กรุงเทพฯ 19 พ.ค.-โพลสำรวจพบประชาชน ร้อยละ 59.52 เชื่อการรวมกลุ่มของพรรคการเมืองต่าง ๆ ในการจัดตั้งรัฐบาล ทำให้การเมืองวุ่นวาย มีแต่เรื่องผลประโยชน์ ขณะที่ร้อยละ 51.54 เชื่อ พปชร.จัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ เพราะเป็นพรรคใหญ่ มีอำนาจต่อรอง ได้รับเสียงสนับสนุนจาก 11 พรรคการเมือง และร้อยละ 52.53 แนะทางออกในการจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ ควรยึดหลักการ เป็นไปตามหลักประชาธิปไตย ปฏิบัติตามกฎมาย
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,132 คน ระหว่างวันที่ 14-18 พฤษภาคม 2562 กรณี รัฐบาลใหม่ในสายตาประชาชน โดยประชาชนคิดอย่างไร กับกระแสข่าวการรวมกลุ่มของพรรคการเมืองต่าง ๆ ในการจัดตั้งรัฐบาล ณ วันนี้ พบว่า ประชาชน ร้อยละ 59.52 ระบุว่าการเมืองวุ่นวาย มีแต่เรื่องผลประโยชน์ ขณะที่ร้อยละ 24.48 ระบุว่าการจับขั้วทางการเมืองยังไม่ชัดเจน ยังไม่เห็นข้อสรุปที่แน่นอน ร้อยละ 19.56 ระบุว่าขอให้คำนึงถึงประโยชน์ของบ้านเมืองและประชาชนเป็นสำคัญ ร้อยละ 18.10 ระบุว่าให้รักษาคำพูด ทำตามสัญญาที่ให้ไว้เมื่อตอนหาเสียง และร้อยละ 13.81 ระบุว่ามีการปล่อยข่าวลือ สร้างกระแส ควรติดตามอย่างมีสติ
เมื่อถามถึงกรณีพรรคเพื่อไทยจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล พบว่า ประชาชนร้อยละ 43.76 ระบุว่าเป็นพรรคที่ได้เก้าอี้ ส.ส.มากที่สุด ก็ควรได้เป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาล ขณะที่ร้อยละ 39.59 ระบุว่าขึ้นอยู่กับการจับขั้วทางการเมือง ต้องดูจากคะแนนเสียงที่ได้ และร้อยละ 20.92 ระบุว่าไม่น่าจะรวบรวมเสียงข้างมากได้ ไม่น่าจะได้เป็นรัฐบาล
เมื่อถามถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล พบว่า ประชานร้อยละ 46.03 ระบุว่ามีโอกาสที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ มีพรรคเล็กเป็นแนวร่วม ขณะที่ร้อยละ 35.44 ระบุว่ามีอำนาจต่อรองทางการเมืองสูง เป็นรัฐบาลชุดปัจจุบัน และร้อยละ 31.26 ระบุว่าขอให้การจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปด้วยความโปร่งใส ยุติธรรม
ส่วนกรณีพรรคขนาดกลาง (ประชาธิปัตย์ ,ภูมิใจไทย,อนาคตใหม่) จะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล พบว่า ประชาชน ร้อยละ 50.47 ระบุว่าน่าสนใจ น่าจะบริหารบ้านเมืองได้ อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง ขณะที่ร้อยละ 36.84 ระบุว่าเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ ขอให้เป็นไปตามข้อกฎหมายที่กำหนด และร้อยละ 16.02 ระบุว่าคงเป็นไปได้ยาก คะแนนเสียงที่มีอาจไม่พอ
เมื่อถามว่าประชาชนคิดว่าพรรคใดน่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ พบว่า ประชาชนร้อยละ 51.54 ระบุว่าพรรคพลังประชารัฐ โดยให้เหตุผลว่า เพราะเป็นพรรคใหญ่ มีอำนาจต่อรอง มีจำนวน ส.ส.มาก ได้รับเสียงสนับสนุนจาก 11 พรรคการเมือง มีแนวโน้มว่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้ ฯลฯ ขณะที่ร้อยละ 35.93 ระบุว่าพรรคเพื่อไทย โดยให้เหตุผลว่า เป็นพรรคที่มีประสบการณ์ ชนะการเลือกตั้ง มี ส.ส.มากที่สุด มีหลายพรรคให้การสนับสนุน ขึ้นอยู่กับการเจรจา และร้อยละ 12.53 ระบุว่าพรรคขนาดกลาง โดยให้เหตุผลว่า สถานการณ์ทางการเมืองไม่แน่นอน อาจมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละพรรค ฯลฯ
เมื่อถามว่าคิดว่าการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ จะประสบปัญหาอะไรบ้าง พบว่า ประชาชน ร้อยละ 40.82 เห็นว่าจะประสบปัญหาความขัดแย้ง คัดค้าน ต่อต้านจากฝ่ายตรงข้าม ขณะที่ร้อยละ 35.42 เห็นว่าจะประสบปัญหาความไม่ชอบมาพากล ไม่เป็นธรรม และร้อยละ 26.67 เห็นว่าจะประสบปัญหาการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี โควต้าไม่ลงตัว
เมื่อถามถึงทางออกในการจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จควรเป็นอย่างไร พบว่า ประชาชนร้อยละ 52.53 ระบุว่ายึดหลักการ เป็นไปตามหลักประชาธิปไตย ปฏิบัติตามกฎหมาย ขณะที่ร้อยละ 38.55 ระบุว่าควรเคารพการตัดสินใจของประชาน รับฟังเสียงส่วนใหญ่ และร้อยละ 21.48 ระบุว่าเป็นการจัดตั้งรัฐบาลที่ถูกต้อง ทุกฝ่ายให้การยอมรับ.-สำนักข่าวไทย