ไทยพาณิชย์หั่นจีดีพีปีนี้โต 3.1%

กรุงเทพฯ 9 ก.ค. – ไทยพาณิชย์หั่นจีดีพีปีนี้โต 3.1% จากส่งออกและเศรษฐกิจโลกหดตัว มั่นใจหากจัดตั้งรัฐบาลสัปดาห์นี้จะช่วยดึงความเชื่อมั่นนักลงทุนกลับมา


นายยรรยง ไทยเจริญ รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ Economic Intelligence Center : EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เปิดเผยว่า EIC ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2562 เหลือ 3.1% จากประมาณการเดิมที่ 3.3% ซึ่งเป็นผลมาจากภาคการส่งออกสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่จะขยายตัวเพียง 2.6% ส่งผลให้การส่งออกในช่วง 5 เดือนแรกติดลบ 5% ส่งผลให้ทั้งปีคาดการส่งออกจะติดลบ 1.6% จากเดิมคาดว่าจะขยายตัว 0.6% ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะลดลงจาก 40.7 ล้านคน เหลือ 40.1 ล้านคน หรือขยายตัวเพียง 4.8% เท่านั้น ขณะที่บรรยากาศเศรษฐกิจที่ไม่ดีมาก ส่งผลให้การลงทุนภาคเอกชนปรับตัวลดลงตามไปด้วย โดยเฉพาะภาคการก่อสร้างและธุรกิจเอสเอ็มอี อย่างไรก็ตาม การลงทุนภาครัฐที่ยังขยายตัว 7% จะยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนพยุงเศรษฐกิจปีนี้ จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่ยังเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง

ส่วนค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีเฉลี่ย 5% หากย้อนไป 5 ปีที่ผ่านมาค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินแข็งค่าขึ้นเฉลี่ย 13% ซึ่งยอมรับว่าเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกเป็นอย่างมาก ซึ่งทั้งหมดเป็นปัจจัยมาจากไทยเกินดุลบัญชีเดินสะพัดมาอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 7% ต่อจีดีพี ซึ่งถือว่าสูงมาก และที่ผ่านมาค่าเงินบาทถูกมองเป็นสกุลเงินที่มีความปลอดภัยในการลงทุน จึงมีนักลงทุนเข้ามาลงทุนต่อเนื่อง ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คงจะดำเนินนโยบายการเงินด้วยการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% ในปี 2562 แต่ ธปท.จะต้องดูแลเรื่องเงินทุนเคลื่อนย้าย รวมถึงการสนับสนุนให้นำเงินไปลงทุนต่างประเทศมากขึ้น เพื่อปรับเปลี่ยนเชิงโครงสร้างของค่าเงินบาท


ขณะที่สถานการณ์การเมืองที่ยังไม่แน่นอนสูงส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน แต่เชื่อว่าภายในสัปดาห์นี้จะสามารถจัดตั้งรัฐบาลเสร็จ ทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น หากมีการประกาศนโยบายด้านเศรษฐกิจที่ชัดเจนออกมาว่าจะสามารถดำเนินนโยบายที่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลจะเน้นกระตุ้นระยะสั้นและการช่วยเหลือเอสเอ็มอีให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันจากการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ เชื่อว่าจะเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไตรมาส 4 ปีนี้ ที่จะใช้ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งมองว่าเพื่อประคับประคองเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้ตามที่คาดการณ์ไว้ต้องมีเม็ดเงินอย่างน้อย 20,000 ล้านบาท เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ

ขณะที่ความล่าช้าของการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี  2563 ที่ล่าช้าไปประมาณ 3 เดือน มองว่า อาจจะทำให้มีผลกระทบต่อเม็ดเงินการลงทุนใหม่ ๆ ที่จะเข้ามา แต่เชื่อว่าจะเป็นผลกระทบระยะสั้นเท่านั้น เพราะรัฐบาลยังสามารถใช้กรอบวงเงินเดิมจากงบประมาณปีปัจจุบัน เพื่อใช้ในการลงทุนและเบิกจ่ายได้ต่อเนื่องจนถึงไตรมาส 1 ปีหน้า . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้