BIG STORY : รวบแล้ว! 3 คนแก๊งวิน จยย. ยกพวกตะลุมบอนย่านอุดมสุข

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย.-รวบแล้ว! 3 คน แก๊งวินจักรยานยนต์รับจ้างยกพวกตะลุมบอนย่านอุดมสุข ตำรวจ สน.บางนา เตรียมขอหมายจับอีก 4 คน


เมื่อเวลา 15.00 น. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ประชุมร่วมกับตำรวจ สน.บางนา และชุดสืบสวน เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีกลุ่มวินจักรยานยนต์รับจ้าง 2 กลุ่ม ก่อเหตุตะลุมบอนกันกลางถนนย่านอุดมสุข เมื่อวานนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย โดย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ เปิดเผยว่า คดีนี้ผู้ก่อเหตุทั้งหมดกระทำการอุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมาย จึงย้ำให้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดในทุกฐานความผิด และให้มีการตรวจสอบประวัติ และสารเสพติดของผู้ขับขี่วินจักรยานยนต์ทุกพื้นที่ 


ขณะที่ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวน สน.บางนา เตรียมขอศาลจังหวัดพระโขนง ออกหมายจับเพิ่มอีก 4 คน และเชื่อมีอีกหลายคนที่เกี่ยวข้อง จะทยอยรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยขอเวลาในการรวบรวมพยานหลักฐานให้รัดกุม ส่วนสาเหตุการทะเลาะวิวาทเบื้องต้นเกิดจากการแย่งลูกค้ากัน มากกว่าจะเป็นสาเหตุของการพยายามยึดวินรถจักรยานยนต์รับจ้างคู่แข่ง ยืนยันว่าวินรถจักรยานยนต์ ซอย 1 ขออนุญาตถูกต้องเมื่อเดือนมีนาคม โดยมีนายประมุข วิเชียรดิลกุล เป็นหัวหน้า และเป็นผู้ยื่นยขอใบอนุญาตตั้งวิน แต่ไม่ได้ชี้ชัดว่านายประมุข เป็นผู้มีอิทธิพล สั่งการให้ลูกวินก่อเหตุดังกล่าว แต่วินรถจักรยานยนต์ ซอย 2 พบว่า ยังไม่ได้รับอนุญาต พร้อมสั่งตรวจสอบปัญหาการเรียกรับผลประโยชน์จากกลุ่มที่ตั้งวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง


ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันว่าคดีนี้ ศาลจังหวัดพระโขนง ออกหมายจับ 3 คน คือ นายวันชัย มงคลเข็ม, นายปิยะ พวงเกษร และ นายรังสรรค์ ศรไชยากร ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว ร่วมกันพกพาอาวุธเข้าไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร และร่วมกันยิงปืน ซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมชน โดยเมื่อเช้าที่ผ่านมา ตำรวจนำหมายค้นเข้าตรวจค้นชุมชนเป้าหมาย จนจับตัวผู้ต้องหาได้ 2 คน คือ นายปิยะ และ นายรังสรรค์ นอกจากนี้ ยังควบคุมตัวนายเจริญ หรือ ต่อ เจริญผล ที่ตำรวจเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้มาสอบสวน และแจ้งข้อหา มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วน นายวันชัย ผู้ต้องหาตามหมายจับอีกหนึ่งคน ตำรวจยังอยู่ระหว่างการติดตามจับตัว เชื่อยังหลบในพื้นที่กรุงเทพฯ สำหรับอาวุธปืน เบื้องต้นพบมีอาวุธปืน จำนวน 3 กระบอก ที่ใช้ก่อเหตุ โดยอยู่ระหว่างการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ต่างๆ เพื่อให้หลักฐานมีความรัดกุม

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังยืนยันตัวเลขผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ มีจำนวน 3 คน ส่วนผู้เสียชีวิต มีเพียง 1 คน คือ นายวีรวัฒน์ พึ่งครุฑ พนักงานขนส่งเอกชน และหากตรวจสอบพบ นายวีรวัฒน์ ผู้ตาย เกี่ยวข้องร่วมเหตุการณ์ตะลุมบอนด้วย ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยแยกส่วนกัน ระหว่างการร่วมกระทำความผิดและการถูกฆ่า 

ด้าน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง” ออกหนังสือชี้แจงกรณีมีกระแสข่าวว่า เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิ เกี่ยวข้องกับการร่วมกับวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง ย่านอุดมสุข ทะเลาะวิวาทกัน โดย มูลนิธิฯ ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว และใคร่ขอเรียนชี้แจงว่า นายจีระพงศ์ วิบูลย์รัชกิจ เป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สังกัดแผนกบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งอยู่ในระหว่างทดลองงาน (เริ่มปฏิบัติงานเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา) โดยภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทางมูลนิธิฯ ได้พักงานเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว เพื่อรอผลสรุปทางคดี หากมีความผิดจริงมูลนิธิฯ จะเลิกจ้างในทันที มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มีนโยบายให้ความสำคัญในด้านการตรวจสอบพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครเป็นอันดับแรก หนึ่งในขั้นตอนสำคัญในการคัดเลือกเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครของมูลนิธิฯ คือ การตรวจเช็กประวัติอาชญากรรม ประกอบการพิจารณา ซึ่งมูลนิธิฯ ได้ดำเนินการตลอดเรื่อยมา โดยหากเจ้าหน้าที่หรืออาสาสมัครรายใดมีพฤติกรรมโดยมิชอบ มูลนิธิฯ จะเร่งตรวจสอบในทันที และดำเนินการตามกฎระเบียบของมูลนิธิฯ และตามกฎหมายต่อไป  

ล่าสุดมีรายงานข่าวจากกรมการขนส่งทางบก และ กทม.ระบุว่า อาจจะนำปัญหาดังกล่าวเข้าสู่การหารือภายในคณะกรรมการจัดระเบียบรถจักรยานยนต์สาธารณะในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อพิจารณาหาทางออกของปัญหา โดยคณะกรรมการจัดระเบียบฯ ที่จัดตั้งขึ้นโดยคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ หรือ คสช. และได้มีการมอบหมายให้มณฑลทหารบกที่ 11 ร่วมกับกรุงเทพมหานคร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมการขนส่งทางบก รวม 4 ฝ่าย ดำเนินการจัดระเบียบวินรถจักรยานยนต์รับจ้างในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา แบ่งเป็น 3 ระยะ ส่วนใหญ่เป็นการนำวินรถจักรยานยนต์รับจ้างหรือรถป้ายดำที่มีอยู่ เข้าสู่ระบบจดทะเบียนให้ถูกต้อง รวมถึงการกำหนดจุดตั้งวินที่เหมาะสม 

อย่างไรก็ตามปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา การกำหนดจุดที่ตั้งส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดเป็นการขึ้นทะเบียนวินเก่าที่มีอยู่ในพื้นที่เดิม โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจได้ลงไปตรวจสอบพูดคุยกับหัวหน้าวินในแต่ละพื้นที่ เพื่อแก้ปัญหาผู้มีอิทธิพลและสำรวจสมาชิกที่มีในแต่ละวินทั้งหมด เมื่อได้ข้อสรุปก็จะมีการส่งเรื่องให้สำนักงานเขตในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตรวจสอบจุดที่ตั้งและเมื่อผ่านการพิจารณาถูกต้องตามขั้นตอนแล้ว จะมอบหมายให้กรมการขนส่งทางบกทำการขึ้นทะเบียน ในส่วนของผู้ประกอบอาชีพขับรถที่จะต้องขึ้นทะเบียนเป็นสมาชิกอยู่ในวินนั้นๆ มีการทำประวัติ เพื่อให้สามารถดูแลความปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร

ภายหลังเกิดเหตุวิวาทบริเวณปากซอยอุดมสุข ทั้งประชาชนที่ใช้บริการและที่สัญจรผ่านพื้นที่ดังกล่าว ก็มีความกังวลว่าปัญหาความขัดแย้งของวินทั้งสองวินจะทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยขึ้นในพื้นที่และหวังว่าคณะกรรมการจัดระเบียบฯ จะลงมาตรวจสอบแก้ปัญหาดูแลจุดที่ตั้งของวินให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาในระยะยาว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ.จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบกสดุดีทหารกล้า จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ ขอพระราชทานยศทหารเลื่อนขั้นอย่างสมเกียรติ วันที่ 30 ก.ค. 68 กองทัพบกร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมและส่วนราชราชการพื้นที่ จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพทหารกล้าที่สละชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ จากเหตุการณ์พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยใน พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้มอบให้คณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก ร่วมเป็นเกียรติในพิธีพระราชทานเพลิงศพของทหารหาญ จำนวน 4 นาย ดังนี้ 1.ส.อ.จิรายุ สิงห์อ้น ตำแหน่งพลลาดตระเวน กองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6 (ร้อย ลว.ไกล 6) กองพลทหารราบที่ 6 ซึ่งเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ (25 ก.ค.68) ณ วัดตลาดราชมงคล อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด โดยมี พล.อ. ณัฐวุฒิ นาคะนคร รองผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีพระราชเพลิงศพ โดยกองทัพบกได้ดำเนินการปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ขั้น ขอพระราชทานยศทหารเป็นร้อยโท […]

ทบ.ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบก ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน ประชาคมโลกต้องเห็นความเสียหาย ทั้งบ้านเรือน-โรงเรียน-โรงพยาบาล เร็วๆ นี้ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ เข้าดูพื้นที่บริเวณจุดปะทะ บริเวณช่องอานม้า จ.อุบลราชธานีว่า จุดที่ฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศลงไปดูพื้นที่ปฏิบัติการทางทหาร บริเวณจุดที่เคยมีการปะทะกันนั้น เป็นบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี จึงเห็นมีภาพปรากฏถึงความเสียหายที่เกิดจากการใช้อาวุธจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งคงเป็นเรื่องปกติ เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ในบริบทของพื้นที่ทางยุทธการ และบริเวณนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายทางทหาร สำหรับฝ่ายไทยมีแผนจะจัดกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวเช่นกัน โดยฝ่ายไทยจะไม่เน้นการสร้างภาพลวงแบบฉาบฉวย แต่จะเน้นสื่อสารเชิงคุณภาพ สิ่งที่จำเป็นจะต้องสื่อถึงประชาคมโลกคือ ความเสียหายต่อบ้านเรือน โรงเรียน โรงพยาบาล ที่ฝ่ายทหารกัมพูชาจงใจพุ่งเป้าโจมตีไปยังเป้าหมายเหล่านั้น จนมีพลเรือน ประชาชน เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวอยู่ลึกไกลเข้ามาภายในประเทศไทย และห่างจากพื้นที่สู้รบเข้ามาในไทยไกลมากถึง 10-30 กิโลเมตร พล.ต.วินธัย กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทย รวมถึงขัดต่อหลักปฏิบัติทางทหารตามกฎหมายสากล และหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการเจตนาละเมิดอนุสัญญาระหว่างประเทศหลายฉบับ ที่ห้ามการโจมตีพื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรบ กองทัพบกไทยขอยืนยันอีกครั้งว่า เราปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเป็นหลักเท่านั้น และยึดมั่นในกติกาสากล โดยขอย้ำว่า ฝ่ายไทยไม่ได้รุกรานใคร แต่เรามีสิทธิชอบธรรมในการปกป้องประชาชนและผืนแผ่นดินของเรา.-313.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพโรงพยาบาลไทยเสียหายหนัก หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วยอาวุธหนัก

ทำเนียบ 30 ก.ค.-โฆษกรัฐบาล เปิดภาพโรงพยาบาลไทยเสียหายหนัก หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วยอาวุธหนัก พร้อมประณามกัมพูชาละเมิดมนุษยธรรมร้ายแรง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ประณามการกระทำของรัฐบาลและกองทัพกัมพูชาอย่างรุนแรง กรณีการใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายที่เป็นสถานพยาบาลของไทยในหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักมนุษยธรรมขั้นพื้นฐานและเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน พร้อมกันนี้นายจิรายุ ยังเปิดภาพโรงพยาบาลบางส่วนที่ได้รับความเสียหาย ได้แก่ โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) คำโปรย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โคก, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ซำเม็ง “ประเทศไทยขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกจับตามองและประณามการกระทำดังกล่าว ซึ่งต่างจากประเทศไทยที่ยึดมั่นในหลักมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัด โดยปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียแก่พลเรือ” โฆษกรัฐบาล ระบุ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุข ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 น. พบว่า จากการโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมายของกัมพูชา ได้ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตแล้ว 15 ราย ในพื้นที่จ.อุบลราชธานี และศรีสะเกษ บาดเจ็บสาหัส 12 […]

เหตุพลุระเบิด เสียชีวิตเพิ่มเป็น 10 คน

สุพรรณบุรี 30 ก.ค. – เหตุพลุระเบิด จ.สุพรรณบุรี พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย ที่โรงพยาบาล รวมเสียชีวิต 10 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สั่งการตั้งศูนย์ ศปก. ที่วัดโพธิ์ท่าทราย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย คืบหน้าเหตุพลุระเบิดที่จังหวัดสุพรรณบุรี ล่าสุด พล.ต.ต.วัชรินทร์ ประสพดี ผู้บังคับการภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิต จำนวน 10 ราย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 9 ราย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ขณะนี้ได้สั่งการตั้งศูนย์ ศปก. ที่วัดโพธิ์ท่าทราย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงประสานชุด EOD เข้าเก็บกู้ดินปืน เนื่องจากตรวจสอบพบหลุมขนาดใหญ่สีดำจำนวน 2 หลุม และดินปืนจำนวนหนึ่ง อีกทั้งยังพบร่างผู้เสียชีวิต ชิ้นส่วนจำนวนหนึ่งบริเวณที่เกิดเหตุ ส่วนข้อมูลการตรวจสอบ พบว่าบ้านหลังนี้มีการลักลอบผลิตพลุไล่นก.-สำนักข่าวไทย