กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – “สนธิรัตน์” พร้อมลบภาพ “ขุมทรัพย์พลังงาน” ยืนยันทำงานโปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยจะดูแลราคาพลังงาน ไม่สร้างภาระแก่ประชาชน
เมื่อเวลา 15.39 นาที นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน คนที่ 13 ได้เข้ากระทรวงฯ หลังรับตำแหน่ง โดยได้สักการะศาลพระพรหมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง ก่อนประชุมร่วมกับข้าราชการระดับสูงและผู้บริหารรัฐวิสาหกิจในสังกัด โดยระบุการทำงานจะมีนายศิริ จิระพงษ์พันธ์ อดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มาเป็นที่ปรึกษาด้วย เนื่องจากเป็นผู้เชี่ยวชาญ
รมว.พลังงาน กล่าวว่า ขอให้ทุกฝ่ายเข้าใจร่วมกันว่า กระทรวงพลังงานไม่มีขุมทรัพย์ ไม่มีผลประโยชน์ดังที่เข้าใจ โดยการที่ถูกมองว่าดังกล่าว ก็คงสืบเนื่องมาจากพลังงานเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับผู้คนประชาชนเป็นจำนวนมาก โดยขอยืนยันว่าการทำงานจะมีกลไกที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ ตรงไปตรงมา คำนึงผลประโยชน์ของประชาชน สร้างความมั่นคงและยั่งยืนด้านพลังงาน
“ยืนยันว่าการเข้ามาบริหารกระทรวงพลังงานเป็นไปอย่างโปรงใส ตรวจสอบได้ ขอให้เชื่อมั่น โดยสิ่งสำคัญคือ ให้ชาวบ้านเข้าถึงพลังงานได้ง่าย และราคาพลังงานไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน ไฟฟ้า ก๊าซฯ จะไม่สร้างภาระต่อประชาชน” นายสนธิรัตน์ กล่าว
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า การทำงานจะรักษาผลประโยชน์ของประเทศขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ตอบโจทย์ประชาชน โดยในส่วนของราคาพลังงานจะบริหารไม่สร้างภาระต่อประชาชน ซึ่งจะมีการตรึงราคาแอลพีจีที่ 363 บาท/ถัง ขนาด 15 กก.ต่อไปหรือไม่ รวมถึงจะรักษาระดับราคาบี 20 ให้ต่ำกว่าบี 7 ในอัตรา 5 บาท/ลิตรต่อหรือไม่ หลังสิ้นสุด 31 กรกฎาคม 2562 ตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.)หรือไม่นั้น จะขอดูภาพรวมทั้งหมด โดยยืนยันว่าจะสนับสนุนบี 10 และบี 20 ให้เป็นน้ำมันหลัก เพื่อให้เป็นน้ำมันที่ช่วยดูดซับน้ำมันปาล์มดิบ (ซีพีโอ) ช่วยเหลือราคาปาล์มของเกษตรกร ขณะที่ค่าไฟฟ้าฟรีจะเพิ่มเติมความช่วยเหลือให้กับผู้มีรายได้น้อยในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือไม่นั้น ในเรื่องนี้คงต้องหารือกับกระทรวงการคลัง
ส่วนกรณีจะรื้อแผนพัฒนากำลังไฟฟ้าระยะยาว หรือพีดีพี 2018 หลังจากผู้ตรวจการแผ่นดินท้วงติงให้ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญที่ให้ภาครัฐมีสัดส่วนในโครงสร้างพื้นฐานร้อยละ 51 นายสนธิรัตน์ ยืนยันว่า กระทรวงพลังงานจะชี้แจง โดยทุกอย่างดำเนินการตามกรอบรัฐธรรมนูญ รวมถึงกรณีการวางหลักประกันการรื้อถอนแท่นปิโตรเลียมแหล่ง “บงกช-เอราวัณ” ที่ภาคเอกชน เช่น เชฟรอนฯ ไม่เห็นด้วยและอาจจะมีการฟ้องร้องนั้น ในเรื่องนี้ก็ทราบว่าทุกอย่างดำเนินการตามกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย