กรุงเทพฯ 24 ก.ค. – ผู้ว่าธปท. ห่วงคนไทยติดกับดักหนี้ครัวเรือนพบยอดหนี้สูงขึ้นเฉลี่ย 150,000 บาทต่อคน
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยในงาน “Board of the Year 2018” ว่า ปัจจุบันหนี้ครัวเรือนยังสูงอยู่ร้อยละ 78.7 ของจีดีพี เป็นผลมาจากคนไทยติดกับดักหนี้ครัวเรือนขณะที่ภาคธุรกิจสนับสนุนให้ลูกค้าซื้อของใช้ฟุ่มเฟือยและเกินความจำเป็น ทำให้คนไทยมีหนี้เร็ว และเป็นหนี้เสียตอนอายุยังน้อย โดยร้อยละ 60 ของคนอายุ 30 – 35 ปี เป็นหนี้เสีย 1 ใน 5 ขณะมูลหนี้มากขึ้น โดยคนไทยมีหนี้เฉลี่ยต่อหัวอยู่ที่ 150,000 บาท ในปี 2560 เพิ่มขึ้นจาก 70,000 บาท ในปี 2553 ซึ่งจำนวนนี้ยังไม่รวมหนี้นอกระบบ หนี้ของกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) และไม่รวมหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ ซึ่งทำให้หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นอีกจนอาจเกิดปัญหาสังคมได้ จึงต้องรีบดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
นายวิรไท กล่าวว่า ที่ผ่านมา ธปท. ได้ปรับปรุงการกำกับดูแลทั้งสินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และสินเชื่อที่อยู่อาศัย รวมทั้งการออกมาตรการ LTV เนื่องจากพบว่ามีพฤติกรรมการให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยสูงเกินจริง (สินเชื่อเงินทอน) ซึ่งเป็นการสนับสนุนการก่อหนี้เกินความจำเป็น และส่งเสริมการเก็งกำไรจนเกิดดีมานด์เทียม และเกิดความเสี่ยงภาวะฟองสบู่ที่กำลังก่อตัวขึ้น โดยเป็นผลกระทบเชิงลบต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ ธนาคาร และ ลูกค้า
ผู้ว่าธปท. กล่าวด้วยว่า ธปท.ยังสนับสนุนให้ภาคธุรกิจให้ความสำคัญของการรับผิดชอบทางสังคม ความยั่งยืน และ มีธรรมาภิบาลทั้งในองค์กร และ นอกองค์กร รวมทั้งให้สถาบันการเงินระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อให้กับโครงการภาคธุรกิจมากขึ้น และส่งเสริมออกตราสารหนี้ เพื่อสิ่งแวดล้อม (กรีนบอนด์) จากปัจจุบันการออกกรีนบอนด์ในไทยสูงถึง 30,000 ล้านบาท . – สินเชื่อ
LTVสำนักข่าวไทย