ศาลทหาร อนุมัติหมายจับ 17 ผู้ต้องหาระเบิดใต้

ศาลทหารกรุงเทพ 18ส.ค.-ศาลทหาร อนุมัติหมายจับ 17 ผู้ต้องหาระเบิดใต้ พร้อมตั้งข้อหา อั้งยี่ชุมนุมและฝ่าฝืน คำสั่งคสช. ขณะที่ผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธ แต่ยอมรับเป็นองค์กรใต้ดินต่อต้านรัฐบาล


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00น. วันนี้ (18ส.ค.)พนักงานสอบสวนกองกำกับการ 5 กองปราบปราม ได้เดินทางมายังศาลทหารกรุงเทพ กรมพระธรรมนูญ เพื่อขออำนาจศาลทหารกรุงเทพ ออกหมายจับผู้ต้องหาก่อเหตุวางระเบิดหลายจุด ใน 7 จังหวัดภาคใต้ รวม 17 คน ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาตาม มาตรา 209  ตามประมวลกฎหมาย ป.วิอาญา ข้อหาการกระทำผิดอั้งยี่ และฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ที่ 3/2558 ว่าด้วยการชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน ทั้งนี้ผู้ต้องสงสัยที่อยู่ในการควบคุมทั้งหมดมี 15 คน ถูกควบคุมตัวอยู่ที่มณฑลทหารบกที่ 11  (มทบ.11)  และอีก 2 คน ได้ถูกปล่อยตัวกลับ ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้น ทั้งหมดยังให้การปฏิเสธ ทั้งในเรื่องข้อหา รวมถึงความเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด แต่ยอมรับว่า เป็นสมาชิกของพรรคปฏิวัติเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งเป็นกลุ่มใหม่  มีแนวคิดต่อสู้ทางการเมืองกับรัฐ โดยการตรวจค้นบ้าน 1 ใน 17 ผู้ต้องหา พบอาวุธปืนสงคราม AK-47จำนวน 1 กระบอก

อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้(19ส.ค.)จะครบกำหนดควบคุมตัว 7 วัน ตามมาตรา 44 กองปราบปรามจึงต้องขออนุมัติจากศาลทหารออกหมายจับผู้ต้องสงสัยทั้ง17คน ภายในวันนี้(18ส.ค.)


ทั้งนี้มีรายงานว่าภายหลังพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ได้ขอให้ศาลทหารออกหมายจับผู้ต้องสงสัย 17 คน โดยใช้เวลาเกือบ3ชั่วโมง ศาลทหารได้อนุมัติหมายจับตามคำร้องของพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เลขที่ จพ29/2559 ข้อหา ตาม มาตรา 209  ตามประมวลกฎหมาย ป.วิอาญา ข้อหาการกระทำผิดอั้งยี่ และฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ที่ 3/2558 ว่าด้วยการชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน ให้จับกุมผู้ต้องหาประกอบด้วย

1.ด.ต.ศิริรัตน์ มโนรัตน์ อายุ 71 ปี ชาว จ.พัทลุง

2.นายวีระชัฏฐ์  จันทร์สะอาด อายุ 62 ปี ชาวจ.ททบุรี


3.นายประพาส โรจนพิทักษ์ อายุ 67 ปี ชาวจ.ตรัง

4.นายปราโมทย์ สังหาญ อายุ 63 ปี ชาว จ.สตูล

5.นายสรศักดิ์ ดิษปรีชา อายุ 49 ปี ชาว.กทม.

6.นางสาวมีนา แสงศรี อายุ 39 ปี ชาว กทม.

7.นาย ศิริฐาโรจน์ จินดา อายุ 56 ปี ชาว จ.หนองคาย

8.ร.ต.ต. หญิง วิลัยวรรณ คูณสวัสดิ์ อายุ 54 ปี ชาวจ.หนองคาย

9.นายชินวร ทิพย์นวล อายุ 71 ปี ชาวจ.เชียงราย

10.นายณรงค์ ผดุงศักดิ์ อายุ 60 ปี ชาวจ.อ่างทอง

11.ร.ต.ท.สมัย คูณสวัสดิ์ อายุ 57 ปี ชาวจ.หนองคาย

12.นายศรวัชษ์ กุระจินดา อายุ 60 ปี ชาว จ.มหาสารคาม

13.นายเหนือไพร เซ็นกลาง อายุ 41 ปี

14.นายวิเชียร เจียมสวัสดิ์ อายุ 59 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช

15.นายบุญภพ เวียงสมุทร อายุ 61 ปี ชาวจ.เชียงราย

16.นางสาวรุจิยา เสาสมภพ อายุ 52 ปี ชาวจ.ร้อยเอ็ด

17.นายวิโรจน์ ยอดเจริญ อายุ 67 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]