รัฐมนตรีเศรษฐกิจจับมือดับเครื่องชนปัญหาเศรษฐกิจ

สโมสรทหารบก 26 ส.ค. – รัฐมนตรีคลังยืนยันรัฐบาลผสมขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจ ท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจโลกชะลอตัว เตรียมจัดสรรงบปี 64 ปรับเปลี่ยนประเทศ ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ขณะที่พาณิชย์เดินหน้าประกันราคาสินค้าเกษตรข้าว ปาล์มน้ำมัน เสนอ ครม.พิจารณาวันนี้  ภายในสิ้นปี 62 จะใช้น้ำมันบี 10 เป็นภาคบังคับ 



นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  กล่าวในงานสัมมนา “ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจไทย ภายใต้รัฐบาลใหม่”  จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ว่า  จุดแข็งของรัฐบาลผสม คือ การนำนโยบายหลายพรรคมาหลอมรวมให้เป็นหนึ่งเดียวได้แถลงต่อสภา  แม้จะเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำเชื่อมั่นว่าจะบริหารนโยบายเศรษฐกิจต่อไปได้ เพราะรัฐบาลผสมบริหารผ่านมาหลายสมัย จากพรรค ปชป.เป็นแกนนำโดยนายชวน หลีกภัย รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำจึงไม่เป็นปัญหาสำหรับรัฐบาลชุดปัจจุบัน 


อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกชะลอตัวกระทบไปยังหลายประเทศ ส่งผลต่อเงินบาทแข็งค่า การนำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมาอัดฉีดเงินกว่า 300,000 ล้านบาท คาดว่าจะผลักดันให้จีดีพีโตมากกว่าร้อยละ 3 ผ่านการดูแลราคาสินค้าเกษตร และการผลักดันการส่งออก ด้วยการประกันรายได้สินค้าเกษตร ข้าวเปลือก มันสำปะหลัง ยางพารา ข้าวโพด  ส่วนปาล์มน้ำมัน กิโลกรัมละ 4 บาท ใช้เงิน 10,000 ล้านบาท เตรียมเสนอ ครม.วันนี้ (27 ส.ค.) พร้อมกับประกันราคาข้าวเปลือก  ภายในสิ้นปี 2562 จะใช้น้ำมันบี 10 เป็นภาคบังคับ เพิ่มความต้องการใช้น้ำมันปาล์ม ราคาปาล์มน้ำมันพุ่งเป็น 3.2 บาทต่อกิโลกรัมแล้วขณะนี้ ลดปัญหาลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์ม 

ทั้งนี้ ตัวเลขการส่งออกเดือนกรกฎาคมเพิ่มร้อยละ 4.28 โดยพยายามไม่ให้ชะลอตัว  ดังนั้น เพื่อให้ตัวเลขส่งออกเดินหน้าต่อไปได้ กระทรวงพาณิชย์จะเร่งรัดการส่งออก โดยอาศัยภาคเอกชนเป็นทัพหน้าบุกตลาดต่างประเทศ การตั้งวอร์รูมในทีม กรอ.พาณิชย์ ทั้งข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา เพื่อฟื้นตลาดเก่าไม่ให้สูญเสียไป จึงมุ่งฟื้นสัมพันธ์ตลาดอิรักดึงตลาดกลับมาส่งออกให้เหมือนเดิม  จัดเวทีผู้นำเข้าฟิลิปปินส์รู้จักกับเอกชนไทย เพิ่มแผนส่งออกข้าวเพิ่มขึ้น การปรับปรุงท่อนพันธุ์มันสำปะหลัง เปิดตลาดจีนตอนใต้ และอินเดียที่ต้องการมันสำปะหลังผลิตเครื่องปรุงรส  เตรียมบุกตลาดนิวซีแลนด์ ส่งออกอาหารสัตว์ ส่วนยางพาราผลิตภัณฑ์ยางตลาดยังต้องการสูงมาก  หวังเพิ่มมูลค่าส่งออก พร้อมยกเครื่องทูตพาณิชย์มืออาชีพเป็นพนักงานขายกิตติมศักดิ์ของไทยเพื่อดูแลเอกชน  นัดประชุมรับนโยบาย 28 สิงหาคมนี้ เพื่อเจาะตลาดเป้าหมาย   


นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง  กล่าวในงานสัมมนาว่า ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลผสมได้ย้ำกับนักลงทุนต่างชาติตลอดว่า รัฐบาลขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจ เพื่อแก้ปัญหาในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ยอมรับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกมีปัญหาส่งผลต่อตลาดหุ้นทั่วโลก ความท้าทายจากความเสี่ยงที่เกิดขึ้นขณะนี้ไทยอาจต้องเผชิญปัญหาดังกล่าวไปอีกระยะหนึ่ง  สำหรับระยะสั้นเริ่มส่งผลต่อไทยด้านการส่งออก ขณะที่ต่างชาติอย่างเช่น มูส์ดี้ และฟิทช์  เรตติ้ง มองว่าฐานะทางการคลังมั่นคง การใช้นโยบายยืดหยุ่นบริหารการเงินการคลัง  การขับเคลื่อนนโยบายสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีข้างหน้า 

ส่วนการดูแลระยะสั้น ได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งการดูแลผู้ถือบัตรสวัสดิการ เกษตรกร ด้านการท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันเศรษฐกิจไทยให้หมุนเวียนต่อไปไม่หยัดชะงัก สร้างความเชื่อมั่นกับรายย่อย เอสเอ็มอี ให้มีกำลังซื้อ กำลังลงทุนเพิ่มขึ้น หวังไม่ให้เศรษฐกิจตกท้องช้าง จึงต้องประคองด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ “ตรงจุด รวดเร็ว ทันการณ์ โปร่งใส”  หากเศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้นปีหน้า เมื่อประชาชนมีกำลังซื้อเพิ่ม รัฐบาลเตรียมจัดสรรงบประมาณปี 2564 เพื่อปรับเปลี่ยนประเทศ  เดินหน้าทำข้อตกลงทางการค้าเสรีกับประเทศคู่ค้า  เดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐานตามแผนที่กำหนด

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังพร้อมให้ความสำคัญพัฒนาด้านสังคม อุตสาหกรรมทางการแพทย์ สาธาณสุข เตรียมดึงภาคเอกชนมาลงทุนด้านอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร เพื่อนำเทคโนโลยีมาเผยแพร่ในไทย ผ่านการส่งเสริมจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) การเน้นดูแลสังคมผู้สูงวัยรองรับสังคมผู้สูงอายุ นอกจากนี้ ยังหารือกับกระทรวงคมนาคมจัดหาแหล่งทุนไปลงทุนในโครงการสำคัญ รัฐบาลเตรียมเน้นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้พร้อมรองรับการลงทุนของต่างชาติที่เตรียมหลั่งไหลเข้ามาลงทุน 

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ยอมรับว่าขณะนี้เครื่องยนต์เศรษฐกิจไทยอาจเสื่อมสภาพไปบ้าง  เพื่อให้เครื่องยนต์แล่นไปข้างหน้า จึงต้องนำพาด้วยเทคโนโลยียุคใหม่ผลักดันให้เกิดอุตสาหกรรม 4.0 ด้วยการพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม การสร้างเกษตรแปรรูปพันธุ์ใหม่ วางขายบนตลาดออนไลน์ ส่งเสริมการเติมทุนให้เอสเอ็มอี หาช่องทางดูแลเอสเอ็มอีขนาดเล็ก เข้าถึงแหล่งทุนดูจากความเป็นไปได้โครงการเป็นหลัก นอกจากหลักประกันสินเชื่อวงเงินกู้ไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อราย  คิดดอกเบี้ยร้อยละ 7 ผ่อนชำระไม่เกิน 7 ปี การส่งเสริมเขตเศรษฐกิจ  การส่งเสริมสถานประกอบการ 4.0 ส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน การชำระค่าบริการผ่านออนไลน์ การใช้ระบบดิจิทัลปฏิรูปภาคอุตสาหกรรม จากความท้ายทายเศรษฐกิจโลก จึงต้องเร่งขับเคลื่อนการพัฒนาให้แข่งขันสูงขึ้นกับการเปลี่ยนแปลงของโลก .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

ตาวัย 71 ปี ขับรถพุ่งชนรถพ่วงเสียชีวิต

สมุทรสงคราม 13 ก.ค.-ตาวัย 71 ปี ขับเก๋งพุ่งชนกลางลำรถพ่วงบรรทุกเสาเข็มขณะกำลังกลับรถ เสียชีวิตบนถนนสมุทรสงครามบางแพ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม กล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะรถพ่วงบรรทุกเสาเข็มกำลังกลับรถทำให้ตัวรถขวางถนน จังหวะนั้นรถเก๋ง ขับมาด้วยความเร็ว พุ่งชนเข้ากลางลำรถพ่วง เหตุเกิดบนถนนสมุทรสงครามบางแพ บริเวณจุดกลับรถหน้าโรงบรรจุแก๊สหุงต้ม ฝั่งขาเข้าแม่กลอง ม.9 ต.บางช้าง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ช่วงเวลา 19.18 น.วานนี้ (12 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อัมพวา รับแจ้ง จึงเข้าตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย ที่เกิดเหตุพบนายชาญพินิต ส่งชัย อายุ 71 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร คาดเข็มขัดนิรภัย นั่งหมดสติไม่รู้สึกตัวบนเบาะคนขับ เจ้าหน้าที่ต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างประมาณ 5 นาที กว่าจะนำร่างนายชาญพินิต ออกมาและพยายามปั๊มหัวใจช่วยชีวิต แต่นายชาญพินิต เสียชีวิตแล้ว ใกล้กันพบรถพ่วง 22 ล้อ ลูกพ่วงไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดขวางถนนในลักษณะกำลังกลับรถ บริเวณล้อหลังรถพ่วงมี 3 เพลา รวม 12 ล้อ […]

