กทม. 25 ก.ค. – วันนี้มีการตัดสินคดีทางการเมืองของกลุ่ม กปปส. เป็นคดีแรก ศาลพิพากษายกฟ้อง 4 แนวร่วม ในข้อหากบฏ เนื่องจากเห็นว่าทั้ง 4 คน ไม่ใช่แกนนำระดับผู้สั่งการ ย้อนรอยดูการชุมนุมในคดีประวัติศาสตร์
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2556 ม็อบนกหวีดของกลุ่ม กปปส. หรือคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ถูกจุดติดขึ้นจนกลายเป็นการชุมนุมบนถนนอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย ม็อบนกหวีดนำโดยลุงกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ นายวิทยา แก้วภราดัย เป็นต้น
เสียงนกหวีดดังขึ้น หลังรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่นำโดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เข้าสู่สภา และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา การชุมนุมเริ่มยกระดับขึ้น มีนักการเมืองยอมเปลี่ยนสถานะเป็นแนวร่วมต่อต้านรัฐบาล มีการเดินขบวนขอรับบริจาคทั่วกรุง ภายใต้สโลกแกน ชัตดาวน์กรุงเทพ จากนั้นเริ่มมีการบุกสถานที่ราชการ เป้าหมายคือการกดดันให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ประกาศลาออกจากตำแหน่ง จนกระทั่ง 22 พฤษภาคม 2557 กปปส.ยุติการชุมนุมเมื่อเกิดรัฐประหาร ขึ้น
หลังผ่านมา 5 ปี วันนี้เป็นคดีแรกที่ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีกบฏของกลุ่ม กปปส. โดยพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 ยื่นฟ้อง 4 แนวร่วม ประกอบด้วย นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม, นายสกลธี ภัททิยกุล,นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ และนายเสรี วงษ์มณฑา ในความผิด 8 ข้อหา อาทิ ฐานร่วมกันเป็นกบฏ อั้งยี่, ซ่องโจร, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยวันนี้จำเลยทั้งสี่คนเดินทางมาฟังด้วยตัวเอง ท่ามกลางมวลชนที่มาให้กำลังใจ
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การกระทำของจำเลยทั้งสี่ เป็นเพียงผู้เข้าร่วมชุมนุม ไม่ได้เป็นแกนนำที่สั่งการ หรือขึ้นปราศรัยสั่งการให้กระทำการรุนแรง อีกทั้งการชุมนุมของ กปปส. ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยไว้แล้วว่ามาจากการแสดงความคิดเห็น ซึ่งเป็นสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ จึงพิพากษายกฟ้อง
คดีกบฏของอดีตแกนนำ กปปส. ยังเหลืออยู่อีก 5 สำนวน มีแกนนำที่ถูกฟ้อง 32 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบพยานโจทก์ ได้เริ่มสืบพยานนัดแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา และศาลให้สืบพยานต่อเนื่องทุกสัปดาห์ คงต้องจับตาดูว่าผลการตัดสินคดีดังกล่าวจะออกมาอย่างไร. – สำนักข่าวไทย