หอการค้าไทยเผยดัชนีเชื่อมั่นค้าปลีกไตรมาส 2 ทรงตัว

กรุงเทพฯ 22 ก.ค. – หอการค้าไทยเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการโมเดิร์นเทรดไตรมาส 2 ทรงตัว แต่มีแนวโน้มดีขึ้นไตรมาส 3 หลังรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ พร้อมเสนอผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐซื้อสินค้าโมเดิร์นเทรดได้-เปิดทางจ้างงานเป็นรายชั่วโมง


นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการโมเดิร์นเทรด (MTSI) ไตรมาส 2 ปี 2562 ว่า ดัชนี MTSI  เกินกว่า 50 ทุกรายการไม่ว่าจะเป็นรายรับจากการขายหรือให้บริการ กำไรจากการขายหรือบริการ จำนวนลูกค้าที่มาใช้บริการ ราคาขายสินค้าโดยรวมเฉลี่ย การจ้างงาน ยกเว้นต้นทุนค่าดัชนีฯ อยู่ในระดับ 48.2 โดยดัชนีฯ ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 51.2 และอนาคตในช่วง 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 51.1 ดังนั้น เศรษฐกิจไทยน่าจะขยายตัวใกล้เคียงร้อยละ 2.8-3.0 และครึ่งปีแรกจะขยายตัวร้อยละ 2.9-3.0  

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการโมเดิร์นเทรด มองว่า การค้าขายยังอยู่ในสถานการณ์ปกติใกล้เคียงไตรมาส 1 ส่วนแนวโน้มไตรมาส 3 สถานการณ์จะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ ตามการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ แต่ยังมีปัญหาต่าง ๆ เช่น ราคาพืชผลทางการเกษตร การส่งออกยังไม่โดดเด่น เนื่องจากสงครามการค้า ผู้ประกอบการโมเดิร์นเทรดจึงมองว่าในอนาคตการค้าจะไม่โดดเด่นชัดเจน แต่เชื่อว่าภาพรวมจะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ 


ส่วนปัญหาที่ประสบอยู่ในปัจจุบันของผู้ประกอบการโมเดิร์นเทรด คือ ต้นทุนสูงขึ้น ขณะที่ราคาสินค้าไม่เพิ่มขึ้น ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคมีความผันผวนจากสถานการณ์การเมืองและภัยแล้ง และรายได้ของภูมิภาคต่าง ๆ เพิ่มขึ้นไม่มาก เนื่องจากราคาพืชผลทางการเกษตรเพิ่มขึ้นไม่มาก

นายสุรงค์ บูลกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย ยังเสนอให้รัฐบาลควรเพิ่มทางเลือกแก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถใช้ได้กับทุกร้านหรือทุกโมเดิร์นเทรด เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้มากขึ้น เพราะจะช่วยให้ผู้บริโภคมีโอกาสเลือกสินค้าที่เหมาะสมกับต้นทุน ขณะนี้เมืองใหญ่หัวเมืองต่าง ๆ เติบโตมีโมเดิร์นเทรดอยู่แล้ว จึงเป็นการช่วยในแง่กระจายสินค้าที่มีคุณภาพ เป็นการบริการสังคม สร้างความยุติธรรมให้สังคมว่าผู้มีรายได้ทุกระดับซื้อสินค้าในโมเดิร์นเทรดได้ เพื่อเพิ่มทางเลือกในการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพิ่มเติมจากการซื้อในร้านค้าท้องถิ่น ปัจจุบันรัฐบาลให้ประชาชนประมาณ 11 ล้านบัตร ปีละประมาณ 50,000-70,000 ล้านบาทต่อปีอยู่แล้ว 

ส่วนการจ้างแรงงาน ทางกลุ่มผู้ประกอบการโมเดิร์นเทรด เห็นว่าควรส่งเสริมให้มีการใช้ระบบดิจิทัลและเทคโนโลยี และทางผู้ประกอบการโมเดิร์น เทรดจะพิจารณาปรับการจ้างงานจากปัจจุบันที่มีเพียงการจ้างรายวันมาสู่การจ้างงานรายชั่วโมง ซึ่งจะช่วยให้สามารถจ้างงานกลุ่มผู้สูงอายุได้อีกด้วย ทั้งนี้ อยากให้การได้รับค่าแรงสะท้อนให้เกิดการจ้างแรงงานในท้องถิ่น  โดยพิจารณาเรื่องโอกาสหางานทำได้มากกว่า ไม่ใช่ขึ้นค่าแรงจนธุรกิจเลิกกิจการ  


สำหรับผู้ได้ประโยชน์จากการจ้างงานรายชั่วโมง หากสามารถทำได้ คือ กลุ่มนักเรียน และผู้สูงอายุ ที่มีอายุ 60-70 ปี เพราะการจ้างงานรายชั่วโมงจะใช้เวลาไม่ยาว ทำงานที่มีคุณภาพเป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศไทยที่เผชิญภาวะขาดแรงงาน และช่วยให้ผู้ได้งานการเงินดีขึ้นใช้แรงงานถูกความต้องการเหมาะสมกายภาพผู้ทำงาน สุดท้ายรัฐมีฐานภาษีเพิ่มจากการมีผู้ใช้แรงงานมากขึ้น 

ส่วนข้อเสนอแนะต่อภาครัฐในการแก้ไขปัญหา ได้แก่ พัฒนาธุรกิจท่องเที่ยวให้มีการเติบโตอย่างมั่นคง พัฒนาสินค้าเกษตรเป็นที่ยอมรับในระดับเวิลด์คลาส สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรและระดับจังหวัด รัฐบาลควรมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ครอบคลุมทุกพื้นที่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

ซุ้มไฟเฉลิมพระเกียรติฯ สุดตระการตา รับประเพณียี่เป็ง

ยามค่ำคืนในตัวเมืองเชียงใหม่ ประดับประดาด้วยแสงไฟรับประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทงเชียงใหม่ โดยเฉพาะบนถนนท่าแพ มีการสร้างซุ้มประดับไฟเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 14 ซุ้ม ยาวกว่า 200 เมตร.

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ตั้งโต๊ะแจงปมรีดทรัพย์ รับอ้างชื่อ “หนุ่ม กรรชัย” เพื่อขายงาน

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ตั้งโต๊ะแจงปมเรียกรับเงิน 20 ล้านบาท จากดิไอคอน ยอมรับอ้างชื่อ “หนุ่ม กรรชัย” เพราะต้องการขายงาน

คุมตัว “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” ฝากขัง เจ้าตัวเงียบรีบเดินขึ้นรถตู้

ตำรวจกองปราบคุมตัว “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” ฝากขัง ผู้ต้องหาปัดตอบสื่อ ด้านพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เพราะมีพฤติการณ์หลบหนี