ขโมยอุปกรณ์ยึดเหนี่ยวรางรถไฟ ทำรถไฟตกราง

ประจวบคีรีขันธ์ 20 ส.ค. – ทีมข่าวสำนักข่าวไทยลงพื้นที่ตรวจสอบอุปกรณ์ยึดเหนี่ยวรางรถไฟหาย หลังจากรถไฟตกรางช่วงชะอำ-หัวหิน วานนี้ สาเหตุพบว่าแผ่นรองราง เครื่องยึดเหนี่ยวรางถูกขโมยไปขายที่ร้านรับซื้อของเก่าจำนวนมาก ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจภาค 7 ยืนยันคดีนี้เป็นการขโมยแผ่นรองรางรถไฟ ไม่ได้เกิดจากการวินาศกรรม 


จากการตรวจสอบพบว่าหมอนไม้เสียหายไปทั้งหมด 21 ท่อน แผ่นรองรางรถไฟ 40 แผ่น และเครื่องยึดเหนี่ยวราง หรือตะปูรางที่ใช้ยึดระหว่างแผ่นรองรางกับหมอนไม้ 84 ตัว หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทยเร่งซ่อมแซมราง โดยเปลี่ยนหมอนรางรถไฟใหม่เป็นหมอนคอนกรีตแล้ว ไม่ต้องใช้แผ่นเหล็กจานรองและตะปูยึดรางแบบเดิมที่หายไปอีก ขณะนี้เปิดเดินรถได้ตามปกติ ขบวนรถไฟสายแรกเดินรถได้ตั้งแต่เวลา 02.25 น.ของวันนี้


วิศวกรที่ดูแลรางรถไฟเผยว่า ลักษณะของแผ่นรองรางรถไฟหนักประมาณ 7-8  กิโลกรัม ตัวนอตหนักครึ่งกิโลกรัม ยาวประมาณ 20 เซนติเมตร การถอดหรือการงัดชิ้นส่วนออกจากกันไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้เครื่องมือชนิดพิเศษที่มีเฉพาะการรถไฟฯ เท่านั้น แต่จุดเกิดเหตุเป็นหมอนไม้ที่ค่อนข้างเก่า ซึ่งการรถไฟมีแผนจะทำการเปลี่ยนใหม่ แต่เกิดเหตุขึ้นเสียก่อน


ทีมข่าวลงพื้นที่ร้านรับซื้อของเก่าแห่งหนึ่งริมถนนเพชรเกษม ขาล่องใต้ ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายนำของกลางทั้งหมดไปขาย ลักษณะเป็นบ้านและทำเป็นร้านรับซื้อของเก่า ล้อมรั้วสูง วันนี้ปิดเงียบ ไม่มีคนอยู่ มองผ่านรั้วเข้าไปมีเพียงรถบรรทุก 1 คัน จอดอยู่ และของเก่าจำนวนมาก 

เจ้าของร้านรับซื้อของเก่า และชายที่ขับกระบะนำของกลางมาขาย ถูกตำรวจจับกุมและยึดของกลางแผ่นรองรางรถไฟ 25 แผ่น นอตหรือตะปูราง 66 ตัว จากการสอบปากคำเจ้าของร้านบอกว่า รับซื้อไว้ในราคากิโลกรัมละ 2 บาท ส่วนผู้ต้องหาที่นำของกลางมาขายให้การว่า พบของกลางทั้งหมดตกอยู่ข้างรางรถไฟจึงเก็บมาขาย แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ ผู้บัญชาการตำรวจภาค 7 ยืนยันคดีนี้เป็นการขโมยแผ่นรอง ไม่ได้เกิดจากการวินาศกรรม 

เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ และรับของโจร แต่เจ้าของร้านยังให้การปฏิเสธในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ และให้การภาคเสธในข้อหารับของโจร ส่วนคนร้ายอีก 1 คน ตำรวจเร่งติดตามหาตัวมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด. – สำนักข่าวไทย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผบช.ภาค 7 ยันรถไฟตกรางชะอำไม่ใช่วินาศกรรม จับผู้ลักทรัพย์ได้

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

ทุจริตยาโรงพยาบาล

ปปป.เตรียมระดมพลร่วมทำคดีทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ปปป.เตรียมระดมพนักงานสอบสวนในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมทำคดีทุจริตยาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลทหารผ่านศึก พร้อมเตรียมลงพื้นที่ลพบุรี สอบผู้ป่วยกว่า 100 คน ว่าใช่ผู้ป่วยที่แท้จริง มีความจำเป็นต้องใช้ยาหรือไม่ ในเร็ว ๆ นี้

ตร.ไซเบอร์เร่งสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์

ตำรวจไซเบอร์อยู่ระหว่างสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์ พฤติการณ์เชื่อมโยง 46 คดี ที่มีผู้เสียหายแจ้งความในไทย พบข้อมูลผู้ต้องหาบางรายโพสต์โซเชียลหางานสีเทาเอง ส่วนเยาวชน 2 ราย อยู่ระหว่างรวบรวมออกหมายจับ หลังพบสมัครใจร่วมองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

ชายแดนไทย-เมียนมา ยังระอุ ปะทะเดือดใกล้จุดแตกหัก

ทหารกะเหรี่ยงใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีฐานทหารเมียนมา ตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 800 เมตร โรงเรียนในฝั่งไทย ซึ่งอยู่ติดแนวปะทะ หยุดการเรียนการสอน 1 วัน ขณะที่มีชาวเมียนมาหนีภัยสู้รบเข้าไทยกว่า 400 คน