กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – “สุริยะ” ถก ส.อ.ท.หาแนวทางช่วยภาคอุตสาหกรรม ด้าน ส.อ.ท.ขอให้ช่วยประสานกรมบัญชีกลางทำหลักเกณฑ์จัดซื้อจัดจ้างใช้สินค้าผลิตในไทยร้อยละ 90
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวภายหลังหารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ว่า ในการหารือร่วมกับ ส.อ.ท.ครั้งนี้ ทาง ส.อ.ท.ต้องการให้กระทรวงอุตสาหกรรมช่วยผลักดันไปยังกรมบัญชีกลางให้โครงการลงทุนขนาดใหญ่ภาครัฐในส่วนของงานโยธา เช่น โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน จัดทำหลักเกณฑ์การจัดซื้อจัดจ้างจะต้องใช้สินค้าที่ภาคอุตสาหกรรมไทยผลิตไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ซึ่งจะได้หารือกับนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อจะได้กำหนดหลักเกณฑ์เรื่องนี้ชัดเจนต่อไป ส่วนสินค้าบางรายการที่ผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องนำสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาผลิตเป็นสินค้า ที่พบกับการใช้เวลาขั้นตอนตรวจมาตรฐานของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) นาน 2 สัปดาห์ ได้รับพิจารณาที่จะช่วยให้ สมอ.ลดเวลาตรวจสอบสินค้านำเข้ารายการที่นำเข้าบ่อย ๆ เหลือ 1 สัปดาห์
นอกจากนี้ จากกรณีที่บางประเทศในอาเซียนกีดกันสินค้าส่งออกจากไทย โดยอ้างการตรวจเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคนั้น เรื่องนี้ทางกระทรวงอุตสาหกรรมจะใช้มาตรการลักษณะเดียวกันผ่านมาตรการของ สมอ.มาดำเนินการบ้าง เพราะการกีดกันการค้าลักษณะนี้ทำให้สินค้าที่นักลงทุนผลิตในไทยมีอุปสรรคในการส่งออกไปขาย
ด้านการพัฒนาอุตสาหกรรม ทางกระทรวงอุตสาหกรรมจะร่วมมือกับ ส.อ.ท.พัฒนาอุตสาหกรรมไทยให้แข่งขันได้ในตลาดโลกโดยเร็วทั้งด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยเฉพาะ 12 อุตสาหกรรมเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรมผ่านการสนับสนุนจากภาครัฐบาล
สำหรับเรื่องสงครามการค้าจีนและสหรัฐ ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลกและกระทบต่อการส่งออกสินค้าของไทยด้วย ในการหารือเชื่อว่ากลุ่มผู้ผลิตสินค้าที่มีฐานการผลิตในจีนจะย้ายมาไทยมากขึ้น ซึ่งขณะนี้หลายบริษัทติดต่อเข้ามาแล้ว
ด้านการช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอี ที่ ส.อ.ท.ต้องการให้ช่วยเหลือจะช่วยทั้งด้านการตลาด เงินทุน และการพัฒนาบุคลากร โดยเฉพาะด้านเงินทุนกระทรวงอุตสาหกรรมจะหารือกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ช่วยเหลือต่อไป ส่วนการพัฒนาบุคลากรจะช่วยหาผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี นอกจากนี้ ยังช่วยในเรื่องของการทำ Ease of doing business หรือความยากง่ายในการทำธุรกิจจะช่วยเหลือผู้ประกอบการแก้ไขหลักเกณฑ์ที่ล้าสมัยเป็นอุปสรรคในการทำธุรกิจ
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า ส.อ.ท.ยังต้องการผลักดันเรื่องเมดอินไทยแลนด์เป็นวาระแห่งชาติ โดยให้การจัดซื้อจัดจ้างของรัฐบาลสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย และมีการส่งเสริมด้านการพัฒนามาตรฐานสินค้าของคนไทยให้มีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น ส่วนการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ด้านการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเมื่อวานนี้จากการหารือกับผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ขอให้ ธปท.ขอความร่วมมือธนาคารพาณิชย์ให้มีความยืดหยุ่นในการพิจารณาสินเชื่อแก่เอสเอ็มอีมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมา หากธนาคารเห็นอุตสาหกรรมใดไม่ดีนักก็จะปฏิเสธการให้สินเชื่อ.-สำนักข่าวไทย