พปชร.มั่นใจเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล

รัฐสภา 10 พ.ค.- “พุทธิพงษ์” นำ ส.ส.กทม.พปชร. รายงานตัว มั่นใจ  จับมือพรรคพันธมิตรตั้งรัฐบาลได้  เชื่อ เสียงปริ่มน้ำไร้ปัญหา หาก ส.ส.มีวินัย ชี้เป็นสิทธิ หากขั้วที่ 3 จะจับมือตั้งรัฐบาลแข่ง ปัดข่าว ภท.ไม่พอใจปมฮุบ ก.คมนาคม ยันยังเร็วไปคุยเรื่องเก้าอี้รัฐมนตรี 


นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ประธานยุทธศาสตร์ภาคกลาง และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นำทีม ส.ส.กทม.และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ  ประกอบด้วย น.ส.กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ ,น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ,นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา, น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ,น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ,นายกษิดิ์เดช ชุติมันต์ ,น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ,นายชาญวิทย์ วิภูศิริ ,นายศิริพงษ์ รัสมี , นายประสิทธิ์ มะหะหมัด ,นายจักรพันธ์ พรนิมิตร,นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์  และนางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ เข้ารายงานตัวต่อสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อาคารรัฐสภา ถ.เกียกกาย

ทั้งนี้ นายพุทธิพงษ์ กล่าวถึง ความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาล ว่า  ขณะนี้ชัดเจนว่า มีพันธมิตรที่มีแนวทางการทำงานใกล้เคียงกัน แต่ต้องให้เกียรติแต่ละพรรคในการดำเนินการภายในพรรค เช่น การประชุม และเลือกหัวหน้าพรรค  รวมถึง พรรคเล็กที่อยู่ระหว่างการตัดสินใจ


ส่วนขณะนี้ที่มีกระแสข่าวเรื่องการตกลงตำแหน่งไม่ลงตัว จนขั้วที่ 3 เตรียมจับมือตั้งพรรคการเมืองแข่งกับพลังประชารัฐนั้น นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย เพราะทุกพรรคได้รับเลือกจากประชาชน จึงเป็นเรื่องปกติที่ทำได้ แต่เราเชื่อมั่นว่า พลังประชารัฐและพันธมิตร จะสามารถตั้งรัฐบาล  เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง เพราะการทำงานระยะยาว และแก้ปัญหาให้ประชาชน การบริหารแผ่นดินต้องมีเสถียรภาพ

อย่างไรก็ตาม นายพุทธิพงษ์ มั่นใจว่า พลังประชารัฐจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และเชื่อในการตัดสินใจของพรรคร่วมรัฐบาลที่ได้พูดคุยกันไว้ หากตัดสินใจภายใต้ประโยชน์ชาติ 

 “ยอมรับว่า เสียง ส.ส. 251 เสียงในสภา ถือเป็นเสียงสำคัญ เพราะเกินกึ่งหนึ่ง สามารถผ่านกฎหมายสำคัญๆ ได้ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น เสถียรภาพของสภาก็เดินต่อได้ แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่ ส.ส.ทุกคนต้องทำงานให้หนัก รับผิดชอบหน้าที่อย่างเคร่งครัดมากขึ้น การที่ตัวเลขใกล้เคียงกับฝ่ายค้าน ถือเป็นเรื่องที่ดี ที่ทำให้ ส.ส.ทุกคนมีความรับผิดชอบ ไม่สามารถขาดประชุมสภาได้ ไม่เช่นนั้นก็จะมีปัญหา” นายพุทธิพงษ์ กล่าว


ส่วนกระแสข่าวที่ว่า พรรคการเมืองบางพรรคไม่พอใจ ที่พลังประชารัฐเก็บโควต้ากระทรวงเศรษฐกิจไว้ทั้งหมด  นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ยังเร็วไปที่พูดคุยเรื่องตำแหน่งในวันนี้ เพราะหากจะเป็นรัฐบาลร่วมกัน ก็ต้องฟังซึ่งกันและกัน รวมทั้ง ฟังแนวทางบริหารของทุกพรรค เพื่อให้การบริหารประเทศเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ว่าจะกระทรวงใด ก็คงมีทิศทางเดินไปแบบเดียวกัน 

“พรรคพลังประชารัฐไม่จำเป็นต้องได้กระทรวงหลักเท่านั้น  ทุกอย่างอยู่ภายใต้การทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติ ไม่เช่นนั้นก็ทำงานด้วยกันลำบาก” นายพุทธิพงษ์ กล่าว  ขณะเดียวกัน ปฏิเสธกระแสข่าวนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ไม่พอใจที่พลังประชารัฐเก็บเก้าอี้ของกระทรวงคมนาคมไว้  ส่วนจะให้โควต้านี้กับพรรคภูมิใจไทยเลยหรือไม่ คงตอบไม่ได้ เพราะไม่มีอำนาจตันสินใจ 

นายพุทธิพงษ์ ยังกล่าวถึง กระแสข่าวที่มีชื่อเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า ยังเร็วเกินไปที่จะพูดเรื่องนี้ เพราะมีพรรคร่วมอีกหลายพรรค และ ทุกคนมีความพร้อมทำงานทุกระดับ ตลอดเวลา เพราะอาสาตัวเข้ามาทำงาน และยังเร็วไปที่จะบอกไปอยู่ตรงไหน   พร้อมปฏิเสธกระแสข่าวแกนนำ กปปส.ต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี   และย้ำว่า พลังประชารัฐเป็นหนึ่งเดียว เราทำงานด้วยกันอย่างดี ช่วยเหลือกันทุกคน ไม่ได้มีกลุ่ม แม้จะมีที่มาจากหลายกลุ่ม ก็ตาม 

ส่วนตัวเลข ส.ส. 255 คนของพรรคร่วมรัฐบาล ต้องรอการประชุมเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หรือไม่  นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า จำเป็นต้องรอ เพราะคาดว่าจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับการร่วมรัฐบาล  ..- สำนักข่าวไทย     

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เปิดแนวปะทะพื้นที่ “อานม้า-ภูมะเขือ”

30 ก.ค. – กัมพูชากลับกลอก ละเมิดข้อตกลงอีก เปิดแนวปะทะ 2 พื้นที่ “อานม้า และภูมะเขือ” ขณะที่ ทบ.เผยทหารกัมพูชาใช้ปืนเล็ก สลับระเบิดขว้าง เมื่อคืนนี้ (29 ก.ค.) กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยก่อนอีกแล้ว ละเมิดข้อตกลงถึง 2 ครั้ง โดยเปิดแนวปะทะ 2 พื้นที่ที่ อานม้า และภูมะเขือ ทบ.เปิดเผยว่า ทหารกัมพูชาใช้ปืนเล็กสลับระเบิดขว้าง โดยเมื่อเวลา 20.45 น. แหล่งข่าวฝ่ายมั่นคงรายงานว่า ช่องอานม้า มีเหตุปะทะ กัมพูชาเปิดฉากยิง หวังยึดพื้นที่ ฝ่ายไทยตอบโต้ ขณะที่ช่วงเวลา 22.19 น. พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบขั้นต้นเกิดเหตุปะทะที่ภูมะเขือ และช่องอานม้า โดยมีปืนเล็กกับระเบิดขว้างเข้ามาที่ฐานฝั่งไทย ประมาณ 30 นาที ขณะที่เพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์ไม่ต้องนอน ตามคาด! กัมพูชาละเมิดอีกแล้ว อานม้าปะทะภูมะเขือ […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสาน-กลาง-ตอ.ฝนตกหนัก กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 30 ก.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน ตาก บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วน กทม.-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน ตาก บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบน มีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า […]

แนวป้องกันน้ำท่วมฝีมือทหารช่าง ลดความรุนแรงน้ำท่วม

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำจากลำน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สายที่เชียงรายลดลงแล้ว แต่ทิ้งเศษซากความเสียหายไว้จำนวนมากและทำให้ชาวแม่สายอย่างน้อย 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน แต่ยังถือว่าไม่หนักหนาสาหัสเหมือนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากแนวป้องกันน้ำท่วมยาวเกือบ 4 กิโลเมตร จากฝีมือของทหารช่าง.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนาม ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 29 ก.ค.-เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนามรอบปราสาทตาเหมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จากเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ในหลายพื้นที่ รวมทั้งบริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่มีการปะทะรุนแรง และก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามยั่วยุในลักษณะต่างๆ เช่น การขึ้นมาร้องเพลง และทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 2 ก็เชิญชวนให้คนไทยมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธม โดยยืนยันว่าเป็นพื้นที่อธิปไตยไทย และได้รับความสนใจจากประชาชนจากทั่วสารทิศ ทั้งนี้ บริเวณปราสาทตาเมือนธม ถือเป็นพื้นที่แรกๆ ที่เกิดเหตุปะทะ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ด้วยเหตุว่ากัมพูชาพยายามจะเข้ามายึดพื้นที่ปราสาท ซึ่งเป็นจุดสูงได้เปรียบในเชิงจุดยุทธศาสตร์ ก่อนจะเกิดเหตุปะทะในหลายพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 และนำมาสู่การเจรจาหยุดยิงโดยรัฐบาล 2 ประเทศ เมื่อวานนี้ จนกระทั่งมีการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างฝ่ายทหารในพื้นที่ 2 ประเทศในวันนี้ และทำให้เสียงปืนสงบลง.-313.-สำนักข่าวไทย