เชฟรอนฯ พร้อมประมูลแหล่งเอราวัน

กรุงเทพฯ  19 ส.ค. – เชฟรอนฯ พร้อมเข้าประมูลแหล่งเอราวัณ  ยืนยันลงทุนในไทยและเมียนมาร์ต่อเนื่อง ส่วนราคาน้ำมันผันผวนต้องปรับกลยุทธ์เพิ่มประสิทธิภาพลดคนให้เหมาะสมกับงาน  ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดโลกแตะ 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลแล้ว เตือนราคาขายปลีกไทยขยับขึ้น


นายสตีฟ กรีน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชฟรอนเอเชียแปซิฟิกสำรวจและผลิต จำกัด  กล่าวว่า แม้สถานการณ์ราคาน้ำมันจะมีความผันผวน  แต่เชฟรอนยังลงทุนในไทยต่อไป โดยโครงการกลุ่มเอาราวัณที่สัมปทานจะหมดอายุปี 2565 นั้น หวังว่าเชฟรอนจะได้เป็นพันธมิตรที่ดีกับประเทศไทยต่อเนื่องต่อไป  แต่เราไม่ใช่คนที่จะบอกได้ว่าเงื่อนไขหรือข้อกำหนดจะเป็นอย่างไร  บทบาทอย่างหนึ่งของรัฐบาล คือ การสร้างบรรยากาศการลงทุนที่ดึงดูดนักลงทุนจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อผลิตก๊าซธรรมชาติมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จุดนี้เชฟรอนสามารถช่วยแบ่งปันประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของเราได้  แต่ท้ายที่สุด รัฐบาลจะต้องเป็นผู้ตัดสินใจว่าอะไรคือสิ่งที่ดีและเหมาะสมที่สุดสำหรับประเทศ

ทั้งนี้ รัฐบาลไทยอยู่ระหว่างการพิจารณาเงื่อนไขการประมูลแหล่งสัมปทานปิโตรเลียมที่จะหมดอายุปี 2565-2566  ประกอบด้วย แหล่งของเชฟรอนและ บงกช (ดำเนินการโดย ปตท.สผ.) คาดว่าจะเปิดประมูลปี 2560


ด้านการลงทุนในแหล่งยาดานาของเชฟรอนในเมียนมาร์ นายสตีฟ กรีน กล่าวว่า เชฟรอนอยู่ระหว่างการพิจารณาว่ามีผู้ที่แสดงความสนใจหรือไม่ ปัจจุบันบริษัทฯ เน้นให้ความสำคัญกับโครงการที่บริษัทฯ เป็นผู้ดำเนินงาน  โดยบริษัทฯ  ยินดีที่จะเก็บโครงการยาดานาไว้ หากไม่มีข้อเสนอที่เหมาะสมและน่าสนใจ ซึ่งโครงการทั้งในไทยและเมียนมาร์ บริษัทให้ความสำคัญ เพราะเมื่อเชฟรอนพิจารณาธุรกิจทั่วโลก พบว่าโอกาสในการเติบโตในของเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ยังมีอีกมาก  โดยปี 2559 เชฟรอนและบริษัทผู้ร่วมทุนวางแผนที่จะลงทุนรวมกว่า 100,000 ล้านบาท กับโครงการต่าง ๆ ในอ่าวไทย นอกจากนั้น ทุกปีจะต้องมีการขุดเจาะเพิ่มต่อเนื่องประมาณ  300-400 หลุม เพื่อรักษาระดับการผลิตโดยก๊าซธรรมชาติที่เชฟรอนผลิตได้ในประเทศไทยคิดเป็นประมาณร้อยละ 50 ของการผลิตก๊าซธรรมชาติในประเทศและคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 3 ของความต้องการใช้ไฟฟ้าโดยรวม

“เชฟรอนมุ่งมั่นเป็นพันธมิตรที่ดีกับทุกรัฐบาลที่ทำงานด้วยและเป้าหมายคือการดำเนินงานอย่างมืออาชีพ เป็นที่เชื่อถือได้ และมีอิสระในการปฏิบัติการ จึงไม่เกี่ยวว่าขณะนั้นรัฐบาลไหนเป็นผู้ดำเนินการ และนี่ถือเป็นกลยุทธ์หลักที่ทำให้สามารถรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกประเทศ” นายสตีฟ กล่าว

นายสตีฟ กล่าวว่า เชฟรอนดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมากว่า 53 ปี ปัจจุบันเชฟรอนประเทศไทยมีพนักงานประมาณ 1,600 คน และกว่าร้อยละ  94 เป็นคนไทย รวมถึงมีพนักงานผู้รับเหมากว่า 1,300 คน อย่างไรก็ตาม เมื่อราคาน้ำมันต่ำลงอย่างต่อเนื่องอย่างที่เห็นกันในช่วงที่ผ่านมานี้บริษัทในอุตสาหกรรมนี้ อย่างเชฟรอนต่างจำเป็นต้องหันกลับมามองว่างานแบบไหนที่ยังควรจะดำเนินต่อไป  ขณะที่งานที่ต้องทำมีน้อยลง จึงจำเป็นต้องพิจารณาการจ้างงานตามความจำเป็นของงานที่ต้องการและจำนวนพนักงานที่เหมาะสมที่จะดำเนินงานและปรับทุกอย่างให้สมดุลกัน


“ส่วนโครงการหลักที่ดำเนินการในอ่าวไทยนั้น ขอยืนยันว่าตั้งใจจะเก็บไว้ในพอร์ตการลงทุนหลักของเราทั้งหมด ไม่ได้จะถอนการลงทุนจากประเทศไทยแน่นอน” นายสตีฟ กล่าว

นายสตีฟ กรีน ก่อนหน้าที่จะร่วมงานกับเชฟรอนเคยทำงานกับยูโนแคลก่อนควบรวมกิจการกับเชฟรอน และได้ให้มุมมองถึงธุรกิจในช่วงน้ำมันขาลงไว้อย่างน่าสนใจว่า การสำรวจและผลิตปิโตรเลียมเป็นธุรกิจที่ต้องมองระยะยาว ต้องลงทุนอย่างต่อเนื่องตลอด แล้วจะประสบความสำเร็จได้ ไม่ว่าราคาน้ำมันจะสูงหรือต่ำ หัวใจสำคัญคือต้องบริหารงานอย่างมีความรับผิดชอบให้ธุรกิจสามารถแข่งขันในตลาดได้ และต้องมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงวัฎจักรราคาพลังงานที่มีขึ้นและมีลง

“ตลอด 37 ปีที่ทำงานในอุตสาหกรรมนี้ ผ่านช่วงเวลาที่ราคาน้ำมันสูงและเวลาที่ราคาน้ำมันต่ำมามากมาย เริ่มทำงานในธุรกิจนี้เมื่อปี 2523 ผ่านช่วงที่ราคาน้ำมันลดลงกว่าร้อยละ 50 ภายในรอบ 6 เดือน มาเป็นครั้งที่ 5 แล้ว คนที่ทำงานในธุรกิจนี้ต่างเคยประสบวัฎจักรราคาเช่นนี้ และก็ผ่านพ้นช่วงเวลาเช่นนี้ไปได้ด้วยดีทุกครั้ง แต่ธุรกิจที่จะประสบความสำเร็จจะต้องมีความสามารถในการแข่งขันจะต้องลงทุนอย่างต่อเนื่อง และต้องบริหารจัดการธุรกิจในหลากหลายด้านอย่างมีประสิทธิภาพได้”  นายสตีฟ กล่าว

ด้าน บมจ.ไทยออยล์รายงานราคาน้ำมันขยับขึ้นตลาดเบรนท์แห่งลอนดอน วานนี้ (18 ส.ค.) ปิด 50.89 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เป็นครั้งแรกในรอบ  6 สัปดาห์ และหากนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา พบว่าราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (วานนี้ปิดที่ 48.22 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล) และเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้นแล้วกว่าร้อยละ 20 โดยได้รับแรงหนุนจากข่าวการเจรจาของผู้ผลิตในกลุ่มโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกที่อาจเห็นพ้องในเรื่องของการตรึงกำลังผลิตในเดือนหน้า

ด้านผู้ค้าน้ำมันระบุว่าราคาน้ำมันดิบและ ราคาน้ำมันตลาดสิงคโปร์ปรับพุ่งขึ้นเป็นที่คาดว่าราคาน้ำมันขายปลีกของไทยจะปรับราคาอีกใน 1-2 วันนี้ โดยวานนี้น้ำมันดิบดูไบปิดที่ 46.56 เหรียญสหรัฐ , เบนซิน 57.30 เหรียญสหรัฐ และดีเซล 56.90 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]