สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย 25 ส.ค.- “เทวัญ” ชี้ กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคฉบับใหม่ เพิ่มดาบฟันผิดผู้ประกอบการโฆษณาเกินจริง ปรับ 100,000 บาท เพิ่มอำนาจ สคบ.ส่งฟ้องได้โดยไม่ต้องมีผู้ร้อง รัฐเน้นดูเรื่องสินค้าออนไลน์ ด้าน “สารี อ๋องสมหวัง” เผยมีองค์กรผี ยื่นขอจัดตั้งสภาองค์กรผู้บริโภค ย้ำ สภาองค์กรผู้บริโภคต้องไม่ถูกแทรกแซงโดยรัฐ เอกชน หรือการเมือง
นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานพร้อมปาฐกถาพิเศษในกิจกรรมราชดำเนินเสวนา หัวข้อ “ผ่า พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภคฉบับใหม่ : สังคมได้อะไร” ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เป็นผู้จัดงานเสวนา ซึ่งวันนี้ นับเป็นวันแรกที่บังคับใช้ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2562 โดยมีวิทยากรร่วมเสวนา อย่าง นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ด้วย
นายเทวัญ กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ให้เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และดูแลงานสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ซึ่งเป็นสำนักงานที่มีความหมายมาก เพราะทุกคนอยู่กับการบริโภค บางครั้งเราถูกเอาเปรียบจากผู้ประกอบการ ซื้อสินค้าไม่ได้ของก็มี ซื้อสินค้าได้ของไม่มีคุณภาพก็มี ซื้อสินค้าได้ของไม่ครบก็มี อย่างสินค้าออนไลน์มีผู้ร้องเรียนหลายพันราย ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาก็มีผู้ร้องเรียนเรื่องซื้อคอนโดแล้วไม่มีคุณภาพ ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ก็พยายามให้ความยุติธรรมกับผู้บริโภคและผู้ประกอบการ ส่วนตัวเคยโดนเรื่องแบบนี้ เมื่อครั้งที่ตนซื้อรถเบนซ์ 500E เสียบปลั๊กแล้วใช้ได้ 35 กิโลเมตร แต่ตนวิ่งได้จริงแค่ 12 กิโลเมตร มาทราบภายหลังว่ามีข้อจำกัดว่า ต้องไม่เปิดแอร์จึงจะวิ่งได้ถึง 35 กิโลเมตร
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภคนั้น มีการพัฒนาและแก้ไขมาหลายครั้ง ให้ดีขึ้นและรวดเร็วขึ้น สคบ.จะได้ทำงานเร็วขึ้น ผู้ประกอบการเอาเปรียบผู้บริโภคน้อยลง สิ่งแรกที่เห็นชัดเจนคือ โครงสร้างของบอร์ด สคบ. เดิมทีกฎหมายเก่า มีเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้ทรงคุณวุฒิที่เขียนกว้าง ๆ อยู่ในบอร์ด แต่กฎหมายใหม่ไม่มีเลขาธิการนายกรัฐมนตรีแล้ว พร้อมกำหนดให้ผู้ทรงคุณวุฒิมาจากผู้เชี่ยวชาญด้านคุ้มครองผู้บริโภค ภาคประชาชน ภาคผู้ประกอบกิจการ และภาควิชาการ นอกจากนี้ ให้อำนาจ สคบ.เป็นผู้ตัดสินใจในปัญหาต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น อาหารพืช บางครั้งเขียนว่า อาหารพืช แต่จริง ๆ คือ ปุ๋ย ก็มีการถกเถียงว่าใครเป็นผู้ดูแล ซึ่ง สคบ.จะเป็นผู้ตัดสินว่าใครคือผู้ดูแล
นายเทวัญ กล่าวว่า การโฆษณาต้องถูกต้องและเป็นธรรม อย่าง น้ำยาล้างจาน ที่ล้างได้ 1,000 ใบ หากเป็นกฎหมายเดิมต้องพิสูจน์ว่าล้างได้ 1,000 ใบหรือไม่ แต่กฎหมายใหม่ไม่ต้องพิสูจน์ แค่สงสัยว่าโฆษณาดังกล่าวเกินความเป็นจริง สคบ.ก็สามารถเข้าไประงับแก้ไขการโฆษณาให้ถูกต้องได้ โดยไม่ต้องรอให้มีการดำเนินคดี หรือ บัตรพลังงานที่เคยมีข่าวว่ารักษาอาการป่วยได้ กฎหมายฉบับใหม่ แค่สันนิษฐานว่าไม่ถูกต้อง ก็ระงับการโฆษณาได้
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กฎหมายฉบับใหม่ ยังคุ้มครองถึงเรื่องความปลอดภัย เพราะเป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการที่มีหน้าที่ป้องกันและเฝ้าระวังไม่ให้สินค้าของตนเองเป็นอันตราย ผู้ประกอบการต้องแจ้งเตือนผู้ประกอบการธุรกิจอื่น ๆ ด้วยว่าสินค้าดังกล่าวเป็นสินค้าอันตราย ขณะที่การฟ้องคดี ในสมัยก่อนจะต้องเป็นมติของบอร์ด สคบ.ในการฟ้อง แต่กฎหมายใหม่กำหนดว่า หากเล็งเห็นว่าจะเกิดความเสียหาย เลขาธิการ สคบ.สามารถดำเนินการฟ้องได้ตามระเบียบที่บอร์ดให้ไว้กับเลขาธิการ สคบ.ว่าอะไรที่ฟ้องได้ อะไรที่เร่งด่วน แล้วเลขาธิการ สคบ.จะนำเรื่องดังกล่าวมาแจ้งให้บอร์ด สคบ.ทราบในภายหลัง นอกจากนี้ ยังเพิ่มโทษผู้ประกอบการที่เอารัดเอาเปรียบ ผลิตสินค้าไม่ได้คุณภาพ เช่น การโฆษณาอันเป็นเท็จ กฎหมายใหม่ กำหนดโทษปรับ 1 แสนบาท จากเดิมกำหนดไว้เพียง 50,000 บาท เป็นต้น
นายเทวัญ กล่าวอีกว่า กฎหมายใหม่ยังให้โอกาสเอกชนหรือประชาชนรวมตัวกัน 10 คนจดตั้งเป็นองค์กรคุ้มครองผู้บริโภค ที่ทำเนียบรัฐบาล หรือจังหวัด เมื่อรวมตัวกันได้ 100 คนก็ไปจดตั้งเป็นสภาองค์กรผู้บริโภคเพื่อเป็นหน่วยงานที่ทำงานเหมือนกับ สคบ.ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางให้กับผู้บริโภคได้ โดยรัฐบาลจะมอบเงิน 350 ล้านบาทเป็นเงินตั้งต้นให้กับสภาองค์กรผู้บริโภค อย่างไรก็ตามการร้องเรียนต่าง ๆ ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการด้วย เพราะผู้ประกอบการมีส่วนสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจของประเทศชาติ แต่หากเห็นชัดว่า ผู้ประกอบการดำเนินการไม่ถูกต้องก็ต้องดำเนินการ เบื้องต้นก็เรียกมาไกล่เกลี่ยพูดคุยกันก่อน หากผู้ประกอบการไม่แก้ไข สคบ.ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป เป็นความพยายามแก้ปัญหาให้กับผู้บริโภค ซึ่งปัจจุบันผู้บริโภคซื้อของออนไลน์เป็นประจำ และเป็นนโยบายของรัฐบาลที่จะเน้นดูเรื่องสินค้าออนไลน์เช่นเดียวกัน สิ่งสำคัญที่สุดของ สคบ.คือความรวดเร็วในการดำเนินการให้กับผู้บริโภค
ด้านนางสาวสารี กล่าวว่า เชื่อว่า การบิดพริ้วของผู้ประกอบการจะน้อยลงภายใต้กฎหมายใหม่ เพราะจุดแข็งของกฎหมายฉบับใหม่ ให้อำนาจ สคบ.สามารถฟ้องคดีได้แทน และแจ้งความได้เลยโดยไม่ต้องมีผู้ร้องเรียน และยังมีบางประเด็นที่ผิดหวังต่อกฎหมายฉบับนี้ ที่ยังไม่สอดคล้องกับสิทธิระหว่างประเทศ แม้จะมีการปรับแก้กฎหมาย แต่ก็ยังมีสิทธิ์คุ้มครองบางประการที่ไทยคุ้มครองน้อยกว่าประเทศอาเซียน เช่น สิทธิในการอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี สิทธิในการสื่อสารอย่างอิสระเสรี
นางสาวเสรี กล่าวว่า การตั้งสภาองค์กรผู้บริโภค ไม่ได้ทำให้ สคบ.หายตัว แต่กลับทำให้ สคบ.เข้มแข็งมากขึ้น เนื่องจากเกิดข้อต่อความร่วมมือระหว่างกัน เพื่อเข้าไปเป็นตัวแทนของผู้บริโภคในการให้ข้อคิดเห็นต่อการทำนโยบายของรัฐบาล ซึ่งขณะนี้มีกว่า 500 องค์กร ที่จะต้องยื่นขอจัดตั้งสภาองค์กรผู้บริโภค มีองค์กรแปลก ๆ ที่รับมอบอำนาจมา ซึ่งส่วนตัวไม่อยากเรียกว่า องค์กรผี หรือ องค์กรแอบแฝง สภาองค์กรผู้บริโภคต้องไม่ถูกแทรกแซงโดยรัฐ เอกชน หรือการเมือง อยากเห็นการทำงานเป็นองค์กรเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง เพราะสภามีวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งเพื่อทำงาน ไม่ใช่รับใช้ธุรกิจและตนอยากเห็นการทำงานอย่าตรงไปตรงมา.-สำนักข่าวไทย