นายกฯ ยืนยันปัญหาขัดแย้ง พปชร.ยุติแล้ว

ทำเนียบฯ 2 ก.ค.-นายกฯ ยืนยันปัญหาขัดแย้ง พปชร.ยุติแล้ว แนะวางกฎระเบียบในพรรค ป้องกันปัญหาอีก เคาะรายชื่อ ครม.เรียบร้อย ยืนยันไม่มีปฏิวัติ เชื่อกลไกประชาธิปไตยจะให้ทำงานได้สำเร็จ


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการออกสารนายกรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ (1 ก.ค.) ที่อาจทำให้บางคนตีความว่าการแก้ปัญหาเดิม ๆ คือการปฎิวัติหรือไม่ ว่า ไม่อยากให้มีการตีความไปลึกซึ้งขนาดนั้น เพราะเรารู้ว่าปัญหานั้นเริ่มต้นจากอะไร เมื่อมีปัญหา จะมีการขยายความทางการเมือง มีการเดินขบวน ขยายความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ทำให้ต้องมีการบังคับใช้กฎหมายมากยิ่งขึ้น ซึ่งทำให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเดือดร้อนไปด้วย

“นี่คือความหมายที่ต้องการสื่อสาร เพราะไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีก เรื่องการปฏิวัติรัฐประหาร หรือการปฎิวัติซ้อน คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แม้กระทั่งผมก็ไม่เคยต้องการให้มีการปฎิวัติรัฐประหาร ดังนั้นทุกคนควรกลับมาสู่การแก้ปัญหาที่ถูกวิธี ซึ่ง 5 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลและ คสช.ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในหลายด้าน บางอย่างดีขึ้น ขณะที่บางอย่างยังไม่เรียบร้อย แต่ก็ไม่สามารถหยุดแค่นี้ได้ เพราะเมื่อทำมาถึงขนาดนี้ รัฐบาล ฝ่ายค้าน เอกชน ประชาชน ต้องช่วยกันร่วมปฏิรูปทุกอย่างไปด้วยกัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว


นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า กระบวนการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี ไม่ได้ล่าช้า และหากดูตามระยะเวลา ถือว่าเป็นไปตามกรอบที่กฎหมายกำหนด และเห็นว่าวันนี้ยังไม่มีอะไรผิดเพี้ยนไปจากกรอบเวลาเดิมที่กำหนดไว้ว่าเป็นช่วงเดือนกรกฎาคม จึงขออย่าบิดเบือนในเรื่องนี้ และขอให้ทุกคนเข้าใจว่าทุกอย่างจะต้องแก้ปัญหาผ่านไปให้ได้

ส่วนกรณีความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเป็นพรรคการเมืองใหม่ มีคนจากหลายกลุ่ม ซึ่งทุกพรรคคงมีความขัดแย้ง ขึ้นอยู่กับว่าจะแสดงออกมาอย่างไร และวันนี้ทราบว่าปัญหาถูกแก้ไขเรียบร้อยแล้ว จากการแถลงข่าวของแกนนำพรรค ทั้งนี้ตนขอขอบคุณทุกคน ขออย่าโกรธแค้นอะไรกัน ขณะที่ประชาชนต้องไม่คล้อยตามฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และเชื่อมั่นว่าประชาชนและนักการเมืองจะเข้าใจ และการที่ช่วยกันทำให้ทุกอย่างสงบเรียบร้อยไปได้ ถือว่าเป็นการเริ่มปฎิรูปแล้วและเป็นไปตามกลไกกติกา

“ที่ผ่านมาส่วนตัวรู้สึกไม่สบายใจบ้าง ซึ่งถือเป็นธรรมดา แต่เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็สบายใจ และขณะนี้ก็ไม่มีขั้นตอนใดที่ติดขัด เพราะอยู่ในขั้นของการตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีทุกคน และเมื่อทุกอย่างแล้วเสร็จ จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ และขอพระราชทานวันเวลาในการถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่ต่อไป  เชื่อว่าอีกไม่กี่วันข้างหน้า ทุกอย่างก็จะเรียบร้อย ขอให้ทุกฝ่ายไม่ต้องกังวล และย้ำว่าขณะนี้ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว และพิจารณาทุกตำแหน่งตามความเหมาะสม และยืนยันว่ากรณีรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ จะไม่กระทบการทำงาน” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ในฐานะเป็นผู้ที่พรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ได้ให้แนวทางว่าควรหากฎระเบียบต่าง ๆ ภายในพรรค ให้การดำเนินการของพรรคเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม เมื่อทุกคนเข้าใจตรงกันแล้ว ทุกอย่างก็จบ และหวังว่าพรรคพลังประชารัฐจะเป็นพรรคที่ประชาชนให้ความเชื่อมั่น  และพรรคจะเดินหน้าตามกลไกตามรัฐธรรมนูญ

“ยอมรับว่าการทำงานทุกอย่าง ก็ต้องมีปวดหัวบ้าง เพราะจำเป็นต้องใช้สมองในการทำงาน และวันนี้ต้องขอบคุณที่หลายคนสนับสนุนผม จึงขอให้เชื่อมั่นว่าด้วยกลไกของประชาธิปไตย จะทำงานให้ประสบความสำเร็จ ด้วยความเรียบร้อยปลอดภัย สร้างแนวคิดใหม่ให้บ้านเมืองดีขึ้นกว่าเดิม และต้องเน้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ รองรับการพัฒนาประเทศในอนาคต” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ส่วนการตัดสินใจนั่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นความจำเป็น แต่หลังจากนี้ควรหรือไม่ ก็ยังไม่ทราบ ขณะที่หากมีปัญหาเกิดขึ้นก็ต้องแก้ไขไป โดยรัฐบาลจะต้องมีธรรมาภิบาล และหวังว่าประสบการณ์ทางการเมืองของหลายคน จะทำให้แก้ปัญหาเดิม ๆ และสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนได้ ซึ่งวันนี้ตนให้โอกาสทุกคน เพราะเป็น ส.ส.ที่ได้รับคะแนนจากประชาชน ขณะเดียวขอโอกาสให้ตนในการเป็นนายกรัฐมนตรี ในการจัดสรรตำแหน่งให้เหมาะสม

ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จะนั่งควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะอยู่ในคณะรัฐมนตรีด้วยหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ให้รอดูรายชื่อคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ

นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้ามีการประชุม คสช. เพื่อสรุปทบทวนผลการปฏิติและการดำเนินการในระยะต่อไป โดยเฉพาะเรื่องที่ดำเนินการแล้วยังไม่ได้ข้อยุติเพื่อส่งต่อให้รัฐบาลต่อไปได้ทำต่อในกลไกปกติ  โดย คสช.จะหมดหน้าที่ในวันถวายสัตย์ปฏิญาณตนของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ซึ่งคงเป็นช่วงกลางเดือนกรกฎาคมนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา วันแรก กระทบชาวบ้านหลายหมื่นคน

หลังทางการไทยตัดไฟฟ้าที่เชื่อมโยงไปยังเมืองเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลชาวบ้านแห่กักตุนน้ำมัน โรงพยาบาลเมียวดีได้รับผลกระทบในการเก็บเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ตู้แช่

ตร.ปัตตานีเร่งล่า 6 คนร้ายควงปืนปล้นร้านสะดวกซื้อ

อุกอาจ 6 คนร้าย พร้อมอาวุธมีด-ปืน ยกพวกปล้นร้านสะดวกซื้อใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินไป 4,492 บาท ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว