วสท.ถอดบทเรียนไฟไหม้จากศูนย์การค้าฯถึงมหาวิหาร

วสท 25 เม.ย.-วสท.ชี้เหตุไฟไหม้ห้างกลางเมืองเกิดจากความประมาทในการดูแลระบบท่อ พร้อมเสนอขอให้วัดโบราณสถานทั่วไทยติดตั้งระบบป้องกันไฟไหม้


วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์(วสท.) จัดเวทีแถลงเสวนา เรื่อง “ถอดบทเรียนไฟไหม้ จากศูนย์การค้า…ถึงมหาวิหารนอเทรอ-ดาม” โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม ผังเมือง อาคารสูงและระบบป้องกันอัคคีภัย ร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ในหลายประเด็น


นายพิชญะ จันทรานุวัฒน์ เลขาธิการ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.)และวิศวกรป้องกันอัคคีภัย กล่าวว่า เหตุการณ์เพลิงไหม้ที่ศูนย์การค้าครั้งนี้นับเป็นบทเรียนครั้งสำคัญสำหรับวิศวกร และสถาปนิกตั้งแต่ผู้ออกแบบ ผู้รับเหมาก่อสร้างและนักดับเพลิงได้เป็นอย่างดี ซึ่งเหตุเพลิงไหม้และควันไฟในกรณีนี้ “ไม่ได้ลุกลามแบบตรงไปตรงมา” เหมือนที่เคยเห็นกันบ่อยๆ เพราะไฟที่ลุกไหม้ ไฟไม่ได้พุ่งตรงตามเส้นทาง เป็นการไหลไปตามท่อจากB2 ก่อนพุ่งลามไปยังชั้น 8 จนนักดับเพลิงตั้งตัวไม่ทันจริงทำให้เกิดการสูญเสียตามมา

นายพิชญะ กล่าวต่อไปว่า แม้ขณะนี้ผลการพิสูจน์หลัก ฐานจากตำรวจยังไม่มีข้อสรุปว่าต้นตอของประกายไฟหรือแหล่งความร้อนมาจากที่ใด แต่สามารถยืนยันได้ว่า การเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ ที่สภาพภายในอาคารมีทั้งเปลวไฟควันและความร้อนนั้นเป็นผลจากเปลวไฟ ลักษณะการลุกไหม้เป็นการลุกไหม้ภายในท่อลมจากชั้น B2 และต่อเนื่องลุกลามออกมา แต่ยังอยู่ภายในปล่องแนวตั้งที่ก่อสร้างปิดล้อมด้วยการก่ออิฐต่อเนื่องจากชั้น B1 ไปถึงชั้น 8 ซึ่งปลายปล่องที่ชั้น B1 ไม่ได้มีการปิดปลาย ของปล่องไว้ตามมาตรฐานที่ใช้ในปัจจุบัน และบริเวณจุดต้นเพลิงชั้น B2 ไม่มีหัวสปริงเกอร์ที่ใช้ในการควบคุมการลุกลามของเพลิงไหม้ จึงทำให้เพลิงได้ขยายตัวออกจากจุดต้นเพลิงได้ ประกอบกับบริเวณจุดต้นเพลิงมีระบบท่อระบายอากาศเสียจากบ่อบำบัดน้ำเสียที่ทำจากไฟเบอร์กลาสเรซิ่นที่สามารถติดไฟได้ 


‘การออกแบบระบบท่อสำหรับอาคารขนาดใหญ่ที่ดี ควรคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้ 1. ระบบระบายอากาศและท่อระบายอากาศเสีย ต้องใช้วัสดุที่ไม่ติดไฟ หรือวัสดุที่ติดไฟยากและมีพลังงานความร้อนคายออกมาต่ำเมื่อเกิดไฟแล้ว 2.ช่องท่อ สำหรับงานท่อลม ต้องติดตั้ง Fire Damper หรืออุปกรณ์ป้องกันการลามไฟในท่อเมือเกิดไฟไหม้ เมื่อท่อลมต้องต่อออกจากช่องท่อหรือหุ้มท่อลมให้ต่อเนื่องจนถึงภายนอกอาคาร 3.ช่องท่อ สำหรับท่อลม ควรเป็นแนวตั้งตรงจนถึงบนดาดฟ้า ไม่ควรเลี้ยวหลบไปมา4.ปลายช่องท่อ ทั้งส่วนบนสุดและล่างสุดอยู่ภายในอาคาร ต้องปิดปลายให้ดีด้วย’ นายพิชญะ กล่าว

ส่วนเหตุไฟไหม้ที่มหาวิหารนอเทรอ-ดาม ที่มีชื่อเสียงและอายุเก่าแก่850 ปี นครปารีส ประเทศฝรั่งเศส เชื่อมโยมมาถึงระบบการป้องกันไฟไหม้ มาตรฐานดูแลโบราณสถานของไทยที่ส่วนใหญ่เป็นงานศิลปกรรมที่มีโครงสร้างและตกแต่งด้วยไม้เช่นเดียวกันกับมหาวิหารที่ฝรั่งเศส ซึ่งโบราณสถานของไทยเกือบทั้งหมด ต้องยอมรับว่ายังขาดระบบสัญญาณเตือนไฟไหม้และระบบดับเพลิงที่เหมาะสม ที่ผ่านมา วสท.ได้พยายามเข้าไปพูดคุยทำตวามเข้าใจถึงความสำคัญแต่ถูกทักท้วงเรื่องความสวยงามที่อาจถูกลดทอน บดบังทัศนนียภาพภายใน จึงถูกตีตกในประเด็นนี้ แต่หลัง จากเกิดเหตุการณ์ที่ฝรั่งเศสทำให้ต้องหันมาตระหนักในเรื่องนี้อืกครั้ง  จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลโบราณสถานและมรดกชาติ ควรหันมาทำแผนและวางระบบป้องกันด้านมาตรฐานระบบดับเพลิงที่มีประสิทธิ ภาพ ให้ความรู้แก่ผู้มีหน้าที่ดูแล เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ ใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ ทำแผนรองรับเหตุฉุกเฉินและซักซ้อมอย่างสม่ำเสมอ โดย วสท.พร้อมเข้าไปช่วยเหลือให้คำปรึกษาระบบป้องกันที่กล่กลืนกับสถานที่อย่างเต็มที่

สำหรับเหตุอัคคีภัยยังเป็นสาธารณภัยที่เกิดขึ้นมากที่สุดในกรุงเทพมหานคร จากสถิติ

ปี 2558 มีเหตุเพลิงไหม้ขึ้น 646 ครั้ง 

ปี 2559 เหตุเพลิงไหม้ 681 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 11 ราย ผู้บาดเจ็บ 135 ราย 

ปี 2560 เกิดเหตุเพลิงไหม้ จำนวน 783 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 23 ราย ผู้บาดเจ็บ 117 ราย ปี 2561 เกิดเหตุเพลิงไหม้ 292 ครั้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 93 ราย เสียชีวิต 15 ราย 

และในปี 2562 เกิดเหตุเพลิงไหม้แล้ว 88 ครั้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 77 ราย เสียชีวิต 2 ราย

ขณะที่ปัจจุบันอาคารสูงกว่า 23 เมตร ก่อสร้างก่อนออก พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2535 มีมากกว่า 1,000 แห่งมีตั้งแต่ 8 ชั้นหรือ 23 เมตร จนถึง 33 ชั้น หรือประมาณ 80 เมตร ที่ยื่นขออนุญาตตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ซึ่งไม่อยู่ในข่ายต้องมีระบบป้องกันอัคคีภัยที่สมบูรณ์ เหมือนอาคารใหม่ที่ก่อสร้างหลังการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับที่ 33 ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2535 เช่น บันไดหนีไฟ ผนังกันไฟ สปริงเกอร์ เครื่องสูบน้ำและสายฉีดดับเพลิง แต่กฎหมายยังมีข้อกำหนดให้อาคารสูง อาคารขนาดใหญ่พิเศษ อาคารชุมนุมคน และอาคารอื่นๆที่กำหนดในกฎกระทรวง ต้องจัดทำรายงานการตรวจสอบสภาพอาคารและส่งให้กองควบคุมอาคาร สำนักการโยธาธิการ กรุงเทพมหานคร และองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นเป็นประจำทุกปี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]

สกัดจับขบวนการค้ามนุษย์ ลอบขนคนไทยไปเขมร

สระแก้ว 24 ส.ค. – ทหารพรานลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สกัดจับคนไทย 10 คน ขณะลักลอบเข้ากัมพูชา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนตามแนวชาย เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะแอบลักลอบขนข้ามแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว (ไม่ทราบทะเบียน) และ รถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้งขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ล่อแหลม โดยรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ได้จอดให้คนเดินลงมาจากรถ และเดินเข้าป่าไป จำนวน 6 คน ประกอบด้วย คนนำพา 1 คน และผู้ลักลอบ 5 คน โดยทั้งหมดเป็นคนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนรถยนต์เก๋งสีดำที่ขับตามมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ (ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร) จากการตรวจสอบภายในรถพบคนไทย 4 คน […]

พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใกล้ศูนย์เด็กเล็ก

อุบลราชธานี 24 ส.ค. – พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อยู่ริมสระน้ำใกล้ศูนย์เด็กเล็ก เพียง 100 เมตร จากกรณีที่กัมพูชา ยิงจรวด BM–21 เข้าใส่ชุมชน บ้านเรือนประชาชน ในฝั่งไทย จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน ของประชาชนคนไทย เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันผลกระทบจากจรวด BM–21 ต่อประชาชน คนไทย ยังคงมีอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้จากบ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 เข้ามาตกในเขตชุมชนฝั่งไทย โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น มีจรวด BM-21 ตกมาทั้งหมด 11 ลูก 2 ใน 11 ลูก ตกใส่บ้านประชาชน จนบ้านพังเสียหายทั้งหมด 2 หลัง และมี 1 […]

“มาริษ” จ่อบินเจนีวา แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี

สวีเดน 24 ส.ค.-“มาริษ” เตรียมบินเจนีวาต่อ แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี-องค์การสิทธิมนุษยชน-กาชาด ย้ำไทยรักสันติ ทำตามกฎหมายระหว่างประเทศ ฟ้องเขมรใช้ทุ่นระเบิด-โจมตีพลเรือนไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าหลังการเยือนสวีเดนอย่างเป็นทางการแล้วจะเดินทางไปเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการคือ ไปชี้แจงให้กับประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคีให้เข้าใจสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ซึ่งกัมพูชาใช้ยุทธศาสตรฺของการใช้ วัตถุระเบิดสังหารบุคคน ที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และอนุสัญญาออตตาวาและในโอกาสนี้จะพบกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่สืทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทุ่นระเบิดสังหาร การละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยการโจมตีเป้าหมายพลเรือน ของกัมพูชา รวมทั้งการใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (icrc )ก็ได้ออกมาพูดชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยอย่างมาก และไม่สนับสนุนให้มีการใช้สงครามข่าวสารในการต่อสู้ โดยใช้พลเรือนเป็นตัวกระทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกัน ซึ่งในโอกาสนี้ตนจะได้พบปะกับประธาน crc พอดี ซึ่งเคยพบกันที่กรุงเทพมหานครแล้ว และทางประธานทราบว่าตนจะมาเจนีวาก็สามารถมาพูดคุยกันต่อได้ ซึ่งจะได้อธิบายทั้ง 2 ประการเหล่านี้เพราะ icrc เป็นองค์กรหลักที่ดูกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งทั้งสามองค์กรที่เราวางกลยุทธ์ จะเข้ามาพูดคุย ชี้แจงก็เพื่อยืนยัน ใน ท่าทีบทบาท ของประเทศไทยที่ชัดเจนว่าเราเป็นประเทศ ที่รักสันติ เราต้องการ แก้ไขปัญหาระหว่างกันอย่างสันติวิธี แต่ต้องมีความจริงใจ […]