บางจากฯ โชว์ผลงานไตรมาสแรก

กรุงเทพฯ 10 พ.ค. – บางจากฯ โชว์ผลงานไตรมาสแรกปี 62 มีรายได้ 45,535 ล้านบาท EBITDA รวม 1,959 ล้านบาท กำไร 395 ล้านบาท มุ่งลงทุนพัฒนาศักยภาพ และแสวงหาโอกาสสร้างรายได้เพิ่มทุกธุรกิจอย่างต่อเนื่อง


นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปี 2562 ว่า บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 45,535 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรก่อนหักต้นทุนทางการเงิน ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) 1,959 ล้านบาท มีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ 214 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.16 บาท

ด้านกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน มี EBITDA 517 ล้านบาท มีค่าการกลั่นพื้นฐานอยู่ที่ 3.43 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยไตรมาสนี้โรงกลั่นมีอัตรากำลังการผลิตเฉลี่ย 110,120 บาร์เรลต่อวัน เป็นการลดกำลังการกลั่นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม อีกทั้งมีการหยุดซ่อมอุปกรณ์บางส่วนในหน่วยกลั่นเดือนมีนาคม จึงทำให้ไม่สามารถเดินหน่วยกลั่นได้อย่างเต็มที่ แต่ในส่วนของธุรกิจการค้าน้ำมันโดยบริษัท BCP Trading จำกัด มีผลการดำเนินงานดีขึ้นจากธุรกรรมโดยรวมของบริษัททั้งด้านปริมาณการค้าทุกผลิตภัณฑ์และด้านธุรกรรมกับบริษัทคู่ค้าใหม่เพิ่มมากขึ้น


ทั้งนี้ ธุรกิจโรงกลั่นยังคงได้รับผลกระทบจากความผันผวนของสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวลงอย่างรุนแรงช่วงเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม ต่อเนื่องมาถึงเดือนกุมภาพันธ์ และส่งผลให้ธุรกิจโรงกลั่นไตรมาสนี้มีค่าการกลั่นพื้นฐานปรับตัวลดลง แต่ต้นทุนราคาน้ำมันดิบที่เข้ากลั่นไตรมาสนี้บางส่วน ยังคงสะท้อนราคาน้ำมันดิบในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว ทำให้ธุรกิจโรงกลั่นยังมี Inventory Loss เล็กน้อย

กลุ่มธุรกิจการตลาด มี EBITDA 612 ล้านบาท มีปริมาณการจำหน่ายรวม 1,521 ล้านลิตร และยังคงรักษาส่วนแบ่งการตลาดด้านปริมาณการจำหน่ายผ่านสถานีบริการอยู่ในอันดับที่ 2 โดยมีส่วนแบ่งการตลาดสะสมเดือนมกราคม – มีนาคม ปี 2562 อยู่ที่ร้อยละ 15.6 มีปริมาณการจำหน่ายในส่วนของตลาดค้าปลีกที่เป็นช่องทางหลักเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากการขยายฐานลูกค้า และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์น้ำมันดีเซล B20 ร่วมกับการจัดแคมเปญลดราคาพิเศษสำหรับน้ำมันไฮพรีเมียมดีเซล เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐในการส่งเสริมการใช้น้ำมันคุณภาพที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม ลดมลภาวะ และเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรสวนปาล์ม ตลอดจนการผลักดันยอดขายผ่านโปรแกรมการตลาด เพิ่มความหลากหลายของธุรกิจเสริมและบริการต่าง ๆ ในสถานีบริการ รวมทั้งการขยายจำนวนสถานีบริการน้ำมันและร้านค้าเพิ่มขึ้น โดย ณ ไตรมาส 1 ปี 2562 มีสถานีบริการฯ  1,176 สาขา ร้านสะดวกซื้อ SPAR 47 สาขา ร้านกาแฟอินทนิล 529 สาขา โดยค่าการตลาดรวมสุทธิปรับตัวลดลงในส่วนของตลาดค้าปลีก เนื่องจากไตรมาสนี้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ราคาต้นทุนผลิตภัณฑ์ปรับสูงขึ้นขณะที่ราคาหน้าสถานีบริการน้ำมันปรับขึ้นได้ช้ากว่า อีกทั้งการตรึงราคาน้ำมันเพื่อช่วยลดภาระแก่ผู้บริโภคในบางช่วงเวลา ทำให้ราคาขายปลีกไม่สอดคล้องกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

สำหรับกลุ่มธุรกิจผลิตไฟฟ้า ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) มี EBITDA 736 ล้านบาท และมีรายได้ 808 ล้านบาท โดยมีปริมาณการจำหน่ายไฟฟ้าทุกโครงการรวม 75.97 ล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง นอกจากนี้ ในไตรมาสนี้ ธุรกิจพลังงานลมในประเทศฟิลิปปินส์ มีส่วนแบ่งกำไรจากการดำเนินงานและค่าตัดจำหน่ายสิทธิการขายไฟ รวม 29 ล้านบาท และมีผลการดำเนินงานดีขึ้นเนื่องจากเป็นช่วง High Season จากที่มีพายุพัดผ่านทำให้ความเร็วลมเพิ่มขึ้น รวมทั้งธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพในประเทศอินโดนีเซีย มีส่วนแบ่งกำไรดังกล่าวข้างต้นรวม 93 ล้านบาท


กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพภายใต้การดำเนินงานของบริษัท บีบีจีไอ จำกัด มี EBITDA รวม 194 ล้านบาท โดยธุรกิจผลิตและจำหน่ายไบโอดีเซลมีรายได้จากการขาย 1,275 ล้านบาท มีปริมาณการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ B100 ลดลง โดยปริมาณผลิตอยู่ที่ 67.26 ล้านลิตร และปริมาณจำหน่ายอยู่ที่ 71.15 ล้านลิตร และยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ราคาปาล์มน้ำมันในประเทศที่ยังอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง รวมทั้งกำลังการผลิตรวมของผลิตภัณฑ์ B100 ในประเทศที่เพิ่มขึ้น 1.20 ล้านลิตรต่อวัน จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้เกิดการแข่งขันสูง

ส่วนธุรกิจผลิตและจำหน่ายเอทานอล มีรายได้จากการขาย 1,071 ล้านบาท มีปริมาณการจำหน่ายรวมของผลิตภัณฑ์เอทานอลอยู่ที่ 47.89 ล้านลิตร โดยมีปริมาณการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เอทานอลเพิ่มขึ้นจากการขยายกำลังการผลิต ของโรงงานผลิตเอทานอลจากกากน้ำตาล ที่อำเภอบ่อพลอย ของบริษัท เคเอสแอล กรีน อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) เป็น 300,000 ลิตรต่อวัน ขณะที่กำไรขั้นต้นผลิตภัณฑ์เอทานอลลดลงเนื่องจากราคาขายเฉลี่ยในไตรมาสนี้ปรับลดลง เป็นผลจากสต๊อกเอทานอลในประเทศที่อยู่ในระดับสูง และกำลังการผลิตรวมของประเทศที่เพิ่มขึ้น กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ มีผลการดำเนินงานลดลง แต่มีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม OKEA AS (OKEA) 8 ล้านบาท ไตรมาสนี้ OKEA ตั้งด้อยค่า Technical Goodwill ของแหล่ง Gjoa เนื่องจากราคาขายก๊าซธรรมชาติมีทิศทางปรับตัวลดลง นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 99 ล้านบาท ของรายการเงินให้กู้ยืมแก่บริษัทย่อย เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินบาทเทียบกับสกุลเงินเหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้ ในปี 2562 บริษัท บางจากฯ ยังคงมุ่งลงทุนพัฒนาศักยภาพและแสวงหาโอกาสเพื่อสร้างรายได้เพิ่มทุกธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นใช้นวัตกรรมสีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมผลักดันและเพิ่มประสิทธิภาพทุกกลุ่มธุรกิจของบางจากฯ ให้เติบโตต่อเนื่อง และสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศตามภารกิจหนึ่งขององค์กร โดยล่าสุดผุดโครงการ Rocket Project เพื่อพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่นให้ดียิ่งขึ้น และจะสร้างรายได้เพิ่มให้ได้ตามเป้าหมาย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ลั่นพร้อมใช้สิทธิปกป้องกำลังพล-ปรับแผนลาดตระเวน

12 ส.ค.- “แม่ทัพภาค2” ชี้เขมรแอบลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดเงื่อนไขหยุดยิง หวังยั่วยุ พร้อมใช้สิทธิปกป้องคุ้มครองกำลังพล เป็นเรื่องหน้างานไม่เกี่ยวเจรจา เชื่อเขมรไม่ยอมรับตามเงื่อนไขที่ไทยเสนอ เล็งใช้กล้องวงจรปิด ปรับแผนการลาดตระเวน เผยรายงานรัฐบาล-ผบ.ทบ.แล้ว จ่อประท้วงระดับสากล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าเขมรลักลอบมาวางระกับเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ […]

เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

12 ส.ค. – ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 วันนี้เวลา 12.00 น. ณ ท้องสนามหลวง กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 โดยกองร้อยปืนใหญ่ยิงสลุต ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก ทำการยิงตามจังหวะของเพลงสรรเสริญพระบารมี จำนวน 21 นัด จังหวะ 5 วินาที ทีละกระบอก นับรอบจากขวาไปซ้าย ใช้เวลายิงทั้งหมด 1 นาที 40 […]

ทบ.เผยหากสถานการณ์บีบบังคับ อาจต้องใช้สิทธิป้องกันตนเอง

12 ส.ค.- ทบ.ชี้กัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดคุกคามต่อเนื่อง ไม่สนผิดอนุสัญญาออตตาวา โฆษก ทบ.เผยหากสถานการณ์บีบบังคับ กองทัพอาจจำเป็นต้องใช้สิทธิป้องกันตนเองตามหลักสากล พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 09.10 น. สิบเอก ธีรพล เพียขันที สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 2610 พร้อมกำลังพลรวม 7 นาย ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย บนเส้นทางประจำ ห่างจากปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ประมาณ 1 กิโลเมตร ระหว่างปฏิบัติภารกิจ สิบเอก ธีรพล ได้เหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ฝ่ายกัมพูชาลอบวางไว้ ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณข้อเท้าซ้าย ปัจจุบันได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลพนมดงรัก อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว เหตุการณ์นี้เป็นหลักฐานชัดเจนว่าฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และไม่เคารพต่อกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งห้ามใช้และวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลทุกชนิด นับเป็นการลอบโจมตีที่มีเป้าหมายต่อกำลังพลฝ่ายไทยโดยตรง และเกิดขึ้นในเขตแดนไทย ยิ่งไปกว่านั้น เหตุลักษณะเดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นหลายครั้งในพื้นที่ชายแดน สะท้อนถึงเจตนาร้ายและพฤติกรรมต่อเนื่องของฝ่ายกัมพูชาในการคุกคามฝ่ายไทย และละเมิดบูรณภาพแห่งดินแดนไทย สวนทางกับข้อตกลงหยุดยิงระหว่างประเทศในการประชุม GBC ที่ผ่านมา จึงเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า […]

ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดขณะลาดตระเวน สูญเสียขาอีก 1 นาย

12 ส.ค.- ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิด ขณะลาดตระเวนพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม หลังรั้วลวดหนามฝั่งไทย คาดทหารเขมรล่าถอยแล้วฝังทุ่นระเบิดไว้ เมื่อเวลา 09.10 น. รายงานข่าวจากกองทัพพื้นที่สองเปิดเผยว่า ได้เกิดเหตุทหารพราน 2610 เหยียบกับระเบิดขณะทำการลาดตระเวนบริเวณฐานจุ๊บตาโมก ฝั่งตะวันตกของปราสาทตาเมือนธม ซึ่งอยู่ในแนวรั้วลวดหนามของฝั่งประเทศไทย บริเวณพิกัด R51 มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ทราบชื่อ ส.อ.ธีรพล เพียขันที กรุ๊ปเลือด AB ได้รับบาดเจ็บขาซ้ายขาด ขณะนี้กำลังนำส่งโรงพยาบาล ทั้งนี้ คาดว่าหลังจากเหตุปะทะกันทางทหารกัมพูชาได้ล่าถอยและฝั่งทุ่นระเบิดไว้ก่อนออกนอกพื้นที่เขตประเทศไทย -สำนักข่าวไทย