กรมพัฒนาธุรกิจการค้า 24 พ.ค.-กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยเดือนพฤษภาคม
มีต่างด้าวได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจในไทย 4 ราย วงเงินลงทุน 1,214 ล้านบาท
ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจบริการ ขณะที่ 5 เดือนแรกปีนี้มีต่างด้าวได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจในไทยรวม
83 ราย
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เปิดเผยว่า ในการประชุมของคณะกรรมการฯ
ครั้งล่าสุดอนุญาตให้คนต่างชาติ 14 ราย ประกอบธุรกิจในประเทศไทย โดยส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติจากประเทศญี่ปุ่น
สิงคโปร์ และเยอรมนี มีการนำเงินเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจกว่า 1,214 ล้านบาท
และส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานคนไทย 410 คน
รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุน
สำหรับธุรกิจที่คนต่างด้าวได้รับอนุญาต ได้แก่ 1.
ธุรกิจบริการให้แก่บริษัทในเครือ/ในกลุ่ม จำนวน 7 ราย
ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ และเยอรมนี มีเงินลงทุนจำนวน 505
ล้านบาท อาทิ บริการให้คำปรึกษาแนะนำวิธีการใช้งานและการเก็บรักษาเคมีภัณฑ์และพลาสติก
บริการด้านการตลาดและส่งเสริมการขายซอฟต์แวร์ทางอุตสาหกรรม ธุรกิจบริการให้แก่ลูกค้า 5 ราย
เป็นนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ และอเมริกา มีเงินลงทุนจำนวน 428 ล้านบาท
ได้แก่ บริการซ่อมแซมและบำรุงรักษาเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท เครื่องตัดสิ่งพิมพ์
และเครื่องพิมพ์ 3 มิติ บริการซ่อมแซมและบำรุงรักษาระบบอุปกรณ์เตือนอัคคีภัยบริการรับจ้างผลิตชิ้นส่วนยานยนต์
และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ธุรกิจค้าส่ง 1
รายและธุรกิจบริการเป็นคู่สัญญาเอกชน 1 ราย
ทั้งนี้ เดือนพฤษภาคม ธุรกิจที่ได้รับอนุญาตลดลงจากเดือนก่อน 4 ราย
คิดเป็นร้อยละ 22 ขณะที่เงินลงทุนลดลง 1,548 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 56
เนื่องจากในเดือนเมษายนมีผู้ได้รับอนุญาต
ให้ประกอบธุรกิจซึ่งต้องใช้เงินลงทุนสูง คือ บริการออกแบบทางวิศวกรรม จัดหา
ก่อสร้าง ติดตั้ง และทดสอบ เครื่องจักร เครื่องมือ
และอุปกรณ์ที่ใช้ในหน่วยกลั่นน้ำมันดิบ บริการด้านวิศวกรรม จัดหา
และก่อสร้างโครงการขยายระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อ บริการออกแบบ ติดตั้ง ซ่อมแซม
และบำรุงรักษาระบบประตูอัตโนมัติภายในชานชาลาของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง
บริการวิจัยและพัฒนากระบวนการผลิตตัวกำเนิดก๊าซ
ส่วนระยะ 5 เดือนแรกของปีนี้ มีคนต่างด้าวได้รับใบอนุญาตทำธุรกิจในประเทศไทย
83 ราย มีเงินลงทุนทั้งสิ้น 10,913 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวนธุรกิจที่ได้รับอนุญาตลดลง
31 ราย คิดเป็นร้อยละ 27 ขณะที่เงินลงทุนเพิ่มขึ้น 5,412
ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 98 เนื่องจากในปี 62
มีต่างชาติลงทุนประกอบธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง อาทิ บริการรับค้ำประกันหนี้
บริการงานวิศวกรรม การจัดหา ติดตั้ง และทดสอบการใช้งานของระบบเครื่องบดดินหรือหินกึ่งเคลื่อนที่โครงการแม่เมาะ
บริการออกแบบ จัดซื้อจัดหา ติดตั้ง ตรวจสอบ
รวมทั้งการแก้ไขความชำรุดบกพร่องและบำรุงรักษาโครงการรถไฟฟ้ามหานครสายสีน้ำเงิน -สำนักข่าวไทย