กรุงเทพฯ 17 ส.ค. –กกพ.เตือนประชาชนทำใจค่าไฟฟ้าเอฟทีงวดต้นปี 2560 ( ม.ค.-เม.ย.) จะปรับขึ้นตามราคาน้ำมัน โดยอาจปรับขึ้น 8-11สตางค์ต่อหน่วย หลังงวดปลายปี 2559 ตรึงราคาที่ ติดลบ 33.29สตางค์ต่อหน่วย
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผย ว่า แนวโน้ม ค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือเอฟที รอบเดือน มกราคม –เมษายน 2560มีแนวโน้มขยับขึ้น ตามราคาเชื้อเพลิงหลักคือก๊าซธรรมชาติ ที่ผันแปรตามราคาน้ำมัน ประกอบกับช่วงเมษายนจะมีการปิดซ่อมแหล่งก๊าซธรรมชาติจากเมียนมาร์ทำให้โรงไฟฟ้าใช้น้ำมันผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ท่ามกลางความต้องการใช้ไฟฟ้าที่สูงขึ้นในฤดูร้อย ในขณะที่เงินที่จะมาตรึงราคาในขณะนี้เหลือเพียงประมาณ 2,397 ล้านบาท หรือประมาณ 3 สตางค์ต่อหน่วยเท่านั้น
ทั้งนี้ กกพ.ใช้วิธีการบริหารเงินที่ประมาณเหลือจ่ายจากโครงการอุดหนุนพลังงานทดแทนที่เข้าระบบล่าช้ากว่าแผน รวมทั้ง การที่โรงไฟฟ้าถ่านหิน หงสาลิกไนต์ สปป.ลาวยังเดินเครื่องไฟฟ้าไม่เป้นไปตามแผนจึงงดการจ่ายค่าความพร้อมจ่าย 3,300 ล้านบาท รวมสองวงเงิน 16,000 ล้านบาท โดยได้ใช้เงินส่วนนี้มาใช้เป็นส่วนลดค่าไฟฟ้า เอฟที งวด เดือน พ.ค.-ส.ค. 2559 และ ก.ย.-ธ.ค.2559 งวดละ 11.47 สตางค์/หน่วย ในวงเงิน 7,300 ล้านบาทและ 6,496 ล้านบาท ตามลำดับ และยังเงินยังเหลือวงเงินอีก 2,397 ล้านบาท โดยหากมาใช้สำหรับงวด เดือน ก.ย.-ธ.ค.2559 ค่าไฟฟ้าเอฟทีจะลดลงได้ 4.23 สตางค์ต่อหน่วย อย่างไรก็ตาม กกพ.ได้เห็นชอบให้นำไปใช้ในงวดถัดไป แต่จากปริมาณการใช้ไฟฟ้างวดต้นปี 2560 จะสูงกกว่างวดปลายปี 2559 ก็ทำให้เงินส่วนนี้ จะลดค่าไฟฟ้าได้ 3 สตางค์/หน่วย
“จากการบริหารจัดการด้านการเงินก็ทำให้ ค่าเอฟที งวด ก.ย.-ธ.ค.2559 ไม่ปรับขึ้น โดยตรึงอัตราเดิมคือติดลบ 33.29สตางค์ต่อหน่วย เมื่อรวมค่าไฟฐาน ทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยเรียกเก็บอยู่ที่ 3.4227 บาทต่อหน่วย แต่งวดต้นปี 60 จากเงินที่เหลืออยู่น้อย หาก สามการไฟฟ้าลงทุนและมีประสิทธิภาพตามเป้าหมาย ประกอบกับราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นก็ อาจทำให้ภาพรวมค่าเอฟทีจะขึ้นอย่างต่ำ 8-11 สตางค์ต่อหน่วย โดยยอมรับว่าการคิดค่าเอฟทีในงวดนี้พบว่าต้นทุนจากพลังงานหมุนเวียนคิดเป็นค่าไฟสูงถึง 21.07 สตางค์ต่อหน่วย”นายวีระพล กล่าว -สำนักข่าวไทย
