กทม.คงมาตรการความปลอดภัย แม้สถานการณ์กรุงคลายกังวล

กทม. 5  ส.ค. -ผู้ว่าฯกทม.สั่งคุมเข้มทั่วกรุงต่อเนื่องแม้สถานการณ์คลายความกังวล ขอให้ประชาชนมั่นใจ และหากพบวัตถุต้องสงสัย หีบห่อ กระเป๋าเดินทาง ฯลฯ ให้รีบแจ้งตำรวจ ทหาร เขตพื้นที่ หรือแจ้ง 191 หรือ 1599 ทันที


พล.ต.อ.อัศวิน  ขวัญเมือง  ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยมีหน่วยงานในสังกัด กทม. และสำนักงานเขต 50 เขตร่วมประชุม ว่า แม้สถานการณ์ตอนนี้จะเข้าสู่ภาวะที่คลายความกังวลได้แล้ว ก็ตาม แต่ยังคงกำชับให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงทุกสำนักงานเขต โดย เฉพาะเขตที่มีสถานที่ราชการสำคัญ ห้างร้านที่มีคนพลุกพล่าน และพื้นที่ชั้นในและพื้นที่ที่เกิดเหตุ ยังให้เตรียมพร้อมทั้งกำลังคน อุปกรณ์ เครื่องมือ ในการอำนวยความสะดวก ดูแล ป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน พร้อมทั้งให้การสนับสนุนหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงที่อาจร้องขอรับการสนับสนุนการปฏิบัติงาน 


รวมทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่เทศกิจเพิ่มความถี่การตรวจตรา เฝ้าระมัดระวัง ตลอดจนให้เจ้าหน้าที่รักษาความสะอาด ช่วยเฝ้าระวังสอดส่องวัตถุหรือบุคคลต้องสงสัย ตลอด 24 ชั่วโมง และให้ประสานการทำงานร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงต่อเนื่อง ทั้งทหาร ตำรวจ ร่วมกันเป็นหูเป็นตา สำรวจ สิ่งผิดปกติ  หากพบให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่

ผู้ว่าฯกทม.กล่าวต่อว่า ส่วนภาพจากกล้องซีซีทีวีที่อยู่ในความดูแลของ กทม.ได้ส่งต่อไปให้รัฐบาลใช้เป็นหลักฐานในการหาตัวผู้กระทำผิดแล้ว ส่วนจะมีภาพบุคคล หรือหลักฐานสำคัญใดๆ ไม่สามารถให้ข้อมูลได้ 


ต้องเป็นหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง ขณะที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในกรุงเทพมหานคร (กอ.รมน.กทม.) ได้ลงพื้นที่หาข่าว เบาะแสเชิงลึกในภาคพื้นดินส่งต่อให้หน่วยงานความมั่นคงต่อเนื่อง ขณะนี้สถานการณ์ไม่มีอะไรน่าวิตกกังวล

ผู้ว่าฯกทม.กล่าวด้วยว่า ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจ ทหาร และกทม.จัดเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างเข้มงวดและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมดูแลความปลอดภัยประชาชนเต็มที่ และหากพบวัตถุต้องสงสัย อาทิ หีบห่อ กระเป๋าเดินทาง หรือวัตถุอื่นๆ ให้รีบแจ้ง ตำรวจ ทหาร เขตพื้นที่ หรือโทรแจ้ง 191 หรือ 1599 ทันที.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

ทุจริตยาโรงพยาบาล

ปปป.เตรียมระดมพลร่วมทำคดีทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ปปป.เตรียมระดมพนักงานสอบสวนในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมทำคดีทุจริตยาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลทหารผ่านศึก พร้อมเตรียมลงพื้นที่ลพบุรี สอบผู้ป่วยกว่า 100 คน ว่าใช่ผู้ป่วยที่แท้จริง มีความจำเป็นต้องใช้ยาหรือไม่ ในเร็ว ๆ นี้

ตร.ไซเบอร์เร่งสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์

ตำรวจไซเบอร์อยู่ระหว่างสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์ พฤติการณ์เชื่อมโยง 46 คดี ที่มีผู้เสียหายแจ้งความในไทย พบข้อมูลผู้ต้องหาบางรายโพสต์โซเชียลหางานสีเทาเอง ส่วนเยาวชน 2 ราย อยู่ระหว่างรวบรวมออกหมายจับ หลังพบสมัครใจร่วมองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