สหรัฐชมไทยคงสถานะบัญชีจับตามอง

กรุงเทพฯ 26 เม.ย. – สหรัฐปลื้มไทยปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา คงสถานะบัญชีจับตามอง


นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อคืนวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทย ผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (USTR) ประกาศสถานะการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศคู่ค้ารายสำคัญ ภายใต้กฎหมายการค้าสหรัฐ มาตรา 301 พิเศษ (Special 301) ประจำปี 2562 โดยปีนี้ประเทศไทยสามารถรักษาสถานะอยู่ในบัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง (WL) ได้ต่อไป หลังจากสหรัฐปรับสถานะไทยให้ดีขึ้นจากบัญชีที่ต้องจับต้องพิเศษ (PWL) เป็น WL เมื่อปี 2560 

สำหรับการประกาศครั้งนี้สหรัฐได้ชื่นชมนโนบายและความก้าวหน้าด้านการคุ้มครองและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของไทยหลายเรื่อง โดยเฉพาะการที่ผู้นำสูงสุดของรัฐบาลให้ความสำคัญต่อการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาและการปราบปรามการละเมิด โดยกำกับดูแลและติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และมีการทำงานเชิงบูรณการของหน่วยงานด้านการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่มีการดำเนินการอย่างจริงจัง ซึ่งทำให้เกิดผลที่เห็นได้อย่างเป็นรูปธรรม


นอกจากนี้ สหรัฐได้ชื่นชมการดำเนินการคุ้มครองและส่งเสริมทรัพย์สินทางปัญญาหลายด้าน เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา การมีระบบจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าระหว่างประเทศภายใต้พิธีสารมาดริดฯ การเสนอแก้ไขกฎหมายสิทธิบัตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการจดทะเบียนและเตรียมความพร้อมในการเข้าเป็นภาคีความตกลงกรุงเฮกว่าด้วยการจดทะเบียนการออกแบบผลิตภัณฑ์ระหว่างประเทศ รวมถึงการปราบปรามการละเมิดทั้งในท้องตลาดและบนอินเทอร์เน็ต        

นางสาวชุติมา กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลการจัดสถานะประจำปีนี้ถือว่าน่าพอใจและขอขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนที่ร่วมแรงร่วมใจในการทำงานอย่างหนักมาโดยตลอด อาทิ กอ.รมน. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพบก กองทัพเรือ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมศุลกากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมสรรพากร กรมประชาสัมพันธ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงาน กสทช. สำนักงาน ปปง. และสำนักงาน อย. เป็นต้น และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมืออย่างดีเช่นนี้ต่อไป อย่างไรก็ตาม แม้สหรัฐจะแสดงความชื่นชมในความพยายามของไทย แต่ไทยยังคงต้องมุ่งมั่นพัฒนาระบบทรัพย์สินทางปัญญาอย่างจริงจังและต่อเนื่องต่อไป โดยเฉพาะการปราบปรามการละเมิดฯ การปรับปรุงพัฒนากฎหมาย และการเพิ่มประสิทธิภาพการจดทะเบียนสิทธิบัตร เป็นต้น

 นางสาวชุติมา กล่าวว่า การที่ไทยสามารถรักษาสถานะการคุ้มครองฯ ได้ในปีนี้ นอกจากการเสริมสร้างความเชื่อมั่นด้านการค้าการลงทุนของนักลงทุนสหรัฐแล้ว การดำเนินการของไทยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาระบบการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และเหมาะสมกับระดับการพัฒนาประเทศ อีกทั้งยังกระตุ้นให้คนไทยเห็นความสำคัญของทรัพย์สินทางปัญญา และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์มากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นรากฐานและปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง