เคลื่อนไหวกดดัน ผอ.รร.ชี้แจง ปมคูปองอุปกรณ์เรียน

รร.วัดสุทธิวราราม 8 ก.ค.-ศิษย์เก่าศิษย์ปัจจุบัน เคลื่อนไหวกดดันให้ ผอ.โรงเรียนชี้แจงกรณีคูปองแลกเครื่องเขียน-กระเป๋า ไม่มีคุณภาพ ด้าน ผอ.ยังเงียบ ไร้การเคลื่อนไหว


หลังจากมีกระแสข่าวว่าเช้าวันนี้ (8ก.ค.)นายอารีย์ วีระเจริญ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดสุทธิวราราม จะออกมาตั้งโต๊ะแถลงการณ์ ชี้แจงกรณีคูปองแลกเครื่องเขียนของทางโรงเรียนและกระเป๋านักเรียนที่ไม่มีคุณภาพ ที่หลายฝ่ายออกมาตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นการทุจริตหรือไม่และผู้อำนวยการมีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทผู้ผลิตสินค้าที่นำมาจำหน่ายให้นักเรียนหรือไม่ เนื่องจากครบ 3 วัน ที่ศิษย์เก่าและปัจจุบัน รวมถึงผู้ปกครอง แจ้งให้ ผอ.โรงเรียน ออกมาชี้แจงกรณีนี้


เช้าวันนี้ (8ก.ค.) ตั้งแต่เวลา 08.00 น.บรรยากาศที่บริเวณหน้าโรงเรียนบรรดา ศิษย์เก่า พร้อมนักเรียนปัจจุบันของโรงเรียนวัดสุทธิวราราม รวมถึงผู้ปกครอง ได้นัดรวมตัวกันบริเวณหน้าประตูโรงเรียน พร้อมถือป้ายทวงถามให้ ผอ.โรงเรียน ออกมาชี้แจง แต่จนถึง เวลา 09.00 น.ยังไม่มีความเคลื่อนไหวจากนายอารีย์ หรือคณะครูในโรงเรียน มีเพียงนักเรียน และผู้ปกครอง ออกมาเคลื่อนไหว มาชี้แจงทั้งกรณีคูปอง รวมถึงนำอุปกรณ์ที่แลกมาจากคูปองมาโชว์ให้สื่อมวลชนเห็น ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยจากตำรวจ โดยทางตำรวจพยายามโน้มน้าวให้นักเรียนยุติการเคลื่อนไหว


ตัวแทนผู้ปกครองคนหนึ่ง ออกมาชี้แจงกับสื่อมวลชนว่า ในการประชุมผู้ปกครอง ยืนยันว่าในที่ประชุมไม่เคยมีการพูดถึง  หากกรณีที่ผู้ปกครองไม่ต้องการซื้อสินค้าก็สามารถนำคูปองมาแลกเป็นเงินสดที่ห้องการเงินได้เลย มีเพียงแค่แรงงานต่างด้าวที่มารับแลกคูปอง บอกว่าหากไม่แลกวันนี้ก็ไม่สามารถใช้คูปองได้ ตนเองจึงต้องจำใจรับมา ซึ่งอุปกรณ์ที่ได้มา ตั้งแต่ที่ลูกตัวเองเรียนในชั้น ม.1จนถึงตอนนี้ลูกอยู่ ม.6 ไม่เคยเจออุปกรณ์แบบนี้ ได้แฟ้มพลาสติก กาวแท่งราคาถูก ยางลบ ปากกาไฮไลท์ ซึ่งดูยังไงแล้วก็ไม่มีทางถึง 200 บาท จึงอยากขอความชัดเจนจากโรงเรียนในเรื่องนี้ 

ด้านนายชิติพัทธ์ พุ่มมั่น คณะกรรมการโรงเรียนวัดสุทธิฯ กล่าวว่า สัปดาห์ที่แล้วถูกผู้อำนวยการโรงเรียนเรียกไปพบ พร้อมโชว์หลักฐานว่าโครงการคูปองการเรียนที่ทำมีเอกสารการดำเนินการที่ถูกต้อง และอยากให้ตนไปกระจายข่าวเรื่องนี้ให้กับเพื่อนๆในโรงเรียน ซึ่งตนไม่ยอม  เนื่องจากสงสัยว่าเหตุใดหากมีเอกสารหลักฐานถูกต้องจึงไม่ออกมาชี้แจง รวมถึงให้สังคมออกมาตรวจสอบ และรับทราบทำไมจึงต้องใช้ตนเป็นสะพาน เพื่อปกป้องข้อกล่าวหาตนเอง

ขณะที่บรรยากาศภายในโรงเรียนก่อนเข้าแถวเคารพธงชาติ ครูได้ประกาศชี้แจง ระบุว่าขอให้ครูที่ปรึกษามารับหนังสือจากฝ่ายวิชาการเพื่อแจ้งไปยังผู้ปกครองของนักเรียนในการรับเงินคืน กรณีคูปองค่าอุปกรณ์การเรียน ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น 210 บาท ม.ปลาย 230 บาท โดยวันพรุ่งนี้(9ก.ค.)ให้ครูที่ปรึกษามารับเงินค่าอุปกรณ์การเรียนจากฝ่ายการเงินและนำไปจ่าย เงินคืนตามรายชื่อของนักเรียน พร้อมขอความร่วมมือจากนักเรียน นำอุปกรณ์การเรียนที่ได้รับไปยังไม่ชำรุดมาคืนโรงเรียนภายในวันที่15 ก.ค.นี้ รวมถึงให้ครูที่ปรึกษานำใบเสร็จค่าอุปกรณ์การเรียนมาคืนในวันพบครูของลูกในเดือนสิงหาคม

ทั้งนี้ หลังจากครบ 1 ชั่วโมงที่นักเรียนออกมาเรียกร้องขอความชัดเจนจากนายอารีย์ ทางโรงเรียนก็ยังไม่มีความชัดเจนใดๆ  ยังคงเงียบ ทางกลุ่มศิษย์เก่าและปัจจุบัน จึงได้ร่วมแถลงการณ์ โดยนายชนธัณ อัศวฐานนท์ ประธานกลุ่มสุทธิต่อต้านคอร์รัปชั่นและศิษฐ์เก่า กล่าวว่า หลังจากนี้จะยกระดับการเคลื่อนไหวด้วยการเดินทางไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ สำนักปลัดกระทรวงศึกษาธิการ,สํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท. ),และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน เพื่อส่งหนังสือและเอกสารหลักฐานเรียกร้องให้มีการตรวจสอบ ทุกรณี รวมถึงขอให้มีการสังพักงานนายอารีย์เพื่อป้องกันการแทรกแซงกระบวน การตรวจสอบ ยืนยันหลังจากนี้จะเคลื่อนไหวต่อเนื่องทั้งกับนักเรียน ผู้ปกครอง และหน่วยงาน เพื่อไม่ต้องการให้เรื่องเงียบหายไป โดยทางกลุ่มจะร่วมเดินทางไปยื่นหนังสือในหน่วยงานดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ (9ก.ค.)

สำหรับกรณีดังกล่าวเกิดจากที่โลกโซเชียลมีการเผยแพร่ข้อมูลอ้างถึงความไม่ชอบมาพากลกรณีการดำเนินการของโรงเรียนวัดสุทธิวราราม กรณีการจัดสรรงบประมาณค่าอุปกรณ์การเรียน ในโครงการเรียนฟรี เรียนดี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ ซึ่งโรงเรียนใช้วิธีการออกคูปองมอบให้นักเรียนในวันมอบตัว มูลค่าคูปอง มัธยมศึกษาตอนต้น 210 บาท ม.ปลาย 230 บาท แล้วให้ไปซื้อของกับร้านค้าของโรงเรียนในวันนั้นเลย โดยมีการจัดเป็นชุดไว้เสร็จสรรพ เป็นอุปกรณ์การเรียนคุณภาพกลางๆ เอาคูปองมาแลกไป ขณะที่บางรายการที่นำไปจัดชุดให้ซื้อ ไม่ตรงกับความต้องการของเด็กและผู้ปกครองนั้น 

ทำให้มีบรรดาศิษย์เก่า และปัจจุบัน รวมถึงนักเรียน และผู้ปกครอง รวมตัวกันเรียกร้องขอให้ผอ.โรงเรียนวัดสุทธิวราราม ชี้แจงการบริหารงานที่หลายฝ่ายมีข้อสงสัยถึงความไม่โปร่งใส ตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่นายอารีย์เข้ามารับตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน ไม่เฉพาะเรื่อง การแจกคูปองเงินอุดหนุนอุปกรณ์การเรียนตามนโยบายเรียนฟรี 15 ปี ให้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นคนละ 210 บาท และมัธยมศึกษาตอนปลาย 230 บาทแทนเงินสด แล้วต้องซื้ออุปกรณ์การเรียนภายในโรงเรียนเท่านั้น

จากการตรวจสอบพบว่า อุปกรณ์การเรียนดังกล่าวคุณภาพของสินค้าไม่เหมาะสมกับมูลค่าคูปอง อีกทั้งยังมีการเปลี่ยนแปลงผู้ผลิตกระเป๋านักเรียนจากเดิมราคา 300 บาท เป็น 350 บาท แต่กลับมีคุณภาพต่ำลงและชำรุดง่าย ยังรวมถึงปัญหาคูปองในโรงอาหารและปัญหางบประมาณการจัดสอนพิเศษเพื่อสอบโอเน็ต ด้วย.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

พล.อ.ณัฐพล เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย

มาเลเซีย 7 ส.ค.-พล.อ.ณัฐพล รมช.กห. เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย ก่อนถก GBC ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ บ่ายนี้ เมื่อเช้าวันนี้ (7 ส.ค. 68) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าเยี่ยมคำนับดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในขณะนี้และเป็นเจ้าภาพของสถานที่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาเข้าร่วมด้วย ซึ่งเป็นโอกาสแรกที่ฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาได้พบกันในระดับรัฐมนตรีก่อนที่จะเข้าร่วมประชุม GBC สมัยวิสามัญ ที่จะมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันนี้ Deputy Minister of Defence pays courtesy call on Malaysian Prime Minister before Extraordinary Session of Thailand […]

“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด จับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาส

กทม. 7 ส.ค.-“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด บุกจับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก๊วนกิ๊กเก่า “สีกากอล์ฟ” หลังพบทุจริตยักยอกเงินวัด เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 7 ส.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปาตแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาฯ ป.ป.ท. นำกำลังตำรวจ บก.ปปป. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เปิดปฏิบัติการ “กอล์ฟทีม EP.1” บุกค้นเป้าหมาย 3 จุด ใน จ.สุราษฎร์ธานี จ.พิจิตร และ จ.สมุทรสงคราม เพื่อจับกุมอดีตพระชั้นผู้ใหญ่ และ คนใกล้ชิด ที่เคยพัวพันสัมพันธ์ฉาวสีกากอล์ฟ หลังพบกระทำผิดทุจริตยักยอกเงินวัดมาใช้ดูแลสีกา เป้าหมายจุดแรกที่เข้าตรวจค้นเป็นสถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายทิวากร ดีไพร หรือ […]

มท.1 เด้งฟ้าผ่า ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี

เมืองทองธานี 7 ส.ค.-รมว.มหาดไทย สั่งเด้งฟ้าผ่า “ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี” ก่อนประชุมมอบนโยบายกระทรวงมหาดไทย เหตุมีปัญหาเบิกจ่ายงบประมาณดูแลประชาชนได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยก่อนการประชุมมอบนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ว่า ได้มีการสั่งย้าย ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้มาช่วยราชการที่กระทรวงมหาดไทย หลังมีปัญหาเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณในการช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีการเบิกงบทดรองราชการจ่ายเพียง 55,600 บาท จากที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้ 100 ล้านบาท ส่วนจะย้ายชั่วคราว หรือถาวรน้้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากัน เมื่อถามว่า จะรอผลสอบก่อนใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากันในรายละเอียด โดยคำสั่งจะออกในช่วงเช้าวันนี้ อย่างไรก็ตาม มีการยืนยันจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ว่าได้เดินทางมาร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย​ แต่ปฏิเสธที่จะแสดง​ความเห็น​ และไม่ขอให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน.-315.-สำนักข่าวไทย

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]