กรุงเทพฯ- บล.โกลเบล็ก แนะจับตาสภาคองเกรสสหรัฐประชุมเพิ่มเพดานหนี้ทันกำหนดเส้นตายวันที่ 8 หรือไม่ และการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในเดือนมีนาคมหลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งมากขึ้น
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยยังคงต้องจับตาการประชุมสภาคองเกรสสหรัฐก่อนที่งบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะสิ้นสุดลงในวันที่ 8 ก.พ.เพื่อไม่ให้ต้องชัตดาวน์อีกในวันที่ 9 ก.พ. และการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ ตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยกดดันจากการร่วงลงแรงของตลาดหุ้นสหรัฐที่ได้รับผลกระทบจาก Bond Yield ร่วงลงจากความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3 ครั้งหลังมีรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด
ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ร้อยละ 4.1 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี ตอกย้ำว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมีนาคมนี้ตามที่ได้ส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ โดยจำนวนครั้งที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจเพิ่มเป็น 4 ครั้งจากคาดการณ์เดิม 3 ครั้ง
ส่วนปัจจัยในประเทศที่ส่งผลเชิงบวกต่อดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ คือ แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจต่อเนื่อง และกระแสคาดการณ์ว่าร่างพรบ.อีอีซีจะมีความชัดเจนมากขึ้นหลังเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสนช.วาระ 3 ราวเดือนก.พ.61 หนุนความเชื่อมั่นนักลงทุนในการลงทุนในพื้นที่อีอีซี ส่วนการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ (fund flow) ยังผันผวนต่อเนื่องมีซื้อสุทธิสลับขายสุทธิโดยในช่วง 1 เดือนย้อนหลังขายสุทธิสะสมกว่า 13,000 ล้านบาท ทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,750 -1,790 จุด โดยหากดัชนีปรับลงถึงแนวรับมีโอกาสรีบาวด์ได้ หากจะซื้อเพิ่มแนะนำทยอยซื้อสะสมที่บริเวณแนวรับ 1,750 จุด – สำนักข่าวไทย