาชน ตนจึงทำหนังสือให้ ป.ป.ช.ขอให้ทำตามอำนาจหน้าที่ ระงับยับยั้งสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น ถ้าวันนี้ ป.ป.ช.ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เชื่อว่าศาลจะตัดสินภายใน 15 วัน ก็จะทำให้ สส. ไปทั้งสภา เนื่องจากกระทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 144 เมื่อไม่มี สส. ก็จะตั้งปลัดกระทรวงขึ้นมาทำหน้าที่รักษาการแทนรัฐมนตรีเท่าที่จำเป็น ให้เลือกกันเองขึ้นมาปฎิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี แล้วจัดเลือกตั้งใหม่  


นายชาญชัย ย้ำว่าตามมาตรา 18 เป็นอำนาจของ ป.ป.ช.ที่จะต้องดำเนินการโดยพลัน ขณะเลยเวลาแล้ว จึงถามกลับว่าเป็นละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ เพราะไม่ได้ทำตามที่กฎหมายกำหนด ยืนยันว่าที่มาวันนี้ไม่ต้องการช่วยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแต่ต้องการสร้างระบอบการเมืองใหม่ที่มีคุณธรรม อีกทั้งไม่ได้มากดดัน ป.ป.ช. แต่มาเตือนให้ทำตามอำนาจหน้าที่ หากไม่ทำ ภายในสัปดาห์หน้า ตนเตรียมจะเปิดเผยหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับผู้กระทำความผิดทั้งหมด เชื่อว่าจะมีงานให้ ป.ป.ช. ทำอย่างต่อเนื่อง หากไม่ทำประชาชนจะลุกขึ้นมาปกป้องผลประโยชน์ประเทศต่อไป

ภายหลังการหารือกับรองเลขาธิการประมาณ 1 ชั่วโมง นายชาญชัย ได้ออกมาแถลงกับมวลชนว่า ว่า ทางสำนักงาน ป.ป.ช. ขอเวลาภายในสิ้นเดือนนี้จะแจ้งความคืบหน้าให้กับทางคณะได้ทราบ แต่ถึงอย่างไรเราก็ยังจะทำหน้าที่เป็นกำแพงเหล็กให้กับประเทศต่อไป

นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. ระบุว่า ได้หารือพูดคุยกับรองเลขา ป.ป.ช. เรื่องการกระทำความผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ป.ป.ช.ระบุว่าได้สอบสวนเป็นทางลับมาก เพราะเป็นความสำคัญระหว่างประเทศ เป็นทิศทางของประเทศ ดังนั้นจึงมีความคืบหน้าไปในทางลับมาก ซึ่งจะแจ้งความคืบหน้าทางคดีให้ทราบโดยพลันภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้ รวมแล้วระยะเวลา 5 เดือน ส่วนกรณีชั้น 14 หลังจากได้ติดตามความคืบหน้าหลายครั้ง จนศาลฎีกาได้นำเรื่องนี้มาพิจารณา ซึ่งทราบว่า ป.ป.ช.ได้ส่งสำนวนที่สืบเสาะมาไปให้ศาลฎีกาดำเนินการเช่นเดียวกัน โดยหลังจากที่ศาลฎีกามีคำตัดสินในวันที่ 9 กันยายนนี้ ป.ป.ช.จะรับลูกศาลฎีกา พิจารณามาลงโทษข้าราชการที่เกี่ยวข้องทันที ซึ่งทางกลุ่มก็จะติดตามอย่างใกล้ชิด รวมถึงกรณีจะสามารถเอาผิด พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในขณะนั้นได้หรือไม่


ด้านนาย จตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวว่า ที่พวกเรามาวันนี้ต้องการมาเรียกร้องให้ปปช.ทำหน้าที่ เพราะตามกฎหมายกำหนดให้ปปช. ต้องพิจารณาวินิจฉัยโดยพลันแต่ขณะนี้ผ่านมา 3 เดือนกับ 7 วันแล้วนับแต่ยื่นคำร้องป.ป.ช.ยังไม่ได้มีการส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญถ้าปปช.ยังช้าอยู่ก็จะเป็นการลากประเทศเข้าสู่ทางตันอีกรอบ

“ข่าววันนี้คือ ครม. รักษาการกำลังหารือเรื่องยุบสภา โดยขู่พรรคประชาชนว่าถ้าหากไม่ร่วมกับทางฝ่ายตนก็จะยุบสภาประชาชนอย่าไปกลัว เพราะเรื่องอำนาจยุบสภาวันนี้ยังไม่ชัดเจนถ้านายภูมิธรรม กราบบังคมทูลให้ทรงยุบสภาก็จะมีคนไปร้องศาลปกครองขอคุ้มครองชั่วคราวจากนั้นเขาก็จะร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญและถ้าเห็นว่าไม่มีอำนาจยุบสภานายภูมิธรรมก็จะรู้ว่ามันงามไส้ขนาดไหน เวลานี้ที่มีการเจรจากันอยู่ต่างก็เพื่อผลประโยชน์ส่วนตนไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรกับชาติบ้านเมืองเลยพวกเราบอกว่าแล้วว่า นายกคนใหม่เอาใครก็ได้ที่อยู่ในบัญชีแคนดิเดตนายกแต่ไม่ใช่แคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทยดังนั้นใครจะมาใส่ร้ายว่าเราสร้างทางตันไม่ได้”

นายจตุพร ยังระบุด้วยว่าในส่วนของสำนวนคดีงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับคดีงบประมาณเหลืออยู่ 2 สำนวนคือสำนวนที่มีการกล่าวหานายประเสริฐจันทะรวงทองและส.สพรรคเพื่อไทยรวม 50 คน ในการใช้งบประมาณภัยแล้งลักษณะเดียวกับกรณีนายพิเชษฐ์เชื้อเมืองพาน และคดีที่นายชาญชัยและพวก ยื่นร้องคณะรัฐมนตรี สส. สว. กรรมาธิการฯ ซึ่งเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเงินของธกส.ทั้งเงินต้นที่มาจากการกู้ ดอกเบี้ยและเงินที่กฎหมายกำหนดห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144 จำนวน 3.5 หมื่นล้านบาท แต่เรื่องถูกดองเน่าอยู่ที่ป.ป.ช.นี้ ทั้งนี้นายชาญชัยได้มีการส่งพยานหลักฐานเอกสารต่างๆสนับสนุนคำร้องให้กับป.ป.ช.ชนิดที่ไม่มีอะไรที่ป.ป.ช.ต้องการแล้ว นายชาญชัยจัดให้ไม่ได้ ดังนั้นป.ป.ชจะอ้างว่ายังขาดพยานหลักฐานไม่ได้ มองว่าที่ขาดมีเพียงอย่างเดียวคือความรับผิดชอบและถ้ายังขาดความรับผิดชอบ ตนขอกล่าวหาว่าปปชขาดความเป็นมนุษย์ที่มีความรักชาติบ้านเมือง

“กฎหมายไม่ได้ให้ป.ป.ช.ตัดสินวินิจฉัย เพียงแค่เห็นว่ามีมูลก็ให้ส่งไปศาลรัฐธรรมนูญ หน้าที่ตัดสินวินิจฉัยเป็นของศาลรัฐธรรมนูญ เรามาวันนี้จึงไม่ได้มาขอให้ป.ป.ช.ทำผิดกฎหมายแต่มาขอให้ทำหน้าที่ตามกฎหมายถ้าทำหน้าที่ตามกฎหมายไม่ได้ประเทศนี้ก็อย่ามีป.ป.ช.อีกเลยเพราะมีค่าเท่ากัน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก ถ้าป.ป.ชจัดการไปก่อนหน้านี้ ปัญหาบ้านเมืองณ.ขณะนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น

