ประชุมกรอบ อาร์เซ็ป เริ่มแล้ว

ปักกิ่ง 3 ส.ค.-กรอบประชุมอาร์เซ็ปเริ่มแล้ว “จุรินทร์” เป็นประธานประชุมรัฐมนตรีการค้าอาเซียนกับอีก 6 ประเทศ เจรจาความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจสำคัญ ย้ำพร้อมดันเจรจาให้จบสิ้นปีนี้ตามเป้า


 

ในเช้าวันนี้ (3 ส.ค.) นายหู ชุนหวา รองนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน( Hu Chunhua, Deputy Prime Minister of China) เป็นประธานเปิดการประชุมรัฐมนตรีพาณิชย์ทุกประเทศ ในความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership) RCEP คืออาเซียน 10 ประเทศรวมกับ ประเทศสมาชิกอีก 6 ประเทศ คือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินเดีย หลังจากนั้น  นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ทำหน้าที่ประธานการประชุม ทำหน้าที่ควบคุมและดำเนินการประชุม ได้แจ้งเป้าหมายของเวทีการประชุมขอให้ทุกประเทศร่วมสนับสนุนข้อเสนอในการผลักดันเป้าหมายการเจรจาให้บรรลุความสำเร็จภายในสิ้นปีนี้


สำหรับข้อตกลงอาร์เซ็ป คือเป็นความตกลงฉบับล่าสุดที่มีความทันสมัยและมีมาตรฐานสูงครอบลุมทุกมิติทางการค้ายุคใหม่ที่หลากหลาย ซึ่งจะช่วยให้การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเข้มแข็งและสร้างสภาวะแวดล้อมทางการค้าการลงทุนที่เอื้อต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนาของภูมิภาคหากความตกลงอาเซ็ปมีผลบังคับใช้จะกลายเป็นความตกลงที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เพราะจะเห็นได้จากข้อมูลปี 2561 ที่เป็นข้อเท็จจริงว่าอาเซ็ป 16 ประเทศมี มูลค่าจีดีพีกว่า 27.3 ล้านล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณร้อยละ  32.3 ของจีดีพีโลก และมีมูลค่าการค้ารวมกว่า 11 .4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐคิดเป็น ร้อยละ 30.9 ของมูลค่าการค้าโลก

อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยให้ความสำคัญกับข้อตกลงอาร์เซ็ปในการขับเคลื่อนหรือเป็นเครื่องมือการขยายการค้าและการลงทุนในภูมิภาคซึ่งจะช่วยให้ไทยเป็นฐานการผลิตและมีการลงทุนมากขึ้นโดยเฉพาะการลงทุนจากต่างชาติและเกิดการขยายเครือข่ายภาคการผลิตและการกระจายสินค้าของไทย ผู้ประกอบการไทยจะสามารถสรรหาแหล่งวัตถุดิบที่มีความหลากหลายทั้งเชิงคุณภาพและราคามากขึ้น จากเดิมที่สรรหาวัตถุดิบเพียง 10 ประเทศในอาเซียนก็จะขยายเป็น 16 ประเทศรวมทั้งจะเป็นการเพิ่มช่องทางให้กับผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้าและบริการมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังจะช่วยลดความซ้ำซ้อนเรื่องกฎถิ่นกำเนิดสินค้า ประสานกฎระเบียบและมาตรการทางการค้า ส่งผลให้มีการยอมรับกฎเกณฑ์ด้านมาตรฐานต่างๆระหว่างกันมากขึ้นซึ่งจะนำไปสู่การขยายตัวทางการค้าและการลงทุนของไทยตลอดจนภูมิภาคด้วย และสินค้าที่ไทยคาดว่าจะได้รับประโยชน์เพิ่มเติมเมื่อเปรียบเทียบกับเอฟทีเอไทยที่มีอยู่ เช่น เครื่องจักร อุปกรณ์ไฟฟ้า พลาสติกและเคมีภัณฑ์ ยานยนต์และชิ้นส่วนยางล้อ เส้นใย สิ่งทอ เครื่องแต่งกาย ผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลัง และกระดาษ เป็นต้น .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชิงทอง

สอบเครียด! คนร้ายชิงทอง 113 บาท สารภาพเอาไปจำนำบางส่วน

สอบเครียดทั้งคืน ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท รับสารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน ซื้อเบ้าหลอมเพื่อให้ยากต่อการติดตามของตำรวจ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด

ข่าวแนะนำ

5ตัวประกันถึงไทย

5 ตัวประกันถึงไทยแล้ว ปล่อยโฮโผกอดครอบครัว

5 ตัวประกันถึงไทยแล้ว ปล่อยโฮโผเข้ากอดครอบครัวด้วยความดีใจ “ทูตอิสราเอล” ก็มาส่งด้วย น้ำตาคลอคุยครอบครัวตัวประกัน “มาริษ” สัญญาจะนำอีก 1 คน และ 2 ร่างผู้เสียชีวิตที่เหลือกลับมาให้ได้ ด้าน 1 ในตัวประกัน พูดไม่ออก ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ทำให้ได้กลับแผ่นดินแม่

ไทยตอนบนอุณหภูมิลด 1-3 องศาฯ อีสานอากาศเย็นถึงหนาว

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนอุณหภูมิลดลง 1-3 องศาฯ กับมีลมแรง อีสานอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคเหนือ กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อากาศเย็นตอนเช้า ส่วนภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ทำแผนชิงทอง

คุมทำแผนโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท

คุมตัวทำแผน โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ในห้างฯ ย่านลำลูกกา สารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน และซื้ออุปกรณ์หลอมทองเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่