เตรียมขอข้อมูลเส้นทางการเงิน 4 วัดดัง

13 ก.ค. – ตำรวจเตรียมขอข้อมูลเส้นทางการเงิน 4 วัดดัง เข้าข่ายยักยอกเงินวัด โอนให้สีกา ก. หรือไม่ พบเจ้าอาวาสหนึ่งใน 4 วัด โอนกว่า 1 ล้านบาท ความคืบหน้าการตรวจสอบเส้นทางการเงินของสีกา ก. จากข้อมูลการสืบสวน ตำรวจเตรียมขอความร่วมมือเข้าตรวจสอบวัดที่พบว่ามีความเกี่ยวข้อง 4 วัด ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ได้แก่ วัดชูจิตธรรมาราม พระอารามหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา, วัดใหญ่จอมปราสาท จ.สมุทรสาคร, วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร กรุงเทพมหานคร ขอตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระชั้นผู้ใหญ่และบัญชีวัด เพื่อหาข้อเท็จจริงว่าเงินที่โอนให้สีกา ก. เป็นเงินส่วนตัวหรือเงินวัด หลังพบว่าพระบางรูปที่มีความสัมพันธ์กับสีกา ก. รวบอำนาจการบริหารจัดการเงินของวัดเพื่อให้ทำธุรกรรมได้สะดวก โดยเฉพาะเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท พบเส้นทางการเงินโอนให้สีกา ก. 2 บัญชี เป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท ส่วนพระรูปอื่นๆ ที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ ส่วนสีกา ก. จะมีเจตนาในการข่มขู่รีดไถเงินจากพระหรือไม่ ทางการสอบสวนยังไม่พบหลักฐานชัดเจนเพราะเป็นรสนิยมส่วนตัว โดยพุ่งเป้าเข้าหาพระชั้นผู้ใหญ่ เพื่อมีความสัมพันธ์และนำเงินมาใช้ส่วนตัว […]

รัฐผ่อนปรนรถบัสสองชั้น 6 เส้นทางเสี่ยง เริ่ม 21 ก.ค.นี้

ทำเนียบ 13 ก.ค.-รัฐผ่อนปรนรถบัสสองชั้น 6 เส้นทางเสี่ยง เริ่ม 21 ก.ค.นี้ พร้อมคุมเข้มมาตรฐานความปลอดภัยทุกขั้นตอน เพื่อความปลอดภัยของประชาชน นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า รัฐบาลโดยกรมขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ได้มีการผ่อนปรนให้รถโดยสารสองชั้นสามารถวิ่งใน 6 เส้นทางได้เป็นการชั่วคราว เป็นระยะเวลา 180 วัน โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป ดังนี้ 1.ทางหลวงหมายเลข 4 ช่วงเขาพับผ้า-พัทลุง 2.ทางหลวงหมายเลข 103 ช่วงแม่ยางฮ่อ-แม่ตีบ 3.ทางหลวงหมายเลข 118 ช่วงเชียงใหม่-ดอยนางแก้ว 4.ทางหลวงหมายเลข 2013 ช่วงบ่อโพธิ์-โคกงาม 5.ทางหลวงหมายเลข 2331 ช่วงโจ๊ะโหวะ-อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า และ 6.ทางหลวงหมายเลข 1256 ช่วงปัว- อุทยานแห่งชาติดอยภูคา โดยผู้ประกอบการที่ประสงค์จะเดินรถโดยสารสองชั้น ในเส้นทางผ่อนปรนดังกล่าว จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขอย่างเคร่งครัด ดังนี้ 1.นำรถเข้ารับการตรวจสภาพ (Recall) ณ […]

เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

กทม. 13 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะภาคเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 6 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยและคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 12-13 กรกฎาคม 2568) ในวันที่ 13 กรกฎาคม 2568 ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งโดยเฉพาะภาคเหนือบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก มีดังนี้ ในวันที่ 13 กรกฎาคม […]