กรุงเทพฯ 19 มิ.ย.-หุ้นไทยคึกคัก ตอบรับทั้งสหรัฐจีนเจรจาการค้า แถมข่าวดีประมูลคลื่น 700 ฉลุย ส่วนผลประมูลดิวตี้ฟรี คิงเพาเวอร์จ่าย 10 ปี กว่า 2 แสนล้านบาท
หุ้นไทยคึกคัก ตอบรับทั้งสหรัฐจีนเจรจาการค้า แถมข่าวดีประมูลคลื่น 700 ฉลุย ส่วนผลประมูลดิวตี้ฟรี คิงเพาเวอร์จ่ายเงิน 10 ปีกว่า 2 แสนล้านบาท
หุ้นไทยวันนี้ปิดบวก 22.38 จุด ตอบรับทั้งปัจจัย ในและต่างประเทศรวมเฉพาะ 2 วันนี้ ก็บวกรวมไปถึง เกือบ 39 จุด ปัจจัยต่างประเทศ คือ ความเห็นทางบวกของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐเกี่ยวกับการเจรจาทางการค้ากับจีน ในขณะที่ ธนาคารกลาง แห่งยุโรป หรืออีซีบีส่งสัญญาณว่าอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ย ปัจจัยนี้ทำให้ราคาน้ำมันขยับขึ้น มีผลมาถึงหุ้นกลุ่มพลังงานซึ่งเป็นกลุ่มที่มีผลต่อตลาดอย่างมากของไทย ซึ่งรวมไปถึงการประมูลคลื่น 700 เมกะเฮิรตซ์และการเปิดผลการประมูลดิวตี้ฟรี 3 สัญญา
ในขณะที่ปตท.สผ. ก็ได้ประกาศล่าสุดว่าโครงการแอลเอ็นจีขนาดใหญ่ โมซัมบิกแอเรียวัน ได้ประกาศตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้ายแล้ว กำลังผลิต 12.88 ล้านตัน/ปี เริ่มผลิตปี 67 นับเป็นข่าวขยายการลงทุนต่อเนื่อง หลังจากที่ ปตท.สผ.เพิ่งประกาศการ เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของ Partex Holding มูลค่า 622 ล้านดอลาร์สหรัฐ เพื่อลงทุนในตะวันออกกลางเป็นหลัก ในขณะที่บอร์ด ปตท.จะมีการประชุมวันพรุ่งนี้ ก็จะมีเพิ่มเม็ดเงินลงทุนเช่นกัน จากเดิมประกาศไว้ 5 ปี 1.67 แสนล้านบาท
หุ้น เอโอที หรือบริษัทท่าอากาศยานไทย (ทอท.) ช่วงบ่ายวันนี้ บวกไปถึงเกือบ ร้อยละ 60 สุดท้าย ปิดตลาดวันที่ 73.75 บาท ตอบรับผลประชุมบอร์ด ที่เห็นชอบการประมูลสัญญาสัมปทาน ร้านค้าปลอดภาษี 3 งาน ที่เป็นที่ทราบกันว่าคิงเพาเวอร์ดิวตี้ฟรีคว้างานประมูลทั้งหมดสัญญา 10 ปี 6 เดือน ระหว่างวันที่ 28 ก.ย.63 – 31 มี.ค.74 รวมแล้วคิงเพาเวอร์ต้องจ่ายแก่ ทอท. เกือบ 2.4 แสนล้านบาท หรือ 23,548 ล้านบาท/ปี ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการวิจารณ์กันว่า ทำไมคิงเพาเวอร์ถึงเป็นรายเดียวที่คว้าไป 3 งาน ดังนั้น ทอท.จึงออกออกเอกสารเผยแพร่ เปิดเผยข้อมูลผลการให้คะแนน และข้อเสนอผลประโยชน์ผลตอบแทนของแต่ละรายที่เข้าประมูล
เริ่มจากสัมปทานให้สิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ดิวตี้ ฟรี สุวรรณภูมิ) มีผู้เข้าประมูล 3 ราย คิงเพาเวอร์คะแนนสูงสุดเพราะเสนอผลประโยชน์ตอบแทนปีละ 15,419 ล้านบาท ในขณะที่อีก 2 ราย เสนอผลตอบแทนต่ำกว่า โดยกิจการร่วมค้าการบินกรุงเทพ ล็อตเต้ ดิวตี้ฟรี (ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ) เสนอค่าผลประโยชน์ตอบแทนปีละประมาณ 8,516 ล้านบาท และกิจการร่วมค้า โรงแรมรอยัลออคิด ที่ร่วมกับเอ็มไพร์ เอเชีย กรุ๊ป และ WDFG เสนอค่าผลประโยชน์ตอบแทนปีละ 7,255 ล้านบาท
กิจกรรมเชิงพาณิชย์ภายในอาคารผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ งานนี้ มีผู้เข้าร่วมประมูล 2 ราย และ คิง เพาเวอร์ ได้คะแนนเกือบเต็ม โดยได้ไป 95.20 คะแนน เพราะเสนอค่าผลประโยชน์ตอบแทนปีละ 5,798 ล้านบาท ในขณะที่ ผู้พลาดหวัง คือเซ็นทรัลพัฒนา ได้ 80.81 คะแนน โดยสนอค่าผลประโยชน์ตอบแทนปีละ 3,003 ล้านบาท ส่วนการคัดเลือกผู้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (ดิวตี้ ฟรี ) ท่าอากาศยานภูเก็ต, หาดใหญ่ และเชียงใหม่ มีผู้ประมูล 3 ราย คิงเพาเวอร์ นำโด่ง ได้ 96.10 คะแนน เพราะเสนอค่าผลประโยชน์ตอบแทนปีละ 2,331ล้านบาท ตามมาด้วยอันดับ 2 กลุ่ม กิจการร่วมค้าโรงแรมรอยัลออคิด ได้ 86.72 คะแนน เสนอผลประโยชน์ปีละ 2,012ล้านบาท และ กิจการร่วมค้าการบินกรุงเทพ ล็อตเต้ ดิวตี้ฟรี ได้ 84.74 คะแนน เสนอค่าผลประโยชน์ตอบแทนปีละ 2,108 ล้านบาท
ในวันนี้ได้มีการจัดสรรคลื่นความถี่ 700 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 30 เมกะเฮิรตซ์ แบ่งออกเป็น3 ใบอนุญาต ใบอนุญาตละ 10 เมกะเฮิรตซ์ ราคาใบอนุญาตละ 17,584 ล้านบาท แบ่งการชำระเป็น 10 ปี อายุใบอนุญาต 15 ปี เมื่อรวมภาษีมูลค่าเพิ่มก็จะอยู่ที่ประมาณ 18,814 ล้านบาท โดยผู้ให้บริการในตลาดโทรคมนาคมไทยทั้ง 3 รายได้ยื่นเสนอครบทั้ง 3 ราย คือ บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส), บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) และ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ซึ่งทุกรายสมานสามัคคีกัน ยื่นเสนอคลื่นความถี่กันคนละชุดไม่ซ้ำกัน ไม่มีการเสนอส่วนเพิ่มที่จะต้องมาแข่งขันกันแต่ละชุดความถี่กันแต่อย่างใด เพราะเฉพาะนั้นทั้ง 3 รายก็ได้กันคนละ1 ชุด จ่ายเท่ากัน รวมแล้วรัฐบาลจะได้เงินจากการจัดสรรคลื่นครั้งนี้ 56,444 ล้านบาท
โดยเงินส่วนนี้จะไปจ่ายคืนแก่ ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลที่คืนคลื่นประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาท เพราะคลื่น 700 เป็นการนำคลื่นทีวีดิจิทัลที่คืนคลื่นมาจัดสรรต่อนั่นเอง ในขณะที่เงินที่เหลือราว 2 หมื่นล้านบาท ก็จะเป็นเงินของภาครัฐต่อไป และหลังจากการจัดสรรคลื่นความถี่ในรอบนี้ กสทช.จะจัดสรรคลื่นความถี่ 2600 เมกะเฮิรตซ์ และ 26-28 กิกะเฮิรตซ์ โดยจะกลับไปใช้การประมูลแบบมัลติแบนด์ หรือประมูลร่วมกันสองย่านความถี่ในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปี 2563 โดยจุดประสงค์เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี 5G .- สำนักข่าวไทย