กรุงเทพฯ 7 ก.ค. – กสิกรไทยคาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้ามีแนวรับ 1,700-1,715 จุด เงินบาท 30.50-30.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ จับตาการจัดตั้งรัฐบาล-ดอกเบี้ยเฟด
ธนาคารกสิกรไทยสรุปความเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์ที่ผ่านมา (1-5 ก.ค.) ว่า เงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อย หลังแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 6 ปีในช่วงต้นสัปดาห์ที่ 30.52 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยวันศุกร์ 5 กรกฎาคม เงินบาทอยู่ที่ 30.65 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 30.67 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า
สำหรับสัปดาห์หน้า (8-12 ก.ค.) ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาท 30.50-30.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจในประเทศน่าจะอยู่ที่การจัดตั้งรัฐบาล ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม ประกอบด้วย สัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐ จากสุนทรพจน์ของประธานกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อสภาคองเกรส และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดระดับสูงอื่น ๆ ระหว่างสัปดาห์ ตลอดจนข้อมูลเศรษฐกิจเดือนมิถุนายนของจีน และทิศทางการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญระหว่างสัปดาห์ ประกอบด้วย ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนมิถุนายน ตัวเลขสต็อกสินค้าภาคการค้าส่งเดือนพฤษภาคม รวมถึงบันทึกการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 18-19 มิถุนายนที่ผ่านมา
ด้านบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด รายงานว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา (1-5 ก.ค.) ดัชนีหุ้นไทยกลับมาปิดปลายสัปดาห์ที่ 1,731.23 จุด เพิ่มขึ้นเพียง 0.05% จากสัปดาห์ก่อน แม้ระหว่างสัปดาห์จะแตะระดับสูงสุดรอบ 9 เดือนครั้งใหม่ที่ 1,747.53 จุด ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 70,177.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.55% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai เพิ่มขึ้น 0.25% จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 364.48 จุด
ส่วนสัปดาห์หน้า (8-12 ก.ค.) มองว่าดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,715 และ 1,700 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,745 และ 1,765 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการทางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า รวมถึงทิศทางดอกเบี้ยของสหรัฐจากถ้อยแถลงของประธานเฟดและเจ้าหน้าที่เฟดระดับสูง ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญ ได้แก่ รายงานการประชุมนโยบายการเงินของสหรัฐ รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนมิถุนายน ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่น ๆ ได้แก่ ข้อมูลเศรษฐกิจเดือนมิถุนายนของจีน ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนมิถุนายนของญี่ปุ่น รวมถึงผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพฤษภาคมของยูโรโซน.-สำนักข่าวไทย