รมว.คมนาคม สำรวจ ก่อสร้าง ถนนพระราม2

สำนักข่าวไทย 21 ก.ค. –  รมว.คมนาคมลงพื้นที่ถนนพระราม2 ฉายาถนนเจ็ดชั่วโคตร หลังชาวบ้านร้องเรียนรถติดยาวนาน  เตรียมเร่งรัดก่อสร้างให้แล้วเสร็จในปี 2563  ขณะนี้เผยคืบหน้าเเล้วร้อยละ 38 เเต่ล่าช้ากว่าร้อยละ 18 เหตุสภาพดิน-เปิดหน้างานพร้อมกันจนเกิดภาวะคอขวดเเละประเมินผิดพลาด ปรับเเก้ขอความร่วมมือรถใหญ่ใช้ถนนหลังเวลาเร่งด่วน เเละปรับการเปิดหน้างาน ด้านชาวบ้านร้องทำถนนหลายปียังเรื้อรัง ตั้งข้อสังเกต 11 กม.ทำไมมีผู้รับเหมา 3 รายเเละ 1 ใน3 พบถูกร้องเรียนการดำเนินงาน



นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมพร้อมด้วยนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ถนนพระราม2 อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เพื่อรับฟังปัญหาหลังชาวบ้านร้องเรียนถึงความเดือดร้อนจากการก่อสร้างปรับปรุงทางหลวงหมายเลข 35 ตอน ทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน-เอกชัย ที่พบว่าการก่อสร้างล่าช้าและปล่อยปะละเลย ทำให้การจราจรติดขัดเป็นประจำทุกวัน จนเกิดฉายา “ถนนเจ็ดชั่วโคตร” ซึ่งปัญหาเรื้อรังมาตั้งแต่เดือนก.พ.2561


นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า หลังรับฟังปัญหาทราบว่าโครงการปรับปรุงทางหลวงดังกล่าวเซ็นสัญญาปี 2561 เเละจะสิ้นสุดในปี 2563 ทราบว่าก่อนทำสัญญาบริเวณดังกล่าวมีรถไม่หนาเเน่นเท่าหลังทำสัญญา ทำให้เเผนคลาดเคลื่อน ทำให้ขณะนี้ภาพรวมก่อสร้างเเล้วเสร็จเเค่ร้อยละ 38 เเต่ล่าช้ากว่าร้อยละ 18 เพราะต้องเคลื่อนย้ายสาธารณูปโภค เเต่กรมทางหลวงไม่ได้นิ่งนอนใจ จะเร่งให้เสร็จภายในปลายปี 2563 ให้ได้เเละขณะนี้ก็จัดการปัญหาเรื่องสาธารณูปโภคได้เรียบร้อยเเล้ว  ส่วนสาเหตุปัญหาในพื้นที่ก่อสร้างพบว่าดินนิ่ม จึงจำเป็นต้องใช้ทรายถมเพื่อให้เเข็งเเรง โดยต้องใช้เวลาให้ดินเซ็ตตัวให้เเข็งเเรงประมาณ 160 วัน จึงอาจส่งผลต่อความล่าช้าในการทำทาง ทำให้เกิดรถติดหนัก โดยเฉพาะบริเวณหน้าวัดพันท้ายนรสิงห์ จึงมีเเนวทางในการแก้ปัญหา 2 แนวทาง ได้แก่ 1.บรรเทาความเดือดร้อนด้านจราจร คือผู้ว่าราชการเเละเจ้าหน้าที่ตำรวจจะขอความร่วมมือบริษัทการขนส่งที่ใช้รถบรรทุกใหญ่ให้ออกเดินทางหลังช่วงเวลาเร่งด่วน เเละให้รถใหญ่ยูเทิร์นรถถัดไปอีก 1 กม.จากจุดเดิม ขณะที่เรื่องผิวจราจร ภายใน 2 สัปดาห์จะสามารถเลื่อนผิวจราจรจากจุดเดิมไปจุดถัดไปได้ เเละ2.ปรับขั้นตอนการก่อสร้าง ไม่ให้เปิดหน้างานตรงกันต่อไปจะเปิดให้ห่างกันจะได้ไม่เกิดภาวะคอขวด รวมถึงให้ทำป้ายบอกทางจราจรให้ชัดเจน

ส่วนการตั้งข้อสังเกตว่าระยะทางเเค่ 11 กิโลเมตรทำไมต้องมีบริษัทรับเหมาถึง 3 บริษัทมองว่าเพื่อความรวดเร็วในการทำงาน ส่วนที่มีข้อร้องเรียนว่า 1 ใน3 บริษัทเคยรับเหมาก่อสร้างในพื้นที่เเต่ทำงานล่าช้าเเล้วยังได้รับอนุญาตให้มาก่อสร้างอีก เรื่องนี้ตนจะตรวจสอบเพิ่มเติม ขณะเดียวกันประชาชนในพื้นที่ได้ให้ข้อเสนอ ตั้งกรรมการทุกภาคส่วนเพื่อบูรณาการร่วมกัน ตนจึงได้มอบหมายจังหวัดให้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อเร่งรัดการทำงาน ซึ่งในอนาคตในพื้นที่ดังกล่าวทราบว่าจะมีการสร้างทางยกระดับเเละทางด่วนอีก จึงต้องติดตามเเละดูเเลงาน ซึ่งในสัปดาห์หน้าตนก็จะลงพื้นที่นี้อีก ส่วนประเด็นการปรับเปลี่ยนเเบบการก่อสร้างหรือปรับขนาดผิวถนนจนทำให้เกิดการล่าช้านั้นมองว่าไม่ใช่ประเด็นสำคัญ

ด้านนายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตนมายื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมคนใหม่เพื่อให้เร่งรัดเเละควบคุมการปรับปรุงทางหลวงเส้นนี้ หลังร้องเรียนไปแล้ว 3 ครั้งเเต่ไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากก่อสร้างมานานกว่า 2 ปี เเต่ก็ยังไม่เห็นวี่เเววว่าจะเเล้วเสร็จ การขยายผิวถนนล่าช้า ทำให้รถติดยาวนาน จากเดิมกรุงเทพมามหาชัยใช้เวลา 45 นาที เเต่เมื่อมีการก่อสร้างใช้เวลากว่า 2 ชม. ไม่มีการการวางเเผนปิดถนน จากปกติถนนมี 6 เลนถ้าจะปิดก็ควรเริ่มจากถนนคู่ขนาน เเล้วถึงไปถนนเส้นหลัก แต่กลับเปิดหน้าถนนทั้งหมด

ขณะที่เส้นทางนี้ถือเป็นประตูสู่ภาคใต้ แต่การก่อสร้างกลับล่าช้าทำให้เกิดความเสียหายด้านเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชน ไม่มีการวางเเท่งเเบร์ริเออร์เพื่อป้องกันอันตรายจากการก่อสร้างหรือรถที่สัญจรไปมาจำนวนมาก ทำให้เกิดอุบัติเหตุนับครั้งไม่ถ้วน

นายอภิชาติ กล่าวต่อว่า ตนตั้งข้อสังเกตุว่าตลอดระยะทางการก่อสร้างเเค่ 11 กม.ทำไมสร้างมาเเล้วกว่า 2 ปียังไม่เสร็จเเละที่สำคัญทำไมต้องมีผู้รับเหมาถึง 3 บริษัทเเละทั้งหมดก็ไม่ได้เป็นที่รู้จักด้านการก่อสร้างมากนัก หากเทียบเคียงกรณีอื่น เส้นมอเตอร์เวย์จากประตูน้ำพระอินทร์ไปจ.นครราชสีมาระยะทางมากกว่าหลายเท่าเเต่ก็สร้างเเล้วเสร็จภายใน 2 ปี ทั้งนี้ตนทองว่าจะช้าหรือเร็ว ควรต้องมีระบบจัดการที่มีคุณภาพ ทำป้ายบอกทางประชาชนให้หลีกเลี่ยงเส้นทาง ไม่กีดกั้นทางฟุตบาทให้ประชาชนเดิน แนะถ้าจะสร้างทางเพิ่มควรคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงภาคประชาชนเอง เพราะตนทราบว่ารัฐมนตรีไม่ใช่ผู้วิเศษที่จะแก้ปัญหาได้ คนในพื้นที่อย่างอค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือระดับจังหวัดควรขยับให้มากกว่านี้

ด้านนางปัทมาพร ถาวรโชติ ประชาชนในพื้นที่ กล่าวว่า ได้รับความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่อง ตั้งเเต่การก่อสร้างโครงการก่อนๆก็มีปัญหามาตลอด ยิ่งมาโครงการนี้การจราจรติดขัด ใช้ชีวิตยากลำบาก รถติดนานมากต้องเผื่อเวลาเดินทางไปส่งลูกที่โรงเรียนเเละไปทำงานจากเดิมอีก 2 ชั่วโมง บางครั้งไปทำงานสายก็เสียโอกาสเรื่องงาน ขณะที่อันตรายจากการก่อสร้างทั้งหลุมบ่อที่ไม่มีเเท่งเเบร์ริเออร์กั้น รวมถึงฝุ่นพิษPM2.5 มองว่าเป็นปัญหาเรื้อรังมีมาตั้งเเต่ตั้งครรภ์ลูกจนตอนนี้ 7 ขวบปัญหาก็ยังไม่เเก้ หน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องควรดำเนินการเเละขยับตัวมากกว่านี้

สำหรับการก่อสร้างปรับปรุงทางหลวงหมายเลข 35 ตอน ทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน-เอกชัย ระยะทางรวม 11.7 กิโลเมตร งบประมาณรวม 2,213.5 ล้านบาท โดยขยายคันทางทั้งทางขนาน (Frontage Road) จากเดิม 2 ช่องจราจรเป็น 3 ช่องจราจร และทางหลัก (Main Road) จากเดิม 3 ช่องจราจรเป็น 4 ช่องจราจร พร้อมก่อสร้างสะพานกลับรถ 2 แห่ง ที่ กม.12 (แสมดำ) กม.16 (ก่อนถึงซอยพันท้ายนรสิงห์) และสะพานข้ามทางรถไฟ กม.18 //โดยแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 3 ตอน ให้ 3 บริษัทดูแล ได้แก่ ตอน 1 (กม.9+800-13+300) ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร ก่อสร้างโดย บริษัท บุญสหะการสร้าง จำกัด งบประมาณ 707.50 ล้านบาท ตอน 2 (กม.13+300-17+400) ระยะทาง 4.1 กิโลเมตร ก่อสร้างโดย บริษัท แสงชัยโชค จำกัด งบประมาณ 798.555 ล้านบาท และ ตอน 3 (กม.17+400-21+500) ระยะทาง 4.1 กิโลเมตร ก่อสร้างโดย บริษัท เอ็ม.ซี.คอนสตรัคชั่น (1979) จำกัด งบประมาณ 707.5 ล้านบาท

ทั้งนี้ ตามสัญญาการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคม 2563 แต่พบว่าความคืบหน้า ณ เดือนมิถุนายน 2562 ตอน 1 คืบหน้าเพียงแค่ร้อยละ 6.06 ช้ากว่าแผน ร้อยละ 43.95 ติดขัดปัญหาสาธารณูปโภค, ตอน 2 คืบหน้าเพียงแค่ร้อยละ 17.31 ช้ากว่าแผนร้อยละ 31.40 ติดขัดต้นไม้และสาธารณูปโภค และตอน 3 คืบหน้าเพียงร้อยละ 31.48 ช้ากว่าแผนร้อยละ 6.06 ติดขัดสาธารณูปโภค.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” ยึด MOU43 แก้ปมชายแดน-ลดตึงเครียด

14 มิ.ย.- “ไทย-กัมพูชา” แถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม JBC เจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกัน และการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบ MOU43 นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย เป็นประธานการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) ร่วมกับนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายกล่าวถ้อยแถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ในการเจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกันและการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 (MOU 43) เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาชายแดนและลดความตึงเครียดที่มีอยู่ ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการของทั้งสองฝ่าย ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานเชิงเทคนิคที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กรมแผนที่ทหาร กองทัพบก กองทัพเรือ สำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา (เทียบเท่ากระทรวง) กระทรวงกลาโหมกัมพูชา กองทัพภาคต่าง ๆ ของกัมพูชา รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาของกัมพูชาทุกจังหวัด -สำนักข่าวไทย

ลุ้นผลประชุม JBC ไทย-กัมพูชา

14 มิ.ย.- ประชาชน 2 ประเทศลุ้นผลการประชุม JBC ด้านกัมพูชายันหากไทยไม่ไปศาลโลก จะยื่นเอกสารไปฝ่ายเดียว นายเปง สุเพีย ผู้สื่อข่าวกัมพูชา รายงานว่าก่อนการประชุม JBC ไทย-กัมพูชา ขณะนี้เป็นการประชุมกลุ่มเล็ก ผ่านไปกว่า 2 ชม. ยังไม่ออกมา ประชาชนสองประเทศลุ้นผลการประชุม ด้านกัมพูชายันหากไทยไม่ไปศาลโลก จะยื่นเอกสารไปฝ่ายเดียว .-สำนักข่าวไทย

Cambodia and Thailand hold a closed-door meeting ahead of the official meeting of JBC in Phnom Penh

ไทย-กัมพูชา หารือกลุ่มเล็กก่อนประชุม JBC

พนมเปญ 14 มิ.ย. – สื่อกัมพูชารายงานว่า กัมพูชาและไทย ได้เปิดการหารือกลุ่มเล็กฝ่ายละ 5 คน ก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือเจบีซี (JBC) ที่กรุงพนมเปญ ในวันนี้ เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า ในการหารือกลุ่มเล็กที่มีผู้ร่วมเข้าเพียง 10 คน ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายเจีย ฬำ  รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบกิจการชายแดน ส่วนฝ่ายไทยนำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศด้านกิจการชายแดน ซึ่งเป็นนักการทูตผู้เชี่ยวชาญช่วงข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร พร้อมกับเผยแพร่ภาพชุดการหารือดังกล่าว.-814.-สำนักข่าวไทย

รวบแล้ว! โจรชิงทองที่ลำพูน หนีกบดานพัทยา

พัทยา 14 มิ.ย.- หนีไม่รอด! รวบโจรบุกเดี่ยวชิงทอง จ.ลำพูน หนีกบดานพัทยา สารภาพติดการพนันออนไลน์ จากกรณีเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2568 เกิดเหตุคนร้ายรูปร่างสูงประมาณ 160-165 ซม. ทราบชื่อต่อมาคือ นายประกร อายุ 47 ปี ขี่รถจักรยานยนต์สีดำ บุกเดี่ยวเข้าไปชิงทองคำรูปพรรณ จากห้างทองฯ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ได้สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 5 บาท ไปจำนวน 2 เส้น มูลค่ากว่า 500,000 บาท แล้วหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ล่าสุดตำรวจ สภ.จว.ชลบุรี ได้เบาะแสว่า นายประกร ที่มีหมายจับศาลจังหวัดลำพูน ในข้อหากระทำความผิดฐาน “วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” หลังก่อเหตุได้หนีมากบดานในพื้นที่จังหวัดชลบุรี จึงนำกำลังออกติดตาม กระทั่งพบตัวนายประกร อยู่ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านพัทยากลาง เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าจับกุม เจ้าตัวให้การยอมรับ เป็นผู้ก่อเหตุวิ่งราวทองจากห้างทองในพื้นที่จังหวัดลำพูนจริง หลังก่อเหตุได้หนีมายังพื้นที่เมืองพัทยาและนำทองไปขายในห้างทองแห่งหนึ่ง ตอนแรก คิดว่าจะเดินทางเข้ามาตัว แต่ก็สายไปเนื่องจากมาโดนเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้เสียก่อน ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุลงไปนั้นเนื่องจากตนเองติดการพนันออนไลน์ จนเงินหมด […]