ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำ ก.ค.ขยับขึ้นต่อเนื่อง

กรุงเทพฯ 10 ก.ค. – ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำ ก.ค.ขยับขึ้นต่อเนื่อง กังวลความไม่แน่นอนเศรษฐกิจโลก สงครามการค้า ติดตามสัญญาณดอกเบี้ยเฟด


นายพิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำเดือนกรกฎาคม 2562 ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน จากระดับ 52.60 จุด มาอยู่ที่ระดับ 56.20 จุด เพิ่มขึ้น 3.60 จุด หรือคิดเป็น 6.84% โดยปัจจัยที่ทำให้ดัชนีฯ ปรับเพิ่มขึ้นมานั้น นักลงทุนคาดว่าน่าจะมาจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก การอ่อนค่าของเงินบาท สถานการณ์สงครามการค้า และความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ตามลำดับ

ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำระยะ 3 เดือนในไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 (ก.ค.-ก.ย.) ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ของปี 2562 จากระดับ 47.79 จุด มาอยู่ที่ระดับ 58.18 จุด เพิ่มขึ้น 10.39 จุด หรือคิดเป็น 21.74% โดยดัชนีฯ ที่ปรับเพิ่มขึ้นมานั้น แสดงให้เห็นว่านักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มของราคาทองคำในระยะ 3 เดือนข้างหน้า โดยนักลงทุนคาดว่ามีปัจจัยมาจากความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย เงินทุนไหลออกจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ สถานการณ์สงครามการค้า ภาวะอัตราเงินเฟ้อ และการอ่อนค่าของเงินบาท ตามลำดับ


สำหรับการคาดการณ์ราคาทองคำเดือนกรกฎาคม 2562 ของผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่มีมุมมองดังนี้ Gold Spot ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 1,363 – 1,458 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ด้านราคาทองคำแท่งในประเทศความบริสุทธิ์ 96.5% ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 20,000-21,000 บาท ต่อน้ำหนัก 1 บาททองคำ และด้านค่าเงินบาทไทยให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 30.24 – 31.16 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ การลงทุนในทองคำช่วงเดือนกรกฎาคม 2562 ผู้ค้าทองคำรายใหญ่ให้ความเห็นว่าราคาทองคำในช่วงเดือนที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้าการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดภาวะ Overbought กล่าวคือมีแรงซื้อมากเกินไป จนทำให้เกิดแรงเทขายกดดันราคาทองคำปรับตัวลดลง ทั้งนี้หากแรงเทขายไม่มากนัก และราคาทองคำเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 1,381 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ได้ จะทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มเป็นบวกมากขึ้น โดยคาดว่าราคาทองอาจทดสอบแนวต้านที่บริเวณ 1,439-  1,461 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ 1.ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐกับสหภาพยุโรป (อียู) กลุ่มตัวอย่างให้ความเห็นว่าจากการรายงานข่าวผู้แทนการค้าของสหรัฐประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากอียูมูลค่า 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งการประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากอียูของสหรัฐมีขึ้นหลังจากสหรัฐและจีนกลับมาเปิดเจรจาทางการค้ากันอีกครั้ง 2.นโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กลุ่มตัวอย่างให้ความเห็นว่านักลงทุนหวังจับสัญญาณทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่สูงเกินคาดในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทั้งนี้ มีกำหนดแถลงนโยบายการเฟดรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการบริการด้านการเงินแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และจากนั้นจะแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาสหรัฐเดือนกรกฎาคมนี้


3.สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่าน กลุ่มตัวอย่างให้ความเห็นว่านักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับการเผชิญหน้าระหว่างอิหร่านและสหรัฐที่เพิ่มสูงขึ้น นับตั้งแต่เกิดเหตุโจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน 2 ลำในอ่าวโอมาน ซึ่งสหรัฐกล่าวหาว่าเป็นฝีมือของอิหร่าน แต่อิหร่านปฏิเสธความเกี่ยวข้อง และ 4.สถานการณ์การเมืองในอังกฤษ กลุ่มตัวอย่างให้ความเห็นว่าความคืบหน้าทางการเมืองอังกฤษนายบอริส จอห์นสัน กลายเป็นตัวเก็งอย่างชัดเจนที่จะมาแทนที่นางเทเรซา เมย์ ในฐานะนายกรัฐมนตรีอังกฤษจากการลงมติในช่วงที่ผ่านมา หลังจากนายบอริสฯ ได้รับคะแนนเสียงอย่างท้วมท้นในการลงมติเลือกผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยมของอังกฤษ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล