ร้อยเอ็ด 16 ก.ค. – ภัยแล้งยังคงทวีความรุนแรง แม้เข้าสู่กลางฤดูฝน แต่น้ำตามแหล่งน้ำต่างๆ ยังคงแห้งขอด เกษตรกรต้องดิ้นรนต่อสู้ ลงทุน ลงแรง ทั้งซื้อน้ำอุปโภคบริโภคที่ซื้อมานานหลายเดือนแล้ว และซื้อน้ำเพื่อปลูกพืชอาหารสัตว์ ขณะที่เกษตรกรบางรายลงแรงสูบน้ำ ใช้สายยางฉีดรดเมล็ดพันธุ์ข้าว หวังเพียงให้ข้าวงอก เพื่อรอฝน
เป็นเวลา 4 เดือนแล้วที่ทุกเช้า ธาดาพงษ์ หาญโยธา ชาวบ้านป่ายาง ต.เกษตรวิสัย อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด ต้องนำรถบรรทุกถังน้ำขนาด 1,500 ลิตร มาซื้อน้ำจากเพื่อนบ้าน เพื่อนำไปรดแปลงหญ้าที่ปลูกเป็นปีแรก
ธาดาพงษ์ ซื้อน้ำวันละ 4 ถัง ทั้งรดแปลงหญ้าที่ปลูกไว้ 3 ไร่ และนำมาให้วัวที่เลี้ยงไว้ 12 ตัว หลังหนองน้ำที่ใช้เลี้ยงวัวเป็นประจำน้ำแห้ง แต่ละวันเสียค่าน้ำและค่าน้ำมัน เฉลี่ยวันละ 200 บาท
ด้วยสภาพน้ำใต้ดินเขต อ.เกษตรวิสัย ส่วนใหญ่เป็นน้ำเค็ม จึงไม่สามารถขุดเจาะน้ำนำมาใช้ได้ ชาวบ้านรายใดโชคดีเจาะได้น้ำจืด ก็ขายน้ำเป็นอาชีพเสริม เฉพาะบ้านป่ายาง มีชาวบ้านเจาะน้ำใต้ดินขาย 3-4 ราย
ราคาขายน้ำ หากส่งถึงบ้าน 2,000 ลิตร ราคา 150-250 บาท แล้วแต่ระยะทาง หากนำรถมาบรรทุกเอง 1,000 ลิตร ราคา 20-30 บาท ชาวบ้านส่วนใหญ่ซื้อเพื่อใช้ในครัวเรือน
ด้านการสู้แล้งของชาวนาที่มีบ่อน้ำ ได้ลงแรงสูบน้ำที่มีน้อยนิด ใช้สายยางเดินรดเมล็ดพันธุ์ข้าวในท้องนา หลังข้าวที่หว่านรอบแรกรอฝนจนแห้งตาย จึงเสี่ยงหว่านข้าวรอบสอง. – สำนักข่าวไทย