นายจตุพร ยังมองว่า สถานการณ์ขณะนี้เหมือนแต่ละฝ่ายกำลังนำประเทศมาละเลงเล่น เพราะข้อเสนอยุบสภาใน 4 เดือนมันขยายได้และจะกลายเป็น 9 เดือนเหมือนที่มีการพูดกัน ซึ่งความจริงเรื่องที่มันใหญ่และเราต้องการก็คือการจบศึกกับกัมพูชาถ้ามันเจรจาไม่ได้ก็ลบกันอีกถ้าจะเจรจาก็ต้องเอาคนที่ไม่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องเข้ามาเป็นผู้ปกครองประเทศแต่ถ้าได้คนที่อยู่ภายใต้อาณัติของคลิป ภายใต้อำนาจของผลประโยชน์เราก็จะไม่มีวันจบเรื่องกัมพูชาได้ท้ายสุดก็จะพอกปัญหาเหมือน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เวลานี้ 21 ปีแล้วปัญหายังไม่จบ ดังนั้นปปช.หยุดความเสียหายของประเทศชาติได้ และนี่จะถือว่าเป็นการสื่อความต่อ ป.ป.ช. ครั้งสุดท้ายเพราะถ้ายังคงล่าช้าอยู่ก็จะมีการแจ้งความดำเนินคดีฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่กับ ป.ป.ช.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. แต่งตั้งนายพล 250 ตำแหน่ง

1 ก.ย. – เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. บัญชีแต่งตั้งนายพลตำรวจ 250 ตำแหน่ง “บิ๊กเต่า” แห้ว “นพศิลป์” ได้ขึ้น พล.ต.ท. เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม 2568 ที่ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (รองประธาน ก.ตร.) เป็นประธานการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 8/2568 วาระแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ระดับผู้บังคับการ (ผบก.) ถึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ประจำปี 2568 โดยแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น และโยกย้ายสับเปลี่ยน กว่า 250 ตำแหน่ง ทั้งนี้ ก.ตร.ครบองค์ประชุม ขาดเพียงนายภูมิธรรม […]

“บิ๊กเต่า” ยอมรับมีอดีต ผอ.พศ.-ตลกดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทนอดีตพระอลงกต

กรุงเทพฯ 1 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” ยอมรับมีอดีต ผอ.พศ.-ตลกชื่อดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทน “อดีตพระอลงกต” ส่วน “สมปอง” ยังอยู่ในข่ายถูกดำเนินคดี แม้อ้างว่าเป็นการยืมเงินและคืนไปบางส่วนแล้ว ขณะที่วง “พิงค์แพนเตอร์” ประสานเข้าพบตำรวจเร็วๆ นี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนคดี “อลงกตการละคร” ระบุว่า คดีมีความคืบหน้าไปพอสมควร และมีตัวละครที่สามารถดำเนินคดีได้หลายคน แต่ตำรวจต้องการพยานหลักฐานมาประกอบข้อมูลตรงนี้ให้ชัดเจนมากขึ้นก่อน ซึ่งตอนนี้พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามทยอยเรียกสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องมากขึ้นเรื่อย ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบขยายผลเส้นทางการเงินและทรัพย์สิน โดยเฉพาะประเด็นที่มีคนใกล้ชิด อักษรย่อ นางสาว ว. ถือครองโฉนดที่ดินมูลค่ารวม 140 ล้านบาทนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่าตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบบุคคลเกี่ยวข้องทั้งหมด โดยในจำนวนนั้นยอมรับว่ามีอดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และตลกชื่อดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทน “อดีตพระอลงกต” ด้วย โดยทั้งคู่มีพฤติกรรมคล้ายๆ กัน คือ เข้าไปหาผลประโยชน์ และไม่ใช่เพียงผลประโยชน์จากเงินวัดก้อนเดียว แต่หาผลประโยชน์จากกลุ่มเครือข่ายด้วย ซึ่งมีมูลค่าเงินจำนวนมาก และทางอดีตพระอลงกต ก็มองว่าตนเองถูกรังแก ถูกโกงเงินไป ทั้งเรื่องคอนเสิร์ต เรื่องที่ดิน และถือครองทรัพย์สินแทน […]

พรรคกล้าธรรม ออกแถลงการณ์โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ

พรรคกล้าธรรม 30 ส.ค.-พรรคกล้าธรรม ออกแถลงการณ์ โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ ชี้ปล่อยให้ประเทศเกิดสุญญากาศไม่ได้ เผยภูมิใจไทยรับข้อเสนอ แก้ กม.ต้องไม่กระทบสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อเวลา 15.55 น. พรรคกล้าธรรม (กธ.) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากความเป็นนายกรัฐมนตรี จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งทำให้คณะรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ และจะต้องมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ต่อไปว่า คณะกรรมการบริหารพรรค ร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ได้ร่วมกันพิจารณารับฟังความคิดเห็นของสมาชิกพรรคทุกท่าน เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินการของพรรค รวมถึงพิจารณาข้อเสนอของพรรคภูมิใจไทย โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า พรรคกล้าธรรม จะลงมติในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สนับสนุนให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 เนื่องด้วยสถานการณ์ของประเทศไทยขณะนี้ จำเป็นที่จะต้องมีฝ่ายบริหารมาขับเคลื่อนและแก้ปัญหาให้กับประชาชนในทุกด้าน ทั้ง ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ ปัญหาเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศ ปัญหาสังคมด้านต่าง ๆ อย่างเร่งด่วน โดยไม่สามารถประวิงเวลาไปได้อีก พรรคกล้าธรรม ได้แสดงจุดยืนของพรรคให้กับพรรคภูมิใจไทยทราบ คือ 1.พรรคกล้าธรรม ยึดถือ […]

“เดชอิศม์” ปิดประตูจับมือ “ภูมิใจไทย” ตั้งรัฐบาล

พรรคประชาธิปัตย์ 31 ส.ค.- “เดชอิศม์” ปิดประตูจับมือ “ภูมิใจไทย” ตั้งรัฐบาล กร้าว ถ้าหนุนก็ไม่เหลือความเป็นคน บอก รัฐประหาร 100 ครั้ง ก็ไม่เลวร้ายเท่าฮั้ว สว. ยกอำนาจให้คนเดียวชี้ขาดประเทศ ย้ำคดีเขากระโดง ต้องเอาผิดให้เด็ดขาด บอก 2-3 เดือน ก็ยุบสภาได้ ไม่ต้องรอ 4 เดือน นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุภายหลังการเจรจากับพรรคประชาชน ที่พรรคร่วมรัฐบาลรับเงื่อนไขทั้งหมดของพรรคประชาชน ว่า จริงๆ เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย กับพรรคประชาชน ตนไปเป็นเพื่อนเขา ส่วนประเด็นเป็นเรื่องของทั้งสองพรรคต้องคุยกัน เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้รับเงื่อนไขทั้งหมดใช่หรือไม่ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ปฏิบัติตามเงื่อนไขของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด ส่วนจะนำข้อหารือระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชน เข้าสู่ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ด้วยหรือไม่ นายเดชอิศม์ ยอมรับว่า อาจอยู่ในวาระอื่นๆ เนื่องจากมีวาระสำคัญอยู่แล้ว เมื่อถามว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับข้อเสนอของพรรคประชาชนและและข้อเสนอเพิ่มเติมของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายเดชอิศม์ ยืนยันว่า […]

ข่าวแนะนำ

เพื่อไทยดันเต็มที่ “ชัยเกษม” แคนดิเดตนายกฯ คนสุดท้าย

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ขอบคุณ สส. เพื่อไทย ที่ยังอยู่กับพรรค พร้อมให้กำลังใจ บอกการต่อสู้ตั้งรัฐบาลยังเดินหน้าต่อ ด้านโฆษก เผยที่ประชุม ดัน “ชัยเกษม” แคนดิเดตนายกฯ คนสุดท้ายเต็มที่ ไม่มียกมือหนุนคนอื่น การประชุม สส. ประจำสัปดาห์ของพรรคเพื่อไทย วันนี้ (2 ก.ย.) โดยมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เข้าร่วมประชุมกับ สส. พรรคด้วย ซึ่งในครั้งนี้มีนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย มาร่วมประชุมด้วย ภายหลังใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า วันนี้มีสมาชิกเข้าร่วมประชุมเยอะมาก ซึ่งสัปดาห์นี้จะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (สส.) 3 วัน ซึ่งวันในวันพุธที่ 3 ก.ย. จะประชุมพิจารณากฎหมายร่วมกัน ส่วนวันพฤหัสบดีที่ 4 ก.ย. จะเป็นการรายงานหน่วยงานต่าง ๆ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

ครม. มอบ 4 รองนายกฯ ทำหน้าที่แทนนายกฯ ไร้คุยปมยุบสภา

ทำเนียบ 2 ก.ย.- “ชูศักดิ์” เผยที่ประชุม ครม. มอบ 4 รองนายกฯ ทำหน้าที่แทนนายกฯ ตามลำดับ ยันไม่มีคุยเรื่องยุบสภา นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ว่า ที่ประชุม ครม.มีมติมอบหมายรองนายกรัฐมนตรี 4 ท่าน ดังนี้ 1.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 2.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน 3.นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 4.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจสังคม โดยทั้ง 4 ท่านจะเป็นรองนายกรัฐมนตรี และทำหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี โดยเรียงลำดับข้างต้น ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ รวมถึงมอบหมายรองนายกฯ เหล่านี้ทำหน้าที่เหมือนที่เคยปฏิบัติมา ทั้งนี้ ยืนยันว่าในที่ประชุม ครม.ในวันนี้ ไม่ได้มีวาระในเรื่องการยุบสภา เป็นการหารือในการประชุม ครม.ตามปกติ นอกจากนี้ […]

มทภ.2 ยัน “ทหาร” ไม่ปฏิวัติ ปล่อยกลไกการเมืองจัดการ

กทม. 2 ก.ย.-มทภ.2 ยัน “ทหาร” ไม่ปฏิวัติ ปล่อยกลไกการเมืองจัดการ เผย ผบ.ทบ. มองการเมืองมีแนวโน้มดี ไม่ยุ่ง เป็นทหารอาชีพ ให้เกียรติฝ่ายการเมือง มอง “แคนดิเดตนายกฯ” อยู่ในวงจำกัด ให้ใช้เวลาที่เหลือ 3-4 เดือน บางอย่างต้องช่วยกันก่อน เชื่อการเมืองมีคนดีอยู่แล้ว พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีการบรรยายนักศึกษาธรรมศาสตร์ ถึงการนำคนดีมาบริหารประเทศ แต่ในสถานการณ์ที่อยู่ระหว่างเลือกนายกฯ ตั้งรัฐบาล และสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เราควรมีผู้นำที่เข้าใจสถานการณ์ในแนวทางใด ว่า ทฤษฎีที่ผมพูดไปคือทฤษฎีที่อยากให้เป็น แต่ความจริงของประเทศไทย ก็ต้องว่าไปตามระบบของประเทศไทยในห้วงเวลานี้ ทหารไม่มีการปฏิวัติอยู่แล้ว ปล่อยให้เป็นไปตามกลไก เราต้องช่วยกันคัดกรองดูว่าอะไรถูกไม่ถูก เราจะเสนอนแอย่างไร อันนี้คือสิ่งที่ผมได้คุยกับน้องๆ เราอยากให้เป็นในอนาคต ส่วนทฤษีและความจริงจะได้ขนาดไหน พวกเราคนไทยทั้งประเทศต้องช่วยกัน เมื่อถามว่าในฐานะที่เป็นเพื่อน ตท.26 กับ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. ได้ฝากและมองสถาการณ์อย่างไรบ้าง พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ท่านก็มองว่าน่าจะมีแนวโน้มไปทิศทางที่ดี กองทัพบกก็พร้อมทำหน้าที่ตัวเอง ไม่ยุ่งกับกระแสการเมืองอยู่แล้ว […]