fbpx

ดีป้าขอต่ออายุลดภาษีเอสเอ็มอีซื้อซอฟต์แวร์ไทย 3 ปี

กรุงเทพฯ 22 ก.ค. – ดีป้าหารือกรมสรรพากรขอต่ออายุลดภาษี 200% อีก 3 ปี สำหรับเอสเอ็มอีที่ซื้อหรือใช้บริการโปรแกรมคอมพิวเตอร์จากนักพัฒนาหรือผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ที่ขึ้นทะเบียนกับดีป้า 


นายฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือดีป้า ได้นำเสนอผลการศึกษาเปรียบเทียบมาตรการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัลของไทยกับต่างประเทศ เพื่อปรับกลยุทธ์ในการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนให้สอดคล้องความต้องการของนักลงทุนมากขึ้น และผลักดันให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมดิจิทัลของไทย 

โดยผลการศึกษาพบว่าประเทศไทยมีการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีดีกว่าต่างประเทศ ทั้งระยะเวลาการยกเว้นภาษีและอัตราการลดหย่อนภาษี สะท้อนถึงมาตรการทางภาษีของไทยมีความสามารถในการดึงดูดนักลงทุนค่อนข้างสูง แต่มีหลายมาตรการที่ไทยยังไม่ได้นำมาใช้ เช่น การให้เครดิตภาษีเพื่อการวิจัยและพัฒนา การยกเว้นภาษีอสังหาริมทรัพย์ ภาษีมูลค่าเพิ่ม และการให้เงินอุดหนุนเพื่อสนับสนุนการจ้างงานและค่าเช่า เป็นต้น


ทั้งนี้ ได้เสนอ 4 ประเด็นสำคัญในการผลักดันการลงทุนในอุตสาหกรรมดิจิทัล ประกอบด้วย 1.การสร้างอุปสงค์ที่เพียงพอในการชักจูงการลงทุน 2.ดำเนินการศูนย์ให้บริการเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียวระบบดิจิทัล 3.สนามทดสอบธุรกิจดิจิทัล และ 4.จัดทำกองทุนร่วมทุนสำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เพื่อลงทุนในพื้นที่เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมดิจิทัล ซึ่งเป็นข้อเสนอเพื่อการดึงดูดการลงทุนระดับพื้นที่

ขณะเดียวกันได้มีการหารือกับกรมสรรพากร เพื่อขอต่ออายุมาตรการลดหย่อนภาษี 200% สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ซื้อหรือใช้บริการโปรแกรมคอมพิวเตอร์จากนักพัฒนาหรือผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ที่ขึ้นทะเบียนกับดีป้าตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนดวงเงินไม่เกิน 100,000 บาท โดยจะขอต่ออายุมาตรการออกไปอีก 3 ปี จากเดิมจะสิ้นสุดมาตรการสิ้นปีนี้ไปเป็นสิ้นสุดมาตรการวันที่ 31 ธันวาคม 2565 และขอเพิ่มวงเงินยกเว้นภาษีจาก 100,000 บาท เป็น 200,000 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับมูลค่าของวงเงินที่เอื้อให้กับผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีในปัจจุบันและขอขยายขอบเขตมาตรการจากเดิมครอบคลุมเฉพาะซอฟต์แวร์ให้เป็นครอบคลุมใน 3 สาขาหลัก ประกอบด้วย ซอฟต์แวร์, ฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ และบริการดิจิทัล 

โดยยอมรับว่าการใช้มาตรการดังกล่าวในช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีผู้ประกอบการมาขึ้นทะเบียนมากกว่า 140 ราย กระตุ้นให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์กว่า 1,300 ล้านบาท และแม้มาตรการดังกล่าวจะส่งผลให้รัฐสูญเสียรายได้จากภาษีมากกว่า 567 ล้านบาท แต่สามารถสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายในการใช้เทคโนโลยีและการลงทุนปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทอลเพิ่มขึ้นกว่า 3,158 ล้านบาท และคาดว่าการต่ออายุมาตรการและขยายสิทธิประโยชน์ทางภาษีตามที่เสนอจะทำให้รัฐได้ผลตอบแทนกลับคืนมากกว่าเดิมถึง 6 เท่าตัว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

วัยรุ่นเชียงใหม่ ตะลุมบอนงานไม้ค้ำ จ.เชียงใหม่

กลุ่มวัยรุ่นตะลุมบอนชกต่อยกันในงานแห่ไม้ค้ำโพธิ์ จ.เชียงใหม่ ขณะที่ผู้จัดงานติดป้ายเตือนทะเลาะวิวาทในงาน จับได้ปรับ 75,000 มอบให้คนถ่ายคลิป 5,000

ล่า “จัก เขาบายศรี” ถ้าต่อสู้อาจจำเป็นต้องวิสามัญ

ตำรวจปิดล้อมตรวจค้นหลายจุดทั่วเมืองชลบุรี ล่าตัว “จัก เขาบายศรี” มือกราดยิงวันไหล ย่านบ่อนไก่ จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต หากเจอตัวแล้วยิงต่อสู้ อาจจำเป็นต้องวิสามัญ วอนญาติรีบประสานพามามอบตัว

ข่าวแนะนำ

“ทวี ไกรคุปต์” อดีตนักการเมืองดัง เสียชีวิตแล้ว

“ไพศาล พืชมงคล” โพสต์แสดงความอาลัยการจากไปของ “ทวี ไกรคุปต์” อดีตนักการเมืองดัง และบิดาของ “เอ๋-ปารีณา”

ทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด สูงสุด 41 องศาฯ

กรมอุตุฯ รายงานทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด สูงสุด 41 องศาฯ มีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้น และตกหนักบางแห่ง

ศาลสั่งจำคุกลูกชาย รมช.เมาแล้วขับ 2 เดือน ปรับ 4 พันบาท

ศาลสั่งจำคุก 2 เดือน ปรับ 4,000 บาท ลูกชายรัฐมนตรีช่วย เมาขับฝ่าด่านตรวจ โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี พร้อมพักใบอนุญาตขับขี่ 6 เดือน