fbpx

เตรียมรื้อ 4 คานที่เหลือบนสะพานกลับรถช่วงที่พังถล่ม

กรุงเทพฯ 2 ส.ค. – เตรียมรื้อ 4 คานที่เหลือบนสะพานกลับรถช่วงที่พังถล่มลงมา ให้ประชาชนมั่นใจก่อนเปิดทางตามปกติ ก่อนประเมินอีกครั้งว่าจะซ่อมหรือสร้างใหม่ ด้าน วสท.เผยสาเหตุเบื้องต้นที่เป็นไปได้คือการจัดลำดับงานเข้าปรับปรุงรื้อพื้นสะพานออกก่อนทำให้การยึดโยงกับคาน และเสียสมดุลทำคานตัวริมและแบริเออร์ร่วง


ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุสะพานกลับรถหรือจุดยูเทิร์นเกือกม้าบนถนนพระราม 2 กิโลเมตรที่ 34 บริเวณใกล้โรงพยาบาลวิภาราม จ.สมุทรสาคร ที่เกิดเหตุพังถล่มลงมาระหว่างซ่อมแซม เมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย โดยเป็นการลงพื้นที่หลังจากการไปประชุมร่วมกับกรมทางหลวงสมุทรสาคร โดยเปิดเผยว่าข้อสรุปเบื้องต้นวันนี้กรมทางหลวงจะรื้อคานที่เหลือ 4 คานออกทั้งหมด และส่วนด้านบนของสะพานที่เสียหาย เพื่อให้ประชาชนมีความมั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุซ้ำ หรือมีอะไรร่วงลงมาอีก ก่อนจะเปิดใช้งานถนนในบริเวณที่เกิดเหตุได้ คาดไม่เกินพรุ่งนี้จะรื้อแล้วเสร็จ ส่วนการซ่อมแซมสะพานให้กลับมาใช้ได้ดังเดิม ต้องหารืออีกครั้งว่าจะซ่อมสร้างใหม่เฉพาะจุดที่เกิดเหตุ หรือสร้างสะพานกลับรถใหม่ทั้งหมด โดยจะยึดเรื่องความปลอดภัยของผู้ใช้ทางเป็นอันดับแรก

นายกวิศวกรรมสถานฯ เปิดเผยอีกว่าจากการตรวจสอบโครงสร้างสะพานพบสาเหตุที่น่าจะเป็นไปได้เบื้องต้นของเหตุการณ์นี้คือเจ้าหน้าที่ได้ปรับปรุงพื้นสะพาน โดยสกัดพื้นเดิมออก โดยตามหลักทางวิศวกรรมพื้นคอนกรีตวางบนคานหลัก 5 คาน และมีคานเสริมความแข็งแรงช่วงกลางคาน หรือ Diaphragm ซึ่งตามหลักการซ่อมแซมต้องรื้อคานก่อน แต่จากเหตุการณ์นี้พบว่ามีการสกัดรื้อพื้นออกก่อน ทำให้น้ำหนักโดยรวมไม่มีความสมดุลจากการยึดโยงระหว่าง คานหลัก ,ไดอะแฟม และตัวแบริเออร์ จนร่วงลงมา เพราะการซ่อมแซมผิวทางบนสะพาน คานที่ขนานกันจะมีตัวยึดเพื่อทำให้ไม่ล้ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคานตัวริม แต่หากในกรณีที่รื้อพื้นแล้วอาจมีการกระทบกับตัวคานยึด ผลก็จะทำให้เกิดการไร้เสถียรภาพแล้วก็ตกลงมา


ส่วนประเด็นที่ระบุว่าจากเหตุรถไฟไหม้บนสะพานจะเป็นหนึ่งในสาเหตุร่วมหรือไม่ จะต้องตรวจสอบความแข็งแรงของเหล็กเส้น โครงสร้างอย่างละเอียกอีกครั้ง ส่วนเรื่องอายุการใช้งานที่สร้างใช้มานานกว่า 30 ปีนั้นจริง ๆ แล้ว ตามอายุโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ยังถือว่ายังใช้งานได้อย่างแข็งแรงซึ่งตามหลักการจะมีการซ่อมบำรุงรักษาตามรอบ แต่อย่างไรก็ตามบนเส้นพระราม 2 เป็นเส้นทางหลักมีรถสัญจรไปมาจำนวนมาก และมีรถบรรทุกวิ่งทั้งวัน อาจทำให้เสื่อมสภาพได้เร็วขึ้น จึงต้องมีการตรวจสอบซ่อมบำรุงสม่ำเสมอ โดย วสท. และสภาวิศกร ก็ได้เข้ามาเป็นตัวกลางและร่วมตรวจสอบความปลอดภัย ไม่เฉพาะจุดนี้เท่านั้น เบื้องต้นทางกรมทางหลวงได้ประสานให้ร่วมตรวจสอบสะพานกลับรถที่เป็นรูปแบบคานคอนกรีตตัวไอ (I Girder) เฉพาะบนถนนพระราม 2 จนถึงแยกวังมะนาว มีจำนวน 16 จุด ส่วนทั่วประเทศก็มีมากกว่า 160 จุด ซึ่งจากนี้หากจะเข้าไปปรับปรุงซ่อมแซม จะต้องเข้มงวดตามลำดับหลักการวิศวกรรม และการเข้าซ่อมแซมในถนนหรือสะพานนับจากนี้จะต้องปิดพื้นที่ ระบุโซนก่อสร้าง กำหนดรัศมีก่อสร้างให้ชัดเจน และหากเป็นการปรับปรุงสะพานหรืออะไรก็ตามที่จะมีโอกาสวัตถุใด ๆ ร่วงหล่นลงมา ต้องไม่ให้ประชาชนสัญจรผ่าน

ในจุดที่เกิดเหตุเป็นโครงการปิดซ่อมแซมพื้นสะพานกลับรถทางหลวงหมายเลข 35 ที่ กม.34 ของกรมทางหลวง ที่ดำเนินการโดยศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 3 (ปทุมธานี) เนื่องจากสะพานนี้สร้างมาตั้งแต่ปี 2536 มีอายุใช้ยาวนานและที่จุดบนสะพานกลับรถในช่วงตอม่อที่ 11-13 บริเวณเดียวกันกับที่คอนกรีตถล่มลงมานั้น เมื่อปี 2547 เกิดเหตุรถน้ำมันไฟไหม้ มีข้อมูลว่าชาวบ้านสมุทรสาครมีความกังวลถึงความปลอดภัยของสะพานดังกล่าวมาเป็นระยะ ๆ และได้แจ้งร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กระทั่งมาถึงกำหนดการซ่อมครั้งนี้ ทล.ได้แจ้งปิดซ่อมปรับปรุงพื้นผิวสะพาน 23 มิ.ย-31 ส.ค.65. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบรอง ผอ.โรงเรียนดัง หน.แก๊งค้ายา พบข้าราชการเป็นลูกค้าเพียบ

รวบหัวหน้าแก๊งค้ายาเป็น “รอง ผอ.” โรงเรียนดังย่านปากเกร็ด พร้อมสมุน ขยายผลพบลูