เชียงราย 29 ก.ค.-เหตุประธานสมาคมส่งออกสัตว์เชียงแสนถูกอุ้มเรียกค่าไถ่ 5 ล้านบาท ข้ามไปฝั่ง สปป ลาว ก่อนหายตัวลึกลับ ล่าสุดทหารพรานที่ 3103 กองกำลังผาเมือง ร่วมกับ อ.เชียงแสน เดินทางไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายลาว
ยังไม่รู้ชะตากรรม! ประธานสมาคมส่งออกสัตว์เชียงแสน อ.เชียงแสน ถูกคนร้ายใช้ปืนจ่อหัว-ยิงขา อุ้มเรียกค่าไถ่ 5 ล้านบาท ข้ามไปฝั่ง สปป ลาว ก่อนหายตัวลึกลับ มีเพียงข้อความ ส่งคลิปไลน์จากมือถือไปยังญาติ พร้อมข้อความเรียกค่าไถ่ ส่วนทางการไทยประสานฝ่ายลาวช่วยติดตาม
ความคืบหน้ากรณีนายสิงห์แก้ว วงศ์ใหญ่ อายุ 54 ปี ประธานสมาคมส่งออกสัตว์เชียงแสน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ถูกอุ้มหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นได้ปรากฏข้อความและภาพจากกลุ่มคนติดอาวุธว่า นายสิงห์แก้วถูกจับกุมตัวอยู่ในบริเวณเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป ลาว ตรงข้ามกับ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย และขอให้ญาติหรือผู้ที่ต้องการช่วยเหลือนำเงินไปไถ่ตัวจำนวน 5 ล้านบาท พร้อมกับขู่ว่าหากนำเรื่องดังกล่าวไปแจ้งตำรวจจะฆ่านายสิงห์แก้ว
ล่าสุดทหารพรานที่ 3103 กองกำลังผาเมือง ร่วมกับ อ.เชียงแสน, สภ.เชียงแสน, ตม.เชียงแสน และญาตินายสิงห์แก้ว วงศ์ใหญ่ เดินทางไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายลาว ที่กองบัญชาการตำรวจเมืองต้นผึ้ง ถึงสาเหตุของการลักพาตัว คาดว่าเกิดจากขัดผลประโยชน์ธุรกิจการค้าชายแดน ซึ่งนายสิงห์แก้วกำลังทำธุรกิจโรงฆ่าสัตว์กับชาวจีน โดยเมื่อวันที่ 24 ก.ค.62 นายสิงห์แก้วได้รับการติดต่อจากนายจุ๋ม กับนายเหว่ย ให้ข้ามไปคุยกับเจ้านายที่ในค่ายทหารที่เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป ลาว โดยข้ามที่ท่าเรือสบรวก ก่อนจะถูกดักซุ่มลักพาตัวระหว่างเดินทาง บริเวณบ้านดอนสวรรค์ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป ลาว
เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ฝ่ายไทยได้รับการรายงานจากฝ่าย สปป ลาว ว่ากองบัญชาการตำรวจแขวงบ่อแก้วจะเชิญตัวหุ้นส่วนธุรกิจของนายสิงห์แก้ว วงศ์ใหญ่ จำนวน 4 คน มาสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งปัจจุบันนายจุ๋ม และนายสวาท (คนขับรถให้นายจุ๋มและนายสิงห์ทอง) ถูกควบคุมตัวอยู่ที่กองบัญชาการตำรวจเมืองต้นผึ้ง โดยนายจุ๋มแจ้งว่าได้ไปรับนายสิงห์แก้วที่ท่าเรือมังกร จะไปดูฟาร์มหมูที่บ้านร่มเย็น ระหว่างทางบริเวณบ้านดอนสะหวัน ได้มีรถสีบรอนซ์ไม่ติดป้ายทะเบียนมาขวางและใช้ปืนขู่บังคับเอาตัวนายสิงห์แก้วไป มุ่งหน้ามาทางเมืองต้นผึ้ง ปัจจุบันทาง สปป ลาว จัดชุดปฏิบัติการพิเศษลงพื้นที่สืบสวนเรื่องนี้ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเชียงแสนเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวอยู่กับเจ้าหน้าที่ สปป ลาว และยังไร่วี่แววนายสิงห์แก้ว
อย่างไรก็ตาม เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา นางสาวรสริน วงศ์ใหญ่ ลูกสาว ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเชียงแสน จ.เชียงราย ว่าบิดาหายไปหลังเดินทางข้ามไปทำธุระที่เมืองต้นผึ้ง ฝั่ง สปป ลาว แต่ไม่พบว่าเดินทางกลับมา จากนั้นมีผู้ส่งข้อความและคลิปวิดีโอมาให้ด้วย โดยเป็นภาพของนายสิงห์แก้วสภาพถูกยิงเข้าที่บริเวณต้นขวาขวาและมีรอยเลือดติดอยู่ที่กางเกง รวมทั้งมีการใช้อาวุธปืนสั้นจี้ที่ศีรษะ จากนั้นมีข้อความขู่ว่าให้โอนเงินเข้าไปยังบัญชีของชายคนหนึ่ง เป็นธนาคารแห่งหนึ่งของไทย และหากนำเรื่องดังกล่าวไปแจ้งตำรวจจะฆ่านายสิงห์แก้ว.-สำนักข่าวไทย