กรุงเทพฯ 16 พ.ค. – ประเทศไทย โดย ปตท.จะเริ่มจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลบี 10 เริ่ม 17 พ.ค. ราคาต่ำกว่าบี 7 อัตรา 1 บาท/ลิตร โดยรถกระบะและรถดีเซลทุกคัน ยกเว้นค่ายยุโรป ใช้ได้ทั้งหมด และ ก.พลังงานตั้งเป้าจะยกเลิกการจำหน่านบี7 เกรดทั่วไป อัพเกรดเป็นพรีเมี่ยมภายใน 18 เดือนข้างหน้า
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ร่วมแถลงข่าวกับกลุ่ม ปตท. ว่า วันพรุ่งนี้ (17 พ.ค.) สถานีบริการน้ำมันพีทีทีสเตชั่น โดยบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือพีทีที โออาร์ จะเริ่มจำหน่ายน้ำมันบี 10 เป็นครั้งแรกของประเทศครอบคลุมพื้นที่ภาคใต้ ภาคตะวันออก และภาคกลางบางส่วน โดยราคาจะต่ำกว่าบี 7 อัตรา 1 บาทต่อลิตร เป็นผลมาจากการใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอุดหนุน 65 สตางค์/ลิตร และการลดอัตราภาษีสรรพสามิต 19 สตางค์ และ ปตท.ลดค่าการตลาด 1-2 สตางค์/ลิตร การส่งเสริมบี 10 จะช่วยดูดซับน้ำมันปาล์มดิบที่ล้นตลาด สนับสนุนเกษตรกรไทยผู้ปลูกปาล์ม ลดการพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม และวันพรุ่งนี้จะหารือกับค่ายน้ำมันอื่น ๆ เช่น บางจากฯ, พีที, ซัสโก้ ในการเร่งขยายการจำหน่ายน้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 10 เพิ่มขึ้น
นายศิริ กล่าวว่า ปัจจุบันมีบริษัทค่ายรถยนต์ที่ให้การรับรองว่าสามารถใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 10 จำนวน 11 ยี่ห้อ รวม 930 รุ่น โดยในส่วนนี้ทุกค่ายยอมรับบี 10 ยกเว้นค่ายยุโรป ดังนั้น รถยนต์ที่ใช้เครื่องดีเซลทุกคันยกเว้นค่ายยุโรปก็สามารถใช้บี 10 ได้ โดยเบื้องต้นบี 10 จะเป็นน้ำมันทางเลือก ควบคู่กับบี 7 เนื่องจากโรงงานผลิตไบโอดีเซล บี 100 ของประเทศที่มี 12 แห่ง มีเพียง 3 แห่ง ประมาณ 900,000 ลิตรที่สามารถผลิตได้ตามมาตรฐานที่สมาคมยานยนต์ญี่ปุ่น (JAMA) กำหนด ทำให้เบื้องต้นสามารถผลิตบี 10 ได้ 9 ล้านลิตร/วัน จากความต้องการใช้กลุ่มดีเซลของไทยอยู่ที่ 67 ล้านลิตร/วัน แต่คาดว่าภายใน 18 เดือนนี้ทุกรายจะสามารถผลิตได้ตามมาตรฐาน JAMA กำหนด ทำให้สามารถเดินหน้าตามแผนงานที่ให้บี 10 เป็นน้ำมันประเภทหลักของไทยในปี 2564 ทดแทนบี 7 ขณะที่ค่ายยุโรปหากต้องการใช้บี 7 ก็ปรับตัวไปใช้เกรดพรีเมี่ยมทดแทน
“ด้วยกลไกด้านราคานี้ คาดจะสามารถจูงใจผู้ใช้รถดีเซลให้หันมาใช้บี 10 และทำให้ปริมาณการใช้น้ำมันปาล์มดิบเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ปาล์มน้ำมันของประเทศ โดยจะทำให้มีการใช้น้ำมันปาล์มดิบรวม 2 ล้านตัน/ปี จากปัจจุบันที่อยู่ประมาณ 1.5 ล้านตัน/ปี” รมว.พลังงาน กล่าว
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. กล่าวว่า ปัจจุบัน ปตท.สนับสนุนการใช้ปาล์มผลิตน้ำมัน โดยมีการใช้บี 100 ประมาณ 500 ล้านลิตร/ปี เมื่อขายบี 10 ก็จะใช้บี 100 เพิ่มอีก 90 ล้านลิตร/ปี รวมทั้งมีการขายบี 20 ก็ช่วยดูดซับปาล์มช่วยเหลือเกษตรกรมากขึ้น
นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ซีอีโอพีทีที โออาร์ กล่าวว่า ระยะแรกจะจำหน่ายบี 10 ในพีทีที สเตชั่น ทุกแห่งในภาคใต้และขยายไปยังภาคตะวันออก รวม 340 สถานีในปี 2562 คาดว่าระยะแรกจะขายบี 10 ได้ 3.2 ล้านลิตร/วัน ส่วนแผนงานขายบี 20 ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว 56 แห่ง และจะเพิ่มเป็น 100 แห่งทั่วประเทศภายในปี 2562
ทั้งนี้ พีทีที โออาร์ ระบุว่า บี 10 ที่จำหน่ายใส่สารเพิ่มค่าซีเทน ทำให้เครื่องยนต์มีกำลัง “แรง” มากขึ้น และด้วยสัดส่วนบี 100 สูงขึ้น ทำให้การเผาไหม้สมบูรณ์ ลดควันดำได้ร้อยละ 42 ลดฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5 ได้ร้อยละ 3.5 เมื่อเทียบกับบี 7สามารถช่วยลดมลพิษ และ “ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม” และจากบี 10 ที่ราคาถูกดีเซลธรรมดา 1 บาท/ลิตร จึง “คุ้มค่า” ช่วยลดค่าใช้จ่ายของผู้ใช้รถดีเซล
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานเตรียมประกาศใช้น้ำมันบี 10 ในรถไฟสายกรุงเทพฯ-มหาชัย ทุกขบวน ภายในเดือนมิถุนายนนี้ จากเดิมทดลองใช้เพียง 3 ขบวน และอยู่ระหว่างทดสอบร่วมกับทาง ปตท. เพื่อใช้น้ำมันบี 20 ในรถไฟต่อไป. -สำนักข่าวไทย