กรุงเทพฯ 17 พ.ค. – หุ้นไทยปิดลบ 6.64 จุด นักลงทุนขายลดเสี่ยงสงครามการค้า สัปดาห์หน้าลุ้นรีบาวด์ หลังการเมืองชัดเจน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดที่ระดับ 1,608.11 จุด ลดลง 6.64 จุด หรือ 0.41% มูลค่าการซื้อขาย 47,013.92 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นวันนี้ภาคเช้าดัชนีเคลื่อนไหวแดนบวก ก่อนจะอ่อนตัวลงมาแกว่งแดนลบในภาคบ่าย โดยดัชนีฯ แตะจุดสูงสุดที่ 1,622.33 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,606.69 จุด
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยยังคงถูกปกคลุมด้วยปัจจัยเดิม แม้ว่าจะรีบาวด์ได้ในช่วงเช้า หลังจากปรับตัวลงมามาก แต่ไม่สามารถยืนได้ เพราะตลาดยังมีความกังวลต่อสงครามการค้าจีนและสหรัฐที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ทำให้นักลงทุนขายลดความเสี่ยง เพราะแม้ตลาดจะตอบรับประเด็นการใช้มาตรการภาษีตอบโต้ซึ่งกันและกันพอควร แต่ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจริงในทางปฎิบัติอาจจะเห็นชัดเจนไตรมาส 2-3 ปีนี้ ทำให้ยังเป็นปัจจัยที่รบกวนตลาดว่าจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจอย่างไร
ทั้งนี้ ล่าสุดหลายหน่วยงานลดเป้าหมายการส่งออกและการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปีนี้ลง ขณะที่คาดว่าประเด็นสงครามการค้าน่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นในการพบปะของผู้นำทั้ง 2 ประเทศ บนเวทีการประชุมจี 20 เดือนมิถุนายน นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูความชัดเจนทางการเมืองไทยสัปดาห์หน้าจะมีการเปิดประชุมรัฐสภาและจะมีการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งอาจจะมีสัญญาณบ่งชี้เชื่อมโยงถึงการเลือกนายกรัฐมนตรีและการจัดตั้งรัฐบาลในอันดับต่อไป รวมถึงยังรอดูการเปิดเผยตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2562 และตัวเลขการส่งออกของไทยสัปดาห์หน้า
สำหรับสัปดาห์หน้า มองว่าดัชนีมีโอกาสรีบาวด์จากที่ปรับตัวลงมาลึกมาก ทำให้แรงขายเบาบางลง และการเมืองในประเทศน่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น แต่การปรับขึ้นของดัชนีน่าจะยังจำกัดอยู่ในกรอบแนวต้าน 1,650 จุด เพราะตลาดยังรอปัจจัยจากสงครามการค้าเป็นหลัก ส่วนแนวรับมองไว้ที่ 1,590 จุด
ด้านประเภทนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 2,011.53 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 1,577.78 ล้านบาท นักลงทุนต่งชาติขายสุทธิ 1,394.36 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 960.61 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย