นายกฯ ยืนยันปัญหาขัดแย้ง พปชร.ยุติแล้ว

ทำเนียบฯ 2 ก.ค.-นายกฯ ยืนยันปัญหาขัดแย้ง พปชร.ยุติแล้ว แนะวางกฎระเบียบในพรรค ป้องกันปัญหาอีก เคาะรายชื่อ ครม.เรียบร้อย ยืนยันไม่มีปฏิวัติ เชื่อกลไกประชาธิปไตยจะให้ทำงานได้สำเร็จ


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการออกสารนายกรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ (1 ก.ค.) ที่อาจทำให้บางคนตีความว่าการแก้ปัญหาเดิม ๆ คือการปฎิวัติหรือไม่ ว่า ไม่อยากให้มีการตีความไปลึกซึ้งขนาดนั้น เพราะเรารู้ว่าปัญหานั้นเริ่มต้นจากอะไร เมื่อมีปัญหา จะมีการขยายความทางการเมือง มีการเดินขบวน ขยายความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ทำให้ต้องมีการบังคับใช้กฎหมายมากยิ่งขึ้น ซึ่งทำให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเดือดร้อนไปด้วย

“นี่คือความหมายที่ต้องการสื่อสาร เพราะไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีก เรื่องการปฏิวัติรัฐประหาร หรือการปฎิวัติซ้อน คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แม้กระทั่งผมก็ไม่เคยต้องการให้มีการปฎิวัติรัฐประหาร ดังนั้นทุกคนควรกลับมาสู่การแก้ปัญหาที่ถูกวิธี ซึ่ง 5 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลและ คสช.ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในหลายด้าน บางอย่างดีขึ้น ขณะที่บางอย่างยังไม่เรียบร้อย แต่ก็ไม่สามารถหยุดแค่นี้ได้ เพราะเมื่อทำมาถึงขนาดนี้ รัฐบาล ฝ่ายค้าน เอกชน ประชาชน ต้องช่วยกันร่วมปฏิรูปทุกอย่างไปด้วยกัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว


นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า กระบวนการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี ไม่ได้ล่าช้า และหากดูตามระยะเวลา ถือว่าเป็นไปตามกรอบที่กฎหมายกำหนด และเห็นว่าวันนี้ยังไม่มีอะไรผิดเพี้ยนไปจากกรอบเวลาเดิมที่กำหนดไว้ว่าเป็นช่วงเดือนกรกฎาคม จึงขออย่าบิดเบือนในเรื่องนี้ และขอให้ทุกคนเข้าใจว่าทุกอย่างจะต้องแก้ปัญหาผ่านไปให้ได้

ส่วนกรณีความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเป็นพรรคการเมืองใหม่ มีคนจากหลายกลุ่ม ซึ่งทุกพรรคคงมีความขัดแย้ง ขึ้นอยู่กับว่าจะแสดงออกมาอย่างไร และวันนี้ทราบว่าปัญหาถูกแก้ไขเรียบร้อยแล้ว จากการแถลงข่าวของแกนนำพรรค ทั้งนี้ตนขอขอบคุณทุกคน ขออย่าโกรธแค้นอะไรกัน ขณะที่ประชาชนต้องไม่คล้อยตามฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และเชื่อมั่นว่าประชาชนและนักการเมืองจะเข้าใจ และการที่ช่วยกันทำให้ทุกอย่างสงบเรียบร้อยไปได้ ถือว่าเป็นการเริ่มปฎิรูปแล้วและเป็นไปตามกลไกกติกา

“ที่ผ่านมาส่วนตัวรู้สึกไม่สบายใจบ้าง ซึ่งถือเป็นธรรมดา แต่เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็สบายใจ และขณะนี้ก็ไม่มีขั้นตอนใดที่ติดขัด เพราะอยู่ในขั้นของการตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีทุกคน และเมื่อทุกอย่างแล้วเสร็จ จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ และขอพระราชทานวันเวลาในการถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่ต่อไป  เชื่อว่าอีกไม่กี่วันข้างหน้า ทุกอย่างก็จะเรียบร้อย ขอให้ทุกฝ่ายไม่ต้องกังวล และย้ำว่าขณะนี้ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว และพิจารณาทุกตำแหน่งตามความเหมาะสม และยืนยันว่ากรณีรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ จะไม่กระทบการทำงาน” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ในฐานะเป็นผู้ที่พรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ได้ให้แนวทางว่าควรหากฎระเบียบต่าง ๆ ภายในพรรค ให้การดำเนินการของพรรคเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม เมื่อทุกคนเข้าใจตรงกันแล้ว ทุกอย่างก็จบ และหวังว่าพรรคพลังประชารัฐจะเป็นพรรคที่ประชาชนให้ความเชื่อมั่น  และพรรคจะเดินหน้าตามกลไกตามรัฐธรรมนูญ

“ยอมรับว่าการทำงานทุกอย่าง ก็ต้องมีปวดหัวบ้าง เพราะจำเป็นต้องใช้สมองในการทำงาน และวันนี้ต้องขอบคุณที่หลายคนสนับสนุนผม จึงขอให้เชื่อมั่นว่าด้วยกลไกของประชาธิปไตย จะทำงานให้ประสบความสำเร็จ ด้วยความเรียบร้อยปลอดภัย สร้างแนวคิดใหม่ให้บ้านเมืองดีขึ้นกว่าเดิม และต้องเน้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ รองรับการพัฒนาประเทศในอนาคต” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ส่วนการตัดสินใจนั่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นความจำเป็น แต่หลังจากนี้ควรหรือไม่ ก็ยังไม่ทราบ ขณะที่หากมีปัญหาเกิดขึ้นก็ต้องแก้ไขไป โดยรัฐบาลจะต้องมีธรรมาภิบาล และหวังว่าประสบการณ์ทางการเมืองของหลายคน จะทำให้แก้ปัญหาเดิม ๆ และสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนได้ ซึ่งวันนี้ตนให้โอกาสทุกคน เพราะเป็น ส.ส.ที่ได้รับคะแนนจากประชาชน ขณะเดียวขอโอกาสให้ตนในการเป็นนายกรัฐมนตรี ในการจัดสรรตำแหน่งให้เหมาะสม

ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จะนั่งควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะอยู่ในคณะรัฐมนตรีด้วยหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ให้รอดูรายชื่อคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ

นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้ามีการประชุม คสช. เพื่อสรุปทบทวนผลการปฏิติและการดำเนินการในระยะต่อไป โดยเฉพาะเรื่องที่ดำเนินการแล้วยังไม่ได้ข้อยุติเพื่อส่งต่อให้รัฐบาลต่อไปได้ทำต่อในกลไกปกติ  โดย คสช.จะหมดหน้าที่ในวันถวายสัตย์ปฏิญาณตนของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ซึ่งคงเป็นช่วงกลางเดือนกรกฎาคมนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 19 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 5 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย คลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 19-24 กรกฎาคม 2568) ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้ วันที่ 19 กรกฎาคม 2568ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานีภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสระบุรีภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราดภาคใต้: จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี […]

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]