อย. 18 พ.ค.- อย.ไม่ขยายเวลานิรโทษกรรมกัญชา 21 พ.ค.นี้ มีประชาชนขอรับการนิรโทษแล้วกว่า 12,000 คน ส่วน อภ.เตรียมผลิตน้ำมันกัญชา 2,500 ขวด ก.ค.นี้
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา บอกว่า เนื่องจากใกล้สิ้นสุดระยะเวลาการแจ้งนิรโทษครอบครองกัญชา ตามมาตรา 22 แห่ง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2562 ในวันที่ 21 พ.ค.2562 ที่จะถึงนี้ จึงขอเน้นย้ำให้ผู้ประสงค์แจ้งนิรโทษครอบครองกัญชามาแจ้งให้ทันภายในเวลาที่กำหนด ภายในเวลา 16.30 น.
สำหรับผู้ที่ประสงค์แจ้งผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ตที่ทางสภากาชาดไทยเปิดรับลงทะเบียนในขณะนี้ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 21 พ.ค.2562 เวลา 16.30 น.เช่นกัน โดยขอให้แสดงหลักฐานในระบบให้ครบถ้วน ทั้งบัตรประชาชน เอกสารรับรองอาการเจ็บป่วยจากแพทย์ เอกสารแจ้งการมีกัญชา และภาพกัญชาที่ครอบครองอยู่ ซึ่ง อย.จะรับพิจารณาเฉพาะผู้ที่แจ้งครอบครองที่แสดงหลักฐานในระบบอย่างครบถ้วนเท่านั้น โดยจะมีการติดต่อให้นำเอกสารหลักฐานจริงมาแสดงเพื่อขอรับใบแจ้งการครอบครองในภายหลัง
ทั้งนี้ จากการรับแจ้งครอบครอง ทั้งที่มาด้วยตนเองและผ่านระบบอินเทอร์เน็ต พบว่าผู้แจ้งครอบครองหลายรายมาแจ้งโดยไม่มีกัญชาในครอบครอง แต่มีความประสงค์ต้องการใช้กัญชารักษาโรคในอนาคต ซึ่งข้อมูลส่วนนี้จะมีการพิจารณาเพื่อส่งผู้ป่วยไปพบแพทย์ที่ผ่านการอบรมการใช้กัญชาอยู่ใกล้ภูมิลำเนาของผู้ป่วยต่อไป
นอกจากนี้ ในวันนี้ซึ่งเป็นวันเสาร์ อย.จะเปิดรับแจ้งนิรโทษครอบครองกัญชาเป็นกรณีพิเศษตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. เพื่อรองรับผู้ประสงค์แจ้งครอบครองกัญชาให้ทันตามเวลาที่กำหนด หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน อย. 1556 กด 3
ขณะนี้มีประชาชนมาขอรับการนิรโทษแล้วกว่า 12,000 คน พบเป็นผู้ป่วยใน 4 กลุ่มโรคเพียงร้อยละ1 หรือประมาณ 100 คน เช่น โรคลมชัก ปอกปลายประสาทอักเสบ แก้ปวด และอาเจียนจากคีโม ส่วนเป็นผู้ป่วย 13 กลุ่มโรค พาร์กินสัน นอนไม่หลับ มีเพียงร้อยละ 20 เท่านั้น ที่เหลือเป็นการขอนิรโทษที่ไม่ได้ใช้การเจ็บป่วยในกลุ่มโรคที่ตรงจุด เช่น โรคความดันโลหิต และมีการครอบครองกัญชามากเกินความจำเป็นสำหรับเจ็บป่วยถึงร้อยละ 5 ทั้งนี้ หลังสิ้นสุดเวลาการนิรโทษ 21 พฤษภาคมนี้ หากเป็นผู้ป่วย และมีการครอบครองกัญชาในปริมาณน้อยพอแก่การรักษาโรค ก็สามารถชี้แจงได้
ขณะที่ผู้บริหารองค์การเภสัชกรรม เปิดเผยผลการปลูกกัญชาในโรงเรือนขององค์การเภสัชกรรมแบบรากลอย 140 ต้น เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตอนนี้ออกดอกแล้ว คาดจะเริ่มเก็บเกี่ยวทำน้ำมันกัญชาได้ในเดือนกรกฎาคม สามารถผลิตได้ถึง 2,500 ขวด ส่วนการนำไปใช้ จะมีการหารือร่วมกับกรมการแพทย์ในวันที่ 21 พฤษภาคมนี้ ว่าจะนำไปใช้กับผู้ป่วยกลุ่มใด เพื่อให้สอดคล้องกับการวิจัยทางคลินิกและการอบรมแพทย์ที่ใช้กัญชาขององค์การเภสัชกรรม เบื้องต้นคาดสามารถนำมาใช้ในกลุ่มโรคที่มีผลการศึกษาวิจัยว่าการใช้กัญชาให้ประสิทธิภาพดี เช่น กลุ่มโรคลมชัก อาการคลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัด บรรเทาอาการปวด ปอกปลายประสาทอักเสบ และการรักษามะเร็งระยะสุดท้ายแบบประคับประคอง ทั้งนี้ ยืนยันว่ากัญชาไม่ใช่ยาวิเศษที่รักษาได้ทุกโรค.-สำนักข่าวไทย