คณะรวมพลังแผ่นดินฯ เรียกร้อง ป.ป.ช. เร่งส่งคดี ม.144 ให้ศาล

ป.ป.ช. 2 ก.ย.- คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย เรียกร้อง ป.ป.ช. ทำตามอำนาจหน้าที่ เร่งส่งคดี ม.144 ให้ศาล รธน.

คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย เดินทางมายังสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อติดตามเรื่องร้องเรียนที่เคยได้ยื่นไปก่อนหน้านี้ กรณียื่นให้ตรวจสอบการกระทำขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ซึ่งนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ และคณะยื่นให้ตรวจสอบการกระทำของคณะรัฐมนตรี คณะกรรมาธิการงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 สส.และ สว.เนื่องจากคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้คณะกรรมาธิการวิสามัญฯปรับลดงบประมาณสำหรับการชำระหนี้ เพื่อชดเชยต้นทุนเงินจากการให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ชดเชยภาระดอกเบี้ยหรือชดเชยหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ซึ่งเป็นหนี้ตามมาตรา 28 ของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ ที่กำหนดให้รับต้องจัดงบฯ ชดใช้คืนทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย  


และเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบเรื่องจริยธรรมบุคคลที่เกี่ยวข้อง ในกรณีเอื้อประโยชน์ให้กับนายทักษิณ ชินวัตร ไปพักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ทางกลุ่มยังเห็นว่าหาก ป.ป.ช. ไม่ดำเนินการก็จะฟ้องมาตรา 157 เรื่องการละเว้นหรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้นายชาญชัย และแกนนำประมาณ 10 คน ได้เข้าพบกับนายภูเทพ ทวีโชติธนากุล รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.

นายชาญชัย  ระบุว่าหลักฐานครบถ้วนแล้ว ขอให้ ป.ป.ช. พิจารณาลงความเห็นโดยไม่ต้องวินิจฉัย ว่าใครทำถูกผิด ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาวินิจฉัย ขณะนี้สถานการณ์ทางการเมืองมีความซับซ้อน หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งจากกรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ขณะนี้กำลังเร่งพูดคุยเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งแต่ละพรรคการเมืองมุ่งหวังเพื่อประโยชน์ของตัวเองไม่ใช่เพื่อประชาชน ตนจึงทำหนังสือให้ ป.ป.ช.ขอให้ทำตามอำนาจหน้าที่ ระงับยับยั้งสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น ถ้าวันนี้ ป.ป.ช.ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เชื่อว่าศาลจะตัดสินภายใน 15 วัน ก็จะทำให้ สส. ไปทั้งสภา เนื่องจากกระทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 144 เมื่อไม่มี สส. ก็จะตั้งปลัดกระทรวงขึ้นมาทำหน้าที่รักษาการแทนรัฐมนตรีเท่าที่จำเป็น ให้เลือกกันเองขึ้นมาปฎิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี แล้วจัดเลือกตั้งใหม่  


นายชาญชัย ย้ำว่าตามมาตรา 18 เป็นอำนาจของ ป.ป.ช.ที่จะต้องดำเนินการโดยพลัน ขณะเลยเวลาแล้ว จึงถามกลับว่าเป็นละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ เพราะไม่ได้ทำตามที่กฎหมายกำหนด ยืนยันว่าที่มาวันนี้ไม่ต้องการช่วยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแต่ต้องการสร้างระบอบการเมืองใหม่ที่มีคุณธรรม อีกทั้งไม่ได้มากดดัน ป.ป.ช. แต่มาเตือนให้ทำตามอำนาจหน้าที่ หากไม่ทำ ภายในสัปดาห์หน้า ตนเตรียมจะเปิดเผยหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับผู้กระทำความผิดทั้งหมด เชื่อว่าจะมีงานให้ ป.ป.ช. ทำอย่างต่อเนื่อง หากไม่ทำประชาชนจะลุกขึ้นมาปกป้องผลประโยชน์ประเทศต่อไป

ภายหลังการหารือกับรองเลขาธิการประมาณ 1 ชั่วโมง นายชาญชัย ได้ออกมาแถลงกับมวลชนว่า ว่า ทางสำนักงาน ป.ป.ช. ขอเวลาภายในสิ้นเดือนนี้จะแจ้งความคืบหน้าให้กับทางคณะได้ทราบ แต่ถึงอย่างไรเราก็ยังจะทำหน้าที่เป็นกำแพงเหล็กให้กับประเทศต่อไป

นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. ระบุว่า ได้หารือพูดคุยกับรองเลขา ป.ป.ช. เรื่องการกระทำความผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ป.ป.ช.ระบุว่าได้สอบสวนเป็นทางลับมาก เพราะเป็นความสำคัญระหว่างประเทศ เป็นทิศทางของประเทศ ดังนั้นจึงมีความคืบหน้าไปในทางลับมาก ซึ่งจะแจ้งความคืบหน้าทางคดีให้ทราบโดยพลันภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้ รวมแล้วระยะเวลา 5 เดือน ส่วนกรณีชั้น 14 หลังจากได้ติดตามความคืบหน้าหลายครั้ง จนศาลฎีกาได้นำเรื่องนี้มาพิจารณา ซึ่งทราบว่า ป.ป.ช.ได้ส่งสำนวนที่สืบเสาะมาไปให้ศาลฎีกาดำเนินการเช่นเดียวกัน โดยหลังจากที่ศาลฎีกามีคำตัดสินในวันที่ 9 กันยายนนี้ ป.ป.ช.จะรับลูกศาลฎีกา พิจารณามาลงโทษข้าราชการที่เกี่ยวข้องทันที ซึ่งทางกลุ่มก็จะติดตามอย่างใกล้ชิด รวมถึงกรณีจะสามารถเอาผิด พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในขณะนั้นได้หรือไม่


ด้านนาย จตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวว่า ที่พวกเรามาวันนี้ต้องการมาเรียกร้องให้ปปช.ทำหน้าที่ เพราะตามกฎหมายกำหนดให้ปปช. ต้องพิจารณาวินิจฉัยโดยพลันแต่ขณะนี้ผ่านมา 3 เดือนกับ 7 วันแล้วนับแต่ยื่นคำร้องป.ป.ช.ยังไม่ได้มีการส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญถ้าปปช.ยังช้าอยู่ก็จะเป็นการลากประเทศเข้าสู่ทางตันอีกรอบ

“ข่าววันนี้คือ ครม. รักษาการกำลังหารือเรื่องยุบสภา โดยขู่พรรคประชาชนว่าถ้าหากไม่ร่วมกับทางฝ่ายตนก็จะยุบสภาประชาชนอย่าไปกลัว เพราะเรื่องอำนาจยุบสภาวันนี้ยังไม่ชัดเจนถ้านายภูมิธรรม กราบบังคมทูลให้ทรงยุบสภาก็จะมีคนไปร้องศาลปกครองขอคุ้มครองชั่วคราวจากนั้นเขาก็จะร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญและถ้าเห็นว่าไม่มีอำนาจยุบสภานายภูมิธรรมก็จะรู้ว่ามันงามไส้ขนาดไหน เวลานี้ที่มีการเจรจากันอยู่ต่างก็เพื่อผลประโยชน์ส่วนตนไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรกับชาติบ้านเมืองเลยพวกเราบอกว่าแล้วว่า นายกคนใหม่เอาใครก็ได้ที่อยู่ในบัญชีแคนดิเดตนายกแต่ไม่ใช่แคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทยดังนั้นใครจะมาใส่ร้ายว่าเราสร้างทางตันไม่ได้”

นายจตุพร ยังระบุด้วยว่าในส่วนของสำนวนคดีงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับคดีงบประมาณเหลืออยู่ 2 สำนวนคือสำนวนที่มีการกล่าวหานายประเสริฐจันทะรวงทองและส.สพรรคเพื่อไทยรวม 50 คน ในการใช้งบประมาณภัยแล้งลักษณะเดียวกับกรณีนายพิเชษฐ์เชื้อเมืองพาน และคดีที่นายชาญชัยและพวก ยื่นร้องคณะรัฐมนตรี สส. สว. กรรมาธิการฯ ซึ่งเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเงินของธกส.ทั้งเงินต้นที่มาจากการกู้ ดอกเบี้ยและเงินที่กฎหมายกำหนดห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144 จำนวน 3.5 หมื่นล้านบาท แต่เรื่องถูกดองเน่าอยู่ที่ป.ป.ช.นี้ ทั้งนี้นายชาญชัยได้มีการส่งพยานหลักฐานเอกสารต่างๆสนับสนุนคำร้องให้กับป.ป.ช.ชนิดที่ไม่มีอะไรที่ป.ป.ช.ต้องการแล้ว นายชาญชัยจัดให้ไม่ได้ ดังนั้นป.ป.ชจะอ้างว่ายังขาดพยานหลักฐานไม่ได้ มองว่าที่ขาดมีเพียงอย่างเดียวคือความรับผิดชอบและถ้ายังขาดความรับผิดชอบ ตนขอกล่าวหาว่าปปชขาดความเป็นมนุษย์ที่มีความรักชาติบ้านเมือง

“กฎหมายไม่ได้ให้ป.ป.ช.ตัดสินวินิจฉัย เพียงแค่เห็นว่ามีมูลก็ให้ส่งไปศาลรัฐธรรมนูญ หน้าที่ตัดสินวินิจฉัยเป็นของศาลรัฐธรรมนูญ เรามาวันนี้จึงไม่ได้มาขอให้ป.ป.ช.ทำผิดกฎหมายแต่มาขอให้ทำหน้าที่ตามกฎหมายถ้าทำหน้าที่ตามกฎหมายไม่ได้ประเทศนี้ก็อย่ามีป.ป.ช.อีกเลยเพราะมีค่าเท่ากัน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก ถ้าป.ป.ชจัดการไปก่อนหน้านี้ ปัญหาบ้านเมืองณ.ขณะนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น

นายจตุพร ยังมองว่า สถานการณ์ขณะนี้เหมือนแต่ละฝ่ายกำลังนำประเทศมาละเลงเล่น เพราะข้อเสนอยุบสภาใน 4 เดือนมันขยายได้และจะกลายเป็น 9 เดือนเหมือนที่มีการพูดกัน ซึ่งความจริงเรื่องที่มันใหญ่และเราต้องการก็คือการจบศึกกับกัมพูชาถ้ามันเจรจาไม่ได้ก็ลบกันอีกถ้าจะเจรจาก็ต้องเอาคนที่ไม่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องเข้ามาเป็นผู้ปกครองประเทศแต่ถ้าได้คนที่อยู่ภายใต้อาณัติของคลิป ภายใต้อำนาจของผลประโยชน์เราก็จะไม่มีวันจบเรื่องกัมพูชาได้ท้ายสุดก็จะพอกปัญหาเหมือน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เวลานี้ 21 ปีแล้วปัญหายังไม่จบ ดังนั้นปปช.หยุดความเสียหายของประเทศชาติได้ และนี่จะถือว่าเป็นการสื่อความต่อ ป.ป.ช. ครั้งสุดท้ายเพราะถ้ายังคงล่าช้าอยู่ก็จะมีการแจ้งความดำเนินคดีฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่กับ ป.ป.ช.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

เปิดแนวต้านน้ำหล่มสัก ผลักดันแผนแก้น้ำท่วมซ้ำซาก

เพชรบูรณ์ 22 ก.ย. – แม้ว่าน้ำที่ท่วมชุมชนและย่านการค้าในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก ที่เพชรบูรณ์ จะลดลงแล้ว แต่ทิ้งความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะย่านการค้าเก่าแก่ที่เจอน้ำท่วม 2 รอบในช่วง 3 สัปดาห์ เรียกว่ายังไม่ทันได้ฟื้นฟูความเสียหายจากน้ำท่วมรอบแรกเสร็จ ต้องมาเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะที่หลายคนกังวลและต้องเตรียมรับมือกับพายุที่คาดว่าจะเข้ามาในช่วงปลายสัปดาห์นี้ พร้อมเรียกร้องให้เร่งป้องกันและหาแนวทาง แก้ปัญหาระยะยาว ไม่ให้หล่มสักกลายเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก .-สำนักข่าวไทย

ฝนถล่มเชียงใหม่ ประกาศปิดน้ำตกแม่สา ส่วนวัดผาลาด เตือนน้ำป่าหลาก

เชียงใหม่ 22 ก.ย.-ฝนถล่มเชียงใหม่ อุทยานฯ ดอยสุเทพ-ปุย ประกาศปิดน้ำตกแม่สา อ.แม่ริม ชั่วคราว หลังน้ำป่าไหลหลาก ส่วนวัดผาลาด แจ้งเตือนชาวบ้านรับมือน้ำป่าหลากลงน้ำตกผาลาด ช่วงบ่ายวันนี้ ( 22 กันยายน) เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ เพจเฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ได้โพสต์ข้อความประกาศปิดน้ำตกแม่สา ในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เนื่องจากเกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากลงมาจนน้ำมีสีน้ำตาลขุ่น กระแสน้ำไหลแรงและเชี่ยวกราก โดยจะปิดน้ำตกแม่สาตั้งแต่วันนี้จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ขณะที่พระมหาสง่า ไชยวงค์ เจ้าอาวาสวัดผาลาด ก็ได้โพสต์คลิปภาพวิดีโอ พร้อมข้อความ “มวลน้ำจากยอดดอยกำลังผ่านวัดผาลาด ญาติโยมด้านล่างช่วงนี้ก็เฝ้าไว้เน้อ” ซึ่งทางวัดผาลาดจะมีการแจ้งเตือนชาวบ้านที่อยู่ใกล้ทางน้ำไหลน้ำตกผาลาด และบริเวณเชิงดอยสุเทพในตัวเมืองเชียงใหม่ ให้เฝ้าระวังน้ำป่าที่ไหลผ่านวัดลงสู่ด้านล่างทุกครั้ง สำหรับวัดผาลาดตั้งอยู่บริเวณทางขึ้นดอยสุเทพ และมีน้ำตกผาลาดไหลผ่านพื้นที่วัดช่วงที่เกิดฝนตกหนัก จะมีน้ำป่าไหลหลากจากบนดอยสุเทพผ่านน้ำตกผาลาด ก่อนจะไหลลงสู่พื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่.-สำนักข่าวไทย

กองทัพไทย ย้ำบ้านหนองหญ้าแก้วอยู่เขตแดนไทย ชี้ JBC รับรองแล้ว

กทม. 22 ก.ย.- กองทัพไทย ย้ำบ้านหนองหญ้าแก้วอยู่เขตแดนไทย ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน ชี้ JBC รับรองแล้ว สอดคล้อง MOU 2543 พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยถึงประเด็นหลักเขตแดนที่ 42 และ 43 ในพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้วว่า หลักเขตแดนที่ 42 ตั้งอยู่ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว (บ้านไปรจัน) ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว และหลักเขตแดนที่ 43 ตั้งอยู่ที่บ้านโนนหมากมุ่น ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยการกำหนดแนวเขตแดนในพื้นที่ดังกล่าวเป็นเส้นตรงจากหลักเขตแดนที่ 41 มายังหลักเขตแดนที่ 42 และต่อเนื่องไปยังหลักเขตแดนที่ 43 จากนั้นแนวเขตแดนจะไปตามคลองระลมระสือจนถึงหลักเขตแดนที่ 44 สำหรับกระบวนการสำรวจ ชุดสำรวจร่วมไทย–กัมพูชาได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่ 1 ของ TOR คือ การสำรวจสภาพ และที่ตั้งของหลักเขตแดนทั้งหมด 74 หลัก ตั้งแต่ปี พ.ศ. […]

ทีมทนายวัดนาป่าพง หอบเอกสารเข้าพบกองปราบ

22 ก.ย.- ทีมทนายวัดนาป่าพง หอบเอกสารเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบ ขณะที่สีกาเยอรมนีเตรียมนั่งเครื่องเข้าพบตำรวจ 2 ต.ค.นี้ หลังจากที่นายนันทน อินทนนท์ ทนายความวัดนาป่าพง จ.ปทุมธานี พร้อมทีมทนายความ ได้มีการตั้งโต๊ะแถลงชี้แจงประเด็นที่ น.ส.ทองใหม่ ขวัญหมื่น หรือ ทนายอุ้ม ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากสีกาจากประเทศเยอรมนี เข้ามาร้องเรียนที่กองบังคับการปราบปราม กล่าวหาว่า พระคึกฤทธิ์ ยักยอกเงินวัด ก่อนนำมาฟอกกับมูลนิธิพุทธวจนที่ประเทศเยอรมนีนั้น ความเคลื่อนไหวล่าสุดวันนี้ (22 ก.ย.68) เวลา 10.00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม กองกำกับการ 2 นายนันทน อินทนนท์ ทนายความวัดนาป่าพง จ.ปทุมธานี และทีมทนายความ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน โดยนำเอกสารเป็นพยานหลักฐานเกี่ยวกับเส้นเงิน เงินบริจาคภายในวัด มามอบให้กับพนักงานสอบสวน เพื่อชี้แจงในประเด็นต่างๆ โดยใช้เวลาในการชี้แจงกับพนักงานสอบสวนไม่ถึง 1 ชั่วโมง ก่อนจะเดินทางกลับทันที และไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด หลังจากนั้นทีมข่าวได้ติดต่อไปที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดนาป่าพง โดยเฉพาะเงินที่เปิดรับบริจาคทั่วประเทศ หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีความผิดจริง […]