กรุงเทพฯ 27 พ.ค.- 7 พรรคขั้วเพื่อไทย ถกประเมินสถานการณ์ เดินหน้าจับมือไปในทิศทางเดียวกัน “ธนาธร” เย้ยปชป. ต่อรองแก้รัฐธรรมนูญ แค่เรื่องผลประโยชน์
ที่โรงแรมอวานี เอเทรียม 7 พรรคฝ่ายพรรคเพื่อไทย ได้นัดหารือกัน ประกอบด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย นายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ และนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเศรษฐกิจใหม่ โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง
นายภูมิธรรม เปิดเผยว่า ทั้ง 7 พรรคการเมืองพึงพอใจในหน้าที่ของส.ส.ที่ผ่านมา และยืนยันยึดมั่นในเจตนารมณ์ ไม่ต้องการเห็นการสืบทอดอำนาจ สกัด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่ต่อ และแก้ไขรัฐธรรมนูญ กฎหมายเลือกตั้ง ให้กติกาเข้าสู่สภาวะปกติ และจะจับมือกันทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรอย่างสมบูรณ์ที่สุด
ส่วนการที่พรรคพลังประชารัฐ ได้เทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทย ในการจัดตั้งรัฐบาลเรียบร้อยนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า จากนี้ไปจะเป็นกระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งทั้ง 7 พรรคตัดสินใจเลือกไปในทิศทางเดียวกันเหมือนเดิม การเสนอชื่อนายกฯ เรื่องเหล่านี้ 7 พรรคจะต้องคุยกันต่อ เพื่อตัดสินใจในทิศทางเดียวกัน ตอนนี้ยังมีเวลา เพราะยังไม่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ประธานสภาฯ ตนอยากเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ยึดมั่นตามแนวทางที่ได้หาเสียงไว้กับประชาชนในการเลือกตั้ง คือไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี
ด้านนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ควรเชื่อใจพรรคพลังประชารัฐที่รับเงื่อนไขจะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพราะที่ผ่านมาพรรคพลังประชารัฐปกป้องรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ไปดูหัวบันไดพรรคผม ใส่ปิ๊ง ขัดรอทุกวันเลย ดังนั้นเลือกได้อยู่แล้วถ้าต้องการจะแก้รัฐธรรมนูญ ต้องการจะหยุดยั้งอำนาจ คสช. เลือกข้างไปตั้งนานแล้ว แต่ที่ทำอยู่ไม่มีอะไร เพียงแค่ได้คืบจะเอาศอก ได้ประธานสภาไปแล้ว ก็เอารัฐธรรมนูญมาต่อรองต่อ นี่คือเรื่องผลประโยชน์ไม่ใช่เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ
ส่วนการเลือกตั้งเขต 8 จ.เชียงใหม่ ที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์และพรรคพลังประชารัฐได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเพิ่มรวม 2 คน หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า คะแนนของเก่าที่แต่ละพรรคเคยได้ไปแล้ว ยังไม่เคยถูกคำนวณจากเขต 8 จ.เชียงใหม่ เพราะเมื่อมีผู้สมัครพรรคใดพรรคหนึ่งถูกใบส้ม คะแนนในเขตนั้นก็ถูกลบออกจากการคำนวณทั้งหมด ดังนั้นถ้าจะบอกว่าทั้ง 2 พรรคได้เพิ่มมาคงไม่ถูก เพราะคะแนนของเก่าไม่ได้นับรวมตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่ที่น่าสนใจ คือการชนะอย่างถล่มทลาย ถือเป็นเสียงความโกรธแค้นของประชาชน ที่บอกว่าไม่เอาแล้วกับระบอบเผด็จการ .-สำนักข่าวไทย