fbpx

บล.โกลเบล็กแนะจับตาหุ้นไทย 25 ก.ค.นี้ รัฐบาลแถลงนโยบาย

กรุงเทพฯ 23 ก.ค.  –  บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS มองดัชนีหุ้นไทยยังคงแกว่งตัว Sideway เหตุไร้ปัจจัยใหม่ ๆ หนุนการลงทุน พร้อมแนะจับตาภาพรวมการลงทุน 25 ก.ค.นี้ ต่อกรณีที่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา และจับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้หากทุกอย่างลงล็อค หุ้นเด่นรับอานิสงส์เต็ม ๆ ภายใต้ ครม.ชุดใหม่ อาทิ  STEC, CK, STPI, SEAFCO, WHA, AMATA, ROJNA, ORI และ ATP30  


นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยขณะนี้ยังคงแกว่งตัว  เนื่องจากตลาดหุ้นไทยยังไร้ปัจจัยใหม่ ๆ เข้ามาสนับสนุนการลงทุนขณะนี้ แม้ว่าจะมีหลายฝ่ายออกมาคาดการณ์มุมมองเชิงบวกต่อภาคการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่จะแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาในวันที่ 25 กรกฎาคม มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรวมถึงกรณีเครื่องมือ Fed Watch ที่บ่งชี้ว่านักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 100% ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25-0.50 ในการประชุมนโยบายการเงินวันที่ 30-31 กรกฎาคม

ขณะที่ความตึงเครียดตะวันออกกลางส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น ล่าสุดกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (IRGC) ได้เข้ายึดเรือบรรทุกน้ำมันลำหนึ่งของอังกฤษ ขณะแล่นเข้าสู่น่านน้ำของอิหร่าน รวมทั้ง “ฟิทช์ เรทติ้งส์” ปรับมุมมองประเทศไทยจาก “Stable” เป็น “Positive” ซึ่งปัจจัยดังกล่าวไม่มีน้ำหนักต่อการตัดสินใจลงทุน  


นอกจากนี้ ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ได้มีการรายงานตัวเลขการส่งออกเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาหดตัว 2.15% ส่งผลให้ตัวเลขในรอบ 6 เดือนของปี 2562 การส่งออกลดลง 2.91% ส่วนแนวโน้มส่งออกไตรมาส 3/2562 คาดว่าจะต่ำสุดจากผลกระทบของสงครามการค้า

“ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้แกว่งตัวออกข้าง โดยยังขาดปัจจัยใหม่หนุนตลาด นักลงทุนยังคงจับตาการประชุมเฟดสัปดาห์หน้าอย่างใกล้ชิด เพื่อติดตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ส่วนปัจจัยในประเทศจับตานโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และติดตามผลประกอบการหุ้นกลุ่มพลังงานที่จะทยอยประกาศออกมา คาดดัชนี SET จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,724-1,745 จุด” นางสาววิลาสินี กล่าว

ขณะที่นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ได้วิเคราะห์หุ้นน่าลงทุนในช่วงที่ดัชนีหุ้นยังคงทรงตัว โดยให้น้ำหนักไปยังหุ้น Mid&Small เนื่องจากคาดว่าผลประกอบการไตรมาส 2 มีแนวโน้มเติบโตโดดเด่น ดังนั้น จึงแนะลงทุน  VL, AMA, TACC, JUBILE, SABINA และ NER นอกจากนี้ ยังแนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ อาทิ  STEC, CK, STPI และ SEAFCO ขณะที่หุ้นกลุ่มเดินเรืออย่าง TTA, PSL และ RCL เป็นอีกกลุ่มที่น่าจับตา พร้อมกันนี้ฝ่ายวิจัยยังมีมุมมองเชิงบวกที่จะได้อานิสงส์ EEC จึงยกให้  WHA AMATA ROJNA ORI ATP30 เป็นหุ้น Theme EEC play ที่น่าลงทุน  .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบจุดที่ ฮ.ปธน.อิหร่านตกแล้ว

เตหะราน 20 พ.ค.- สื่อทางการอิหร่านรายงานอ้างแหล่งข่าวภาคสนามว่า ผลการตรวจตราทางอากาศในพื้นที่ที่เฮลิคอปเตอร์ของประธานาธิบดีเอบราฮิม เรซี ประสบเหตุตก สามารถกำหนดพิกัดการตกที่แม่นยำได้แล้ว เว็บไซต์สำนักข่าวไออาร์เอ็นเอ (IRNA) ของทางการอิหร่านรายงานว่า ทีมค้นหาและกู้ภัยกำลังเดินทางไปยังจุดที่อาจเกิดอุบัติเหตุ แต่ยังไม่มีการยืนยันเรื่องนี้จากทางการ ขณะเดียวกันโดรนของทูร์เคียหรือตุรกีได้ตรวจพบจุดความร้อนที่น่าจะเป็นจุดที่เฮลิคอปเตอร์ตก ผู้บัญชาการของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่านยืนยันว่า โดรนทูร์เคียพบจุดความร้อนที่น่าจะเป็นซากเฮลิคอปเตอร์ ไออาร์เอ็นเอรายงานว่า แม้ว่าสภาพอากาศเลวร้ายหมอกลงจัดและมีฝนตก ทีมกู้ภัยกำลังเร่งค้นหาเฮลิคอปเตอร์ที่ประธานาธิบดีไรซีโดยสารมาพร้อมกับคณะและหายไปเมื่อวันอาทิตย์ขณะบินอยู่เหนือภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ โดยได้ค้นหาอย่างละเอียดตามพื้นที่เทือกเขาและเนินเขาใกล้เมืองวาร์ซากานในจังหวัดอาร์เซอร์ไบจานตะวันออก.-814.-สำนักข่าวไทย

เร่งวิจัยยาฉีดพ่นรักษามะเร็งปอด คาดสำเร็จใน 3 ปี

การรักษามะเร็งมีความหวังมากขึ้น หลังนักวิจัยไทยจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ใช้เทคโนโลยีรักษามะเร็งสมองได้สำเร็จ และนำมาวิจัยต่อยอดรักษามะเร็งกระดูกอ่อนและมะเร็งตับแนวใหม่ได้ผล ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นการวิจัยยารักษามะเร็งปอดแบบฉีดพ่น

รวบแล้วหนุ่มปากี-เมียคนไทย ลวงชายอินเดียฆ่าทิ้งศพ

ตำรวจภูธรภาค 8 จับกุมชายปากีสถาน พร้อมภรรยาชาวไทย ลวงชายอินเดียมาฆ่าแล้วทิ้งศพริมถนน พุ่งเป้าปมขัดแย้งธุรกิจ โดยมีหลักฐานสำคัญจากวงจรปิดที่จับภาพเหตุการณ์ ขัดแย้งกับคำให้การของผู้ต้องหา

Made in Thailand แดนไทยเท่ : จากเมืองเก่าภูเก็ตสู่แพ็กเกจกล่องชิโนโปรตุกีส

ช่วง Made in Thailand แดนไทยเท่ วันนี้ จะพาไปดู มนต์เสน่ห์ของตึกรามบ้านช่องในย่านเมืองเก่าภูเก็ต ที่ถูกถ่ายทอด ไปสู่กล่องขนมรูปแบบชิโนโปรตุกีส กลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์ภูเก็ตและไทยที่โดนใจนักท่องเที่ยวทั่วโลก

ข่าวแนะนำ

“พิชิต” ยื่นลาออก รมต.ประจำสำนักฯ ให้นายกฯ บริหารประเทศต่อไปได้

“พิชิต” ยื่นหนังสือลาออก รมต.ประจำสำนักฯ แล้ว เพื่อให้นายกรัฐมนตรีเดินหน้าบริหารประเทศต่อไปได้ ยืนยัน ไม่ยึดติดตำแหน่ง

ตรวจสอบเรือยอชต์ถูกเพลิงไหม้ ขณะจอดลอยลำหน้าเกาะโหลน อ่าวฉลอง จ.ภูเก็ต

เจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต ประสานตำรวจตรวจสอบสาเหตุเพลิงไหม้เรือยอชต์เสียหายทั้งลำ ขณะผูกทุ่นลอยลำอยู่หน้าเกาะโหลน อ่าวฉลอง จ.ภูเก็ต คาดเสียหายกว่า 100 ล้านบาท

กรมอุตุฯ ประกาศเข้าฤดูฝนเป็นทางการแล้ว

กรุงเทพฯ 21 พ.ค.- กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเริ่มฤดูฝนอย่างเป็นทางการแล้วตัั้งแต่ 20 พ.ค. โดยพบว่า ปัจจัยทางอุตุนิยมวิทยาครบทุกปัจจัย ฤดูฝนปีนี้อาจมีพายุหมุนเขตร้อน 1 – 2 ลูกเท่าค่าเฉลี่ยปกติ สภาวะเอลนีโญจะสิ้นสุด แล้วพลิกกลับเป็นลานีญา ทำให้ฝนตกชุก ดังนั้นช่วงปลายฤดูฝนจะตกชุกหนาแน่นทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ในบางพื้นที่ นางสาวกรรวี สิทธิชีวภาค อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยากล่าวว่า ได้ออกประกาศรื่อง การเริ่มต้นฤดูฝนของประเทศไทย พ.ศ. 2567 โดยประเทศไทยได้สิ้นสุดฤดูร้อนและเริ่มต้นเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (วันที่ 20 พฤษภาคม) เนื่องจากบริเวณประเทศไทยตอนบน สภาพอากาศมีฝนตกชุกหนาแน่นครอบคลุมพื้นที่มากกว่าร้อยละ 60 และต่อเนื่อง 3 วันขึ้นไป ประกอบกับลมชั้นบนที่พัดปกคลุมประเทศไทยที่ระดับความสูงประมาณ 1.5 กิโลเมตรได้เปลี่ยนทิศเป็นลมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งจะพัดนำความชื่นจากะเลอันดามันเข้ามาปกคลุมบริเวณประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ส่วนลมชั้นบนที่ระดับความสูงประมาณ 10 กิโลเมตรได้เปลี่ยนทิศเป็นลมฝ่ายตะวันออก เมื่อปัจจัยทางอุตุนิยมวิทยาครบทั้ง 3 ปัจจัยจึงถือว่า เป็นการเข้าสู่ฤดูฝนของประเทศไทยในปีนี้ ทั้งนี้ฤดูฝนของประเทศไทยตอนบนจะสิ้นสุดประมาณกลางเดือนตุลาคม ส่วนภาคใต้โดยเฉพาะฝั่งตะวันออกจะมีผนตกชุกหนาแน่นต่อไปอีกจนถึงกลางเดือนมกราคม สำหรับปรากฏการณ์เอนโซ (ENSO) ขณะนี้อยู่ในสภาวะเอลนีโญกำลังอ่อน โดยเป็นช่วงท้ายของสภาวะเอลนีโญ คาดการณ์ว่า จะเข้าสู่สภาวะเป็นกลางหรือ Neutral ในเดือนมิถุนายน […]