กรุงเทพฯ 10 ก.ค.- หัวหน้าคสช.ออกคำสั่ง ยกเลิก ประกาศ คำสั่ง คสช. ให้โอนคดีที่อยู่ในอำนาจของศาลทหาร ไปอยู่ในอำนาจการพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม แต่ไม่รวมถึงการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยธรรมนูญศาลทหาร ยังให้เป็นอำนาจของศาลทหารต่อไป
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 9/2562 เรื่องการยกเลิกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ บางฉบับที่หมดความจำเป็น
เรื่องที่ยกเลิก อาทิ การดำเนินการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว การตั้งศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ มาตรการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวที่ทำงานเรือประมงในจังหวัดที่มีพื้นที่ติดทะเล การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หลังจากที่แก้ปัญหาอย่างจริงจัง ทำให้ สหรัฐฯ ขยับอันดับสถานการณ์การค้ามนุษย์ของประเทศไทย จากเทียรร์ 2 ต้องเฝ้าจับตามอง มาอยู่ที่เทียร์ 2
ยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม ซึ่งคำสั่งดังกล่าว มุ่งแก้ไขปัญหาข้อบกพร่องในระบบกฎหมาย และการบริหารการประมงของประเทศไทย จนทำให้สหภาพยุโรปเพิกถอนประเทศไทย จากกลุ่ม “ประเทศที่ถูกเตือน” ทำการประมงที่ผิดกฎหมาย หรือ ไอยูยู
หลังจากที่ยกเลิกคำสั่ง ทางกองทัพเรือต้องจัดทำแผนและขั้นตอนการยกเลิกคำสั่งดังกล่าว เสนอต่อคณะรัฐมนตรีภายใน 90 วันนับแต่วันที่คำสั่งนี้ใช้บังคับ และต้องโอนภารกิจ ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้ และงบประมาณรวมทั้งเจ้าหน้าที่และบุคลากรของศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายไปยังส่วนราชการอื่น
ยกเลิกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติเกี่ยวกับการกำหนดให้คดีอยู่ในอำนาจของศาลทหาร บรรดาการกระทำความผิดตามประกาศคสช. และคำสั่งหัวหน้า คสช. ไม่ว่าจะกระทำก่อนหรือหลังคำสั่งนี้ใช้บังคับ ให้อยู่ในอำนาจ การพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม ส่วนการกระทำความผิดที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดีของศาลทหาร ในวันก่อนวันที่คำสั่งนี้ใช้บังคับ ให้โอนคดีนั้น ๆ ไปยังศาลยุติธรรม ไม่รวมถึงการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยธรรมนูญศาลทหาร ยังให้เป็นอำนาจของศาลทหารต่อไป
ส่งผลให้คดีความมั่นคงที่อยู่ในศาลทหารทุกคดี ต้องโอนไปยังศาลยุติธรรม อาทิ คดีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่มีส่วนร่วมกับนักศึกษากระบวนการประชาธิปไตยชุมนุมปิดล้อมหน้าสน.ปทุมวัน ปี 2558 และนำนายรังสิมัน โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในแกนนำขึ้นรถตู้ส่วนตัวออกไป คดีนายจาตุรนต์ ฉายแสง ขัดคำสั่งคสช.กรณีไม่มารายงานตัวในความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์จากการรร่วมปาฐกถาที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ คดีนายอาเเดม คาราดัก และนายเมียไรลี ยูซุฟู สองผู้ต้องหาที่ก่อเหตุลอบวางระเบิดบริเวณสาลพระพรหม แยกราชประสงค์ เมื่อปี 2558เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีเรื่องเกี่ยวกับสื่อมวลชน อาทิขอความร่วมมือสื่อสังคมออนไลน์ การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ต และการปิดสถานีวิทยุชุมชนที่จัดตั้งขึ้นไม่ถูกกฎหมาย คำสั่ง-การตรวจสอบการทำธุรกรรมทางการเงิน การดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของบุคคลและนิติบุคคล เท่าที่จำเป็นแก่การรักษาความมั่นคงของชาติ เป็นต้น .-สำนักข่าวไทย