ก.คมนาคม 22 ส.ค. – รองนายกรัฐมนตรีเศรษฐกิจเร่งรัดกระทรวงคมนาคมสรุปแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม รองรับระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก “Eastern Economic Corridor” เตรียมเสนอ ครม.ภายในตุลาคมนี้
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าผลการดำเนินงานการพิจารณาแนวทางการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตามแนวโครงข่ายรถไฟ โดยการประชุมวันนี้เน้นติดตามความคืบหน้าการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับการขับเคลื่อนระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก “Eastern Economic Corridor” เพื่อสรุปรายละเอียดเสนอต่อนายกรัฐมนตรีวันที่ 31 สิงหาคมนี้ ก่อนที่จะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อขออนุมัติโครงการภายในเดือนตุลาคมนี้
เบื้องต้นมีการแบ่งส่วนการดำเนินการออกเป็นการพัฒนารถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ – ระยอง การจัดหาที่ดินรองรับการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย รวมถึงการพัฒนาการท่องเที่ยว โดยมีโครงการที่จะต้องจัดทำข้อสรุปในการดำเนินการเพื่อเสนอต่อที่ประชุม ครม.เดือนตุลาคมนี้ ประกอบด้วย โครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-ระยอง , การพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา , การพัฒนาท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ (ท่าเรือจุกเสม็ด) และการพัฒนาท่าเรือเฟอรี่ เชื่อมต่อระยอง-ปราณบุรี เพื่อผลักดันให้โครงการเกิดขึ้นได้ภายในไตรมาส 4 ปีนี้ เพื่อรองรับนโยบายการขยายพื้นที่อีสเทิร์นซีบอร์ด “ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา” เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ
นอกจากนี้ ยังกำชับให้กระทรวงคมนาคมและการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ไปดูแลปัญหารถไฟฟ้าสายสีม่วงที่พบว่ามีผู้โดยสารเฉลี่ยน้อยกว่าที่ประเมินไว้ โดยให้ไปหาสาเหตุและแผนการแก้ไขปัญหา ทั้งเรื่องค่าโดยสารและการเชื่อมต่อการเดินทาง เพื่อดึงให้ประชาชนมาใช้ประโยชน์มากที่สุด
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้เชี่ยวชาญรวบรวมข้อมูลเปรียบเทียบผลตอบแทนทางเศรษฐกิจในการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ตามแนวเส้นทางดังกล่าวว่ามีความแตกต่างกับการไม่พัฒนาอย่างไร มีความคุ้มค่าหรือไม่ ก่อนสรุปและเสนอต่อที่ประชุม ครม. เบื้องต้นจะเน้นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการพัฒนา 4 เส้นทาง 18 สถานี เช่น พัทยา ระยอง ฉะเชิงเทรา และตามแนวเส้นทางรถไฟกรุงเทพฯ-ระยอง เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย