ทีโอที 10 ก.ค.-รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมแจงซื้อเครื่องบินเจ็ท ลำใหม่ เพื่อทดแทนเครื่องบินฝูงเดิมที่มีอายุการใช้งานมานานและ สตช.มีภารกิจเพิ่มขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณากระทู้ถามสด เรื่องงบประมาณของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับการซื้อเครื่องบินเจ็ทลำใหม่ ที่ถามโดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบการจัดซื้อเครื่องบินเจ็ทลำใหม่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่ามีราคาสูงกว่าราคาขายในท้องตลาด ที่ขายในราคา 800 ล้านบาท อีกทั้งมองว่า สตช. ยังมีภารกิจอื่นที่จำเป็นเร่งด่วนกว่า เช่น การปรับปรุงโรงพัก ในพื้นที่ห่างไกลที่ต้องเร่งพัฒนาศักยภาพให้บุคลากร ดังนั้น จึงต้องการทราบว่างบประมาณในการจัดซื้อและบำรุงรักษาเครื่องบินเจ็ท ดูแลบุคลากร และตั้งแต่จัดซื้อมามีภารกิจ อะไรบ้าง ใช้งบประมาณไปเท่าไรแล้ว
พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงว่า วัตถุประสงค์ในการจัดซื้อเครื่องบินเจ็ท ลำใหม่ เพื่อทดแทนเครื่องบินฝูงเดิมที่มีอายุการใช้งานมานาน และ สตช.ก็มีภารกิจเพิ่มขึ้น เช่น การขนส่งลำเลียง และต้องสามารถบินในระยะบินที่ไกลขึ้น ที่สามารถเดินทางไป ประเทศในกลุ่มอาเซียนได้ ซึ่งในปี 2560 สตช. ตั้งงบประมาณไว้ 452 ล้านบาท ในการจัดหาเครื่องบินลำใหม่ เป็นเครื่องบินใบพัด แต่ยังไม่ตอบสนองภารกิจ ต่อมาได้พิจารณาจัดหาเครื่องบินที่มีศักยภาพ และ สามารถตอบสนองภารกิจได้เต็มที่ โดยใช้งบประมาณจัดซื้อ วงเงิน 1,200 บาท
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า การจัดซื้ออยู่ในราคาที่เหมาะสม และหน่วยงานด้านงบประมาณได้ตรวจสอบแล้ว ส่วนในการบำรุงช่วง 2 ปีที่ผ่านมาใช้งบประมาณ 5 ล้านบาท ซึ่งตลอดระยะเวลาที่จัดซื้อมา มีภารกิจ ทั้งในประเทศและ ต่างประเทศ 66 ครั้ง ใช้งบประมาณ ในการปฏิบัติภารกิจ 5 ล้านบาท ส่วนการเดินทางไปยังจังหวัดสระบุรีของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในภารกิจคืนโฉนดที่ดินนั้น ตนไม่ทราบว่า หลังเสร็จภารกิจ แล้ว พล.อ.ประวิตร อาจมีภารกิจเร่งด่วน ต้องรีบกลับหรือไม่อย่างไร.-สำนักข่าวไทย