กรุงเทพฯ 6 ก.ค.- “สมบูรณ์” ชี้ “สุทิน” ทำตัวเป็นเด็กเกเรประจำสภาฯ ไม่ยอมรับคำตัดสิน ย้ำ ญัตติของฝ่ายค้านให้ตั้ง กมธ.สอบสวนที่มา ส.ว. ไม่อยู่ในอานจของสภาฯ ระบุ สภาฯ เป็นสถาบันเพื่อแก้ปัญหาของประชาชน อย่านำมาใช้เพื่อต่อรองทางการเมือง
นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฏร กล่าวถึง กรณีที่นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ออกมากล่าวหานายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เรื่องไม่บรรจุญัตติของฝ่ายค้านที่ขอให้ตั้งคณะกรรมการธิการสอบสวนที่มาของ ส.ว. ว่า ในฐานะเลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฏร ขอชี้แจงให้นายสุทิน ได้รับรู้อีกครั้งว่า ญัตติที่เสนอมานั้น ไม่ใช่หน้าที่ของสภาผู้แทนราษฏร จึงเป็นเหตุที่ไม่บรรจุในวาระการประชุม
นายสมบูรณ์ กล่าวว่า ตามมาตรา 129 ของรัฐธรรมนูญ กำหนดให้สภาฯ จะตั้งกรรมาธิการกระทำกิจการ สอบสวน ศึกษาเรื่องใด ต้องเป็นเรื่องที่อยู่ในหน้าที่และอำนาจของสภาฯ เมื่อรัฐธรรมนูญมาตรา 269 กำหนดให้การสรรหาแต่งตั้ง ส.ว. เป็นอำนาจของ คสช. ดังนั้น จึงไม่อยู่ในหน้าที่และอำนาจของสภาฯ ที่จะไปสอบสวน
นายสมบูรณ์ กล่าวยังกล่าวถึง กรณีที่นายสุทินบอกว่า ปกติถ้าผู้เสนอญัตติเขียนญัตติไม่ถูกต้อง สภาฯ จะเชิญไปแก้ไข ครั้งนี้ทำไมไม่เชิญ แต่ตีตกเลย ว่า ที่ผ่านมาถ้าสภาฯ เห็นว่า ญัตตินั้นมีเนื้อหาสาระที่อยู่ในหน้าที่และอำนาจของสภาฯ ที่กระทำได้ แต่ยังมีข้อความหรือถ้อยคำที่ไม่ถูกต้อง ก็จะเชิญมา แต่ญัตติของนายสุทิน ไม่อยู่ในอำนาจและหน้าที่ของสภาฯ จึงไม่ต้องเชิญมาแก้ไข
“อาจเพราะห่างจากสภาฯ มานาน เพราะคราวที่แล้วนายสุทินอยู่ในกลุ่มถูกตัดสิทธิ์เลือกตั้ง และคงเคยชินกับสภาฯ สั่งได้ เพราะเคยอยู่ในสภาฯ สมัยสภาฯ สั่งได้ ยุคสมัยที่สภาฯ เป็นแบบเผด็จการรัฐสภา รับคำสั่งให้บรรจุญัตติออกกฎหมายเพื่อนายทุนพรรคตัเอง เช่น ออกกฎหมายล้างผิดให้นักโทษทุจริตหนีคดี ออกนโยบายโครงการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัท หรืออนุมัติงบประมาณในโครงการที่เอื้อต่อการทุจริต จนเคยชิน จึงไม่ยอมรับฟังเหตุผลของการไม่บรรจุญัตติ” นายสมบูรณ์ กล่าว
นายสมบูรณ์ กล่าวว่า นายสุทินคงคิดว่า สมัยนี้จะเป็นเช่นเดียวกัน ที่จะเอาอะไรก็ต้องเอาให้ได้ จะเอาเรื่องเอาญัตติที่ไม่ได้อยู่ในอำนาจตัวเองมาบรรจุให้ได้ ไม่เคารพการตัดสินของประธานสภาฯ ที่ได้พิจารณาอย่างรอบคอบ เชิญนักกฎหมาย และที่ปรึกษามาร่วมพิจารณา จึงทำตัวเป็นเด็กเกเรประจำสภาฯ ไม่ยอมรับคำตัดสิน
“สภาผู้แทนราษฏรเป็นสถาบันเพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชน เป็นสถาบันออกกฎหมาย เพื่อความเป็นธรรมของสังคม อย่าใช้สภาผู้แทนราษฎรเพื่อต่อรองทางการเมือง สร้างความแตกแยกในสังคม” นายสมบูรณ์ กล่าว . – สำนักข่าวไทย