กรุงเทพฯ 16 มิ.ย.-รวบแล้ว! 3 คน แก๊งวินจักรยานยนต์รับจ้างยกพวกตะลุมบอนย่านอุดมสุข ตำรวจ สน.บางนา เตรียมขอหมายจับอีก 4 คน
เมื่อเวลา 15.00 น. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ประชุมร่วมกับตำรวจ สน.บางนา และชุดสืบสวน เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีกลุ่มวินจักรยานยนต์รับจ้าง 2 กลุ่ม ก่อเหตุตะลุมบอนกันกลางถนนย่านอุดมสุข เมื่อวานนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย โดย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ เปิดเผยว่า คดีนี้ผู้ก่อเหตุทั้งหมดกระทำการอุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมาย จึงย้ำให้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดในทุกฐานความผิด และให้มีการตรวจสอบประวัติ และสารเสพติดของผู้ขับขี่วินจักรยานยนต์ทุกพื้นที่
ขณะที่ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวน สน.บางนา เตรียมขอศาลจังหวัดพระโขนง ออกหมายจับเพิ่มอีก 4 คน และเชื่อมีอีกหลายคนที่เกี่ยวข้อง จะทยอยรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยขอเวลาในการรวบรวมพยานหลักฐานให้รัดกุม ส่วนสาเหตุการทะเลาะวิวาทเบื้องต้นเกิดจากการแย่งลูกค้ากัน มากกว่าจะเป็นสาเหตุของการพยายามยึดวินรถจักรยานยนต์รับจ้างคู่แข่ง ยืนยันว่าวินรถจักรยานยนต์ ซอย 1 ขออนุญาตถูกต้องเมื่อเดือนมีนาคม โดยมีนายประมุข วิเชียรดิลกุล เป็นหัวหน้า และเป็นผู้ยื่นยขอใบอนุญาตตั้งวิน แต่ไม่ได้ชี้ชัดว่านายประมุข เป็นผู้มีอิทธิพล สั่งการให้ลูกวินก่อเหตุดังกล่าว แต่วินรถจักรยานยนต์ ซอย 2 พบว่า ยังไม่ได้รับอนุญาต พร้อมสั่งตรวจสอบปัญหาการเรียกรับผลประโยชน์จากกลุ่มที่ตั้งวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง
ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันว่าคดีนี้ ศาลจังหวัดพระโขนง ออกหมายจับ 3 คน คือ นายวันชัย มงคลเข็ม, นายปิยะ พวงเกษร และ นายรังสรรค์ ศรไชยากร ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว ร่วมกันพกพาอาวุธเข้าไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร และร่วมกันยิงปืน ซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมชน โดยเมื่อเช้าที่ผ่านมา ตำรวจนำหมายค้นเข้าตรวจค้นชุมชนเป้าหมาย จนจับตัวผู้ต้องหาได้ 2 คน คือ นายปิยะ และ นายรังสรรค์ นอกจากนี้ ยังควบคุมตัวนายเจริญ หรือ ต่อ เจริญผล ที่ตำรวจเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้มาสอบสวน และแจ้งข้อหา มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วน นายวันชัย ผู้ต้องหาตามหมายจับอีกหนึ่งคน ตำรวจยังอยู่ระหว่างการติดตามจับตัว เชื่อยังหลบในพื้นที่กรุงเทพฯ สำหรับอาวุธปืน เบื้องต้นพบมีอาวุธปืน จำนวน 3 กระบอก ที่ใช้ก่อเหตุ โดยอยู่ระหว่างการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ต่างๆ เพื่อให้หลักฐานมีความรัดกุม
ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังยืนยันตัวเลขผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ มีจำนวน 3 คน ส่วนผู้เสียชีวิต มีเพียง 1 คน คือ นายวีรวัฒน์ พึ่งครุฑ พนักงานขนส่งเอกชน และหากตรวจสอบพบ นายวีรวัฒน์ ผู้ตาย เกี่ยวข้องร่วมเหตุการณ์ตะลุมบอนด้วย ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยแยกส่วนกัน ระหว่างการร่วมกระทำความผิดและการถูกฆ่า
ด้าน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง” ออกหนังสือชี้แจงกรณีมีกระแสข่าวว่า เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิ เกี่ยวข้องกับการร่วมกับวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง ย่านอุดมสุข ทะเลาะวิวาทกัน โดย มูลนิธิฯ ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว และใคร่ขอเรียนชี้แจงว่า นายจีระพงศ์ วิบูลย์รัชกิจ เป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สังกัดแผนกบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งอยู่ในระหว่างทดลองงาน (เริ่มปฏิบัติงานเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา) โดยภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทางมูลนิธิฯ ได้พักงานเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว เพื่อรอผลสรุปทางคดี หากมีความผิดจริงมูลนิธิฯ จะเลิกจ้างในทันที มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มีนโยบายให้ความสำคัญในด้านการตรวจสอบพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครเป็นอันดับแรก หนึ่งในขั้นตอนสำคัญในการคัดเลือกเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครของมูลนิธิฯ คือ การตรวจเช็กประวัติอาชญากรรม ประกอบการพิจารณา ซึ่งมูลนิธิฯ ได้ดำเนินการตลอดเรื่อยมา โดยหากเจ้าหน้าที่หรืออาสาสมัครรายใดมีพฤติกรรมโดยมิชอบ มูลนิธิฯ จะเร่งตรวจสอบในทันที และดำเนินการตามกฎระเบียบของมูลนิธิฯ และตามกฎหมายต่อไป
ล่าสุดมีรายงานข่าวจากกรมการขนส่งทางบก และ กทม.ระบุว่า อาจจะนำปัญหาดังกล่าวเข้าสู่การหารือภายในคณะกรรมการจัดระเบียบรถจักรยานยนต์สาธารณะในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อพิจารณาหาทางออกของปัญหา โดยคณะกรรมการจัดระเบียบฯ ที่จัดตั้งขึ้นโดยคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ หรือ คสช. และได้มีการมอบหมายให้มณฑลทหารบกที่ 11 ร่วมกับกรุงเทพมหานคร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมการขนส่งทางบก รวม 4 ฝ่าย ดำเนินการจัดระเบียบวินรถจักรยานยนต์รับจ้างในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา แบ่งเป็น 3 ระยะ ส่วนใหญ่เป็นการนำวินรถจักรยานยนต์รับจ้างหรือรถป้ายดำที่มีอยู่ เข้าสู่ระบบจดทะเบียนให้ถูกต้อง รวมถึงการกำหนดจุดตั้งวินที่เหมาะสม
อย่างไรก็ตามปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา การกำหนดจุดที่ตั้งส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดเป็นการขึ้นทะเบียนวินเก่าที่มีอยู่ในพื้นที่เดิม โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจได้ลงไปตรวจสอบพูดคุยกับหัวหน้าวินในแต่ละพื้นที่ เพื่อแก้ปัญหาผู้มีอิทธิพลและสำรวจสมาชิกที่มีในแต่ละวินทั้งหมด เมื่อได้ข้อสรุปก็จะมีการส่งเรื่องให้สำนักงานเขตในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตรวจสอบจุดที่ตั้งและเมื่อผ่านการพิจารณาถูกต้องตามขั้นตอนแล้ว จะมอบหมายให้กรมการขนส่งทางบกทำการขึ้นทะเบียน ในส่วนของผู้ประกอบอาชีพขับรถที่จะต้องขึ้นทะเบียนเป็นสมาชิกอยู่ในวินนั้นๆ มีการทำประวัติ เพื่อให้สามารถดูแลความปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร
ภายหลังเกิดเหตุวิวาทบริเวณปากซอยอุดมสุข ทั้งประชาชนที่ใช้บริการและที่สัญจรผ่านพื้นที่ดังกล่าว ก็มีความกังวลว่าปัญหาความขัดแย้งของวินทั้งสองวินจะทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยขึ้นในพื้นที่และหวังว่าคณะกรรมการจัดระเบียบฯ จะลงมาตรวจสอบแก้ปัญหาดูแลจุดที่ตั้งของวินให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาในระยะยาว.-สำนักข่าวไทย