3 รมช.เกษตรฯ ตรวจเขื่อนภูมิพล แก้ปัญหาภัยแล้ง

ตาก 19 ก.ค. – รมช.เกษตรฯ ระบุน้ำเขื่อนภูมิพลมีน้อย สั่งสถานีสูบน้ำตอนบนกว่า 400 สถานีหยุดสูบน้ำ 3 วันต่อสัปดาห์ เพื่อระบายน้ำสู่ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง ให้มีน้ำเลี้ยงนาข้าว 6 ล้านไร่จนกระทั่งเก็บเกี่ยว พร้อมระดมเครื่องบินจากทุกเหล่าทัพร่วมทำฝนหลวงทั่วประเทศ



นายประภัตร โพธสุธน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประชุมด่วนเพื่อแก้ไขสถานการณ์ภัยแล้งจากฝนทิ้งช่วงตามที่นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ร่วมมือกับทุกหน่วยงาน มีผู้นำเกษตรกรกว่า 500 คน จาก 22 จังหวัด ร่วมเสนอข้อร้องเรียนให้รัฐบาลออกมาตรการเยียวยาต้นทุนทำเกษตรที่ผลผลิตจะเสียหายจากฝนทิ้งช่วง ทั้งข้าว อ้อย มันสำปะหลัง และพืชอื่น ๆ ที่เกือบแห้งตาย บางรายถึงกับร้องไห้กลางห้องประชุม เพราะอยู่ปลายคลองส่งน้ำ น้ำส่งไปไม่ถึง นอกจากนี้ ขอให้เพิ่มพื้นที่แก้มลิงขนาดใหญ่ เนื่องจากบึงบอระเพ็ด กว๊านพะเยา มีน้ำไม่เพียงพอและประสบปัญหาตื้นเขิน อีกทั้งขอให้กรมชลประทานช่วยสูบน้ำจากแหล่งน้ำใกล้เคียงมาช่วย เช่น บึงธรรมชาติ บ่อทราย ทำฝายชะลอน้ำ และเร่งทำฝนหลวง นายประภัตร สั่งการผู้แทนกรมชลประทานช่วยเหลือทันที โดยให้จดชื่อและเบอร์โทรศัพท์เกษตรกร เพื่อให้แก้ปัญหาได้ทุกพื้นที่ 


นายประภัตร กล่าวว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำใช้การในเขื่อนหลัก 4 เขื่อนลุ่มเจ้าพระยา คือ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีน้ำใช้การได้รวมกัน 1,600 ล้าน ลบ.ม. ขณะนี้ระบายรวมวันละ 45 ล้าน ลบ.ม. หากยังคงการระบายเช่นนี้จะมีน้ำใช้อีก 40 กว่าวัน ดังนั้น จึงสั่งลดการระบายน้ำลงเหลือ 40 ล้าน ลบ.ม. พร้อมต้องมีแผนจัดสรรน้ำอย่างเข้มงวด จนกว่าฝนจะมาต้นเดือนสิงหาคมนี้ตามคาดการณ์กรมอุตุนิยมวิทยา ทั้งนี้ ปริมาณฝนเฉลี่ยปี 62 น้อยกว่าค่าเฉลี่ยร้อยละ 5-10 โดยลุ่มเจ้าพระยาปลูกข้าว 6 ล้านไร่ พร้อมกันนี้ให้กรมชลประทานควบคุมการสูบน้ำของสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าในแม่น้ำสายหลักเหนือเขื่อนน้ำเช่น หยุดสูบ 3 วัน เพื่อระบายน้ำลงไปถึงลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง อีกทั้งกำชับเกษตรกรที่ยังไม่ทำนาให้ชะลอการเพาะปลูกและขอความร่วมมือพื้นที่ที่เก็บเกี่ยวแล้วไม่ให้ทำนาต่อเนื่อง


“จะวางแผนจัดสรรน้ำกับทุกหน่วยงานจัดสรรการส่งน้ำเข้าแม่น้ำน้อย ท่าจีน คลองมโนรมย์ และคลองมหาราชให้สลับกันใช้ตามรอบเวร โดยต้องใช้อย่างประหยัดและมีวินัย โดยอาจขอกำลังทหารช่วยดูแลเนื่องจากตอนนี้เริ่มเกิดปัญหาแย่งน้ำในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา คาดว่าไม่จำเป็นต้องงดส่งน้ำให้พื้นที่เกษตรเหมือนปี 2558 เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนหลักปีนี้มีมากกว่า ซึ่งยืนยันกับเกษตรกรว่าจะหาน้ำให้จนกว่าข้าวนาปี 6 ล้านไร่จะเก็บเกี่ยวได้ทั้งหมด” นายประภัตร กล่าว

ส่วนการเพิ่มปฏิบัติการฝนหลวงนั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า จะประสานทุกเหล่าทัพบูรณาการนำเครื่องบินมาช่วยระดมทำฝนหลวงให้มีประสิทธิภาพเกิดผลสำเร็จได้ปริมาณฝนตกมากขึ้น โดยจะเสนอนายกรัฐมนตรีในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมให้สั่งการนำเครื่องบินมาร่วมทำฝนหลวงทั่วประเทศภายในสัปดาห์หน้า

“นายกรัฐมนตรีให้นโยบายของรัฐบาลว่าให้ความสำคัญต่อการแก้ปัญหาภัยแล้ง ซึ่งจะนำเข้าสู่ ครม.ให้นายกฯ รับทราบ ทั้งนี้ ต้องบูรณาการทุกภาคส่วนโดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย ซึ่งผู้ว่าราชการทุกจังหวัดควรมาประชุมด้วยตนเอง ไม่ใช่ส่งแต่ตัวแทน เพราะไม่เห็นปัญหาเกษตรกร หากปลัดกระทรวงมหาดไทยมา ผู้ว่าฯ มาต้อนรับกันเต็มที่ ซึ่งจะนำเรื่องนี้เรียนนายกรัฐมนตรี เนื่องจากปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้งเกิดขึ้นเหมือนหนังฉายวนซ้ำ ๆ รวมทั้งจะเพิ่มพื้นที่แก้มลิงกักเก็บน้ำ แต่ติดปัญหาเป็นที่ราชพัสดุ ทำให้ที่ผ่านมาทำไม่ได้ จึงต้องแก้กฎหมาย หากหาพื้นที่เก็บน้ำได้มากช่วงต้นน้ำจะสามารถส่งมาช่วยพื้นที่ปลายน้ำได้” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

ทั้งนี้ กรมชลประทานรายงานสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำลุ่มเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น 8,293 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 33 เป็นปริมาณน้ำใช้การได้ 1,597 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 9 ดีกว่าปี 2558 มีน้ำใช้การได้เพียง 500 ล้าน ลบ.ม. จึงไม่ได้อยู่ในขั้นวิกฤติ โดยกรมชลประทานวางแผนบริหารจัดการน้ำอย่างเคร่งครัด เพื่อให้มีน้ำใช้เพียงพอจนถึงฤดูแล้ง 2562/2563

สำหรับเขื่อนภูมิพลอยู่ระหว่างสำรวจและออกแบบโครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้เขื่อนภูมิพล เนื่องจากแหล่งน้ำต้นทุนปัจจุบันไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นและมีข้อจำกัดในการพัฒนาโครงการแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ทั้งนี้ อ่างเก็บน้ำของเขื่อนยังมีศักยภาพรองรับปริมาณน้ำในช่วงฤดูฝนและยังสามารถผันน้ำส่วนเกินจากแม่น้ำยวมและแม่น้ำเมยมาเก็บไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง เพื่อรองรับการพัฒนาพื้นที่การเกษตร อุตสาหกรรม และพื้นที่ชุมชนเมืองที่มีการใช้น้ำเพิ่มขึ้น 325.48 ล้าน ลบ.ม.ต่อปีในอีก 20 ปีข้างหน้า ทั้งยังสามารถช่วยแก้ไขหรือบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างได้อีกด้วย  

จากนั้นคณะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เดินทางต่อไปยังเขื่อนสิริกิต์ ตำบลผาเลือด อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำ ซึ่งปัจจุบันมีน้ำ 3,388 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 36 เป็นน้ำใช้การได้ 538 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 8 ทั้งนี้ กรมชลประทานจะบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ที่เกิดขึ้นและเก็บกักน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งหน้าต่อเนื่องไปจนถึงต้นฤดูแล้งปีหน้าให้ได้มากที่สุด จึงขอให้ทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัดและจริงจัง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” เมินกัมพูชาร้องยูเอ็น เย้ยไม่มีการถกเรื่องนี้

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 13 ส.ค.- “มาริษ” เมินกัมพูชาร้องยูเอ็นอ้างไทยละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เย้ยไม่มีการถกเรื่องนี้ เชื่อยูเอ็นเข้าใจ เผยคุยมิตรประเทศ บอก พฤติกรรมเขมรวางทุ่นระเบิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เร่งประชุมร่วมรัฐภาคี-หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมเก็บหลักฐานให้คณะทำงานดูข้อมูลจริงจากพื้นที่ ขอช่วยผลักดันเขมรร่วมวงเก็บกู้ทุ่นระเบิด-ทำตามอนุสัญญาออตตาวา นายมาริษ เสงี่ยมพงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาส่งจดหมายร้องเลขาฯ UN และ UNSC อ้างไทยละเมิดอธิปไตยและข้อตกลงหยุดยิงว่า เป็นการกล่าวอ้าง ซึ่งตนยังไม่เห็นหลักฐานที่ชัดเจน ของกัมพูชาว่าเราละเมิดตรงไหน ในขณะที่ทางกัมพูชาเองใช้วิธีที่ไม่จริงใจต่อความพยายามในการแก้ไขปัญหา ตามกรอบข้อตกลงหยุดยิงที่ได้ทำร่วมกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการยั่วยุด้วยสงครามข่าวสาร ไม่ว่าจะเป็นการใช้ โอกาสในการมาฝังลูกระเบิดสังหารบุคคลในดินแดนของประเทศไทย ในขณะที่ประเทศไทยมีหลักฐานที่ชัดเจน ที่ชี้ให้เห็นว่ากัมพูชาไม่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาให้เป็นไปตามความตกลงหยุดยิงระหว่างกัน อย่างไรก็ตามการที่กัมพูชาส่งหนังสือไปถึงยูเอ็น ทางฝ่ายยูเอ็นก็ไม่ได้มีการเปิดประชุมเพื่อพิจารณาในเรื่องนี้ ในขณะเดียวกัน ไทยก็ได้มีหนังสือชี้แจง เลขาธิการสหประชาชาติไปในทุกโอกาส และทุกกรณีที่มีการขัดแย้งเกิดขึ้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวด้วยว่า ในเรื่องของอนุสัญญาออตตาวา ทางกระทรวงการต่างประเทศได้มีหนังสือผลักดันในเรื่องนี้ไปถึง ทูต ญี่ปุ่น ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก และเจนีวา ในฐานะที่เป็นประธานของรัฐภาคีอนุสัญญาออตาวา 3 ฉบับและอีกหนึ่งฉบับก็กำลังจะส่งตามไป เพื่อกดดันหรือผลักดันให้รัฐภาคี ดำเนินตามมาตรการ อนุสัญญาออตตาวาโดยเร็ว ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบขอข้อมูลหลักฐาน ที่ชัดเจนซึ่งตรงนี้รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศ และกองทัพได้ร่วมมือกันอย่างดี และสนับสนุน […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณอีสาน-ตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคอีสาน ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะบริเวณ จ.จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดจันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาว เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาว และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง […]

“ภูมิธรรม” นำจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” และภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 เวลา 20.05 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกาและคู่สมรส ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง เมื่อรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และภริยา ถึงบริเวณพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา […]

จากแม่ถึงลูกทหารบาดเจ็บ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

ขอนแก่น 12 ส.ค. – ครอบครัวตระกูลบุญธรรมในอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ที่ลูกชายทหารเกณฑ์บาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา แม้สื่อสารกันน้อย แต่ความรักของแม่ลูก ไม่ได้ลดน้อยลง และพร้อมสนับสนุนลูกชายสู่เส้นทางทหารอาชีพตามความตั้งใจ หลังไปเป็นรั้วของชาติ แล้วเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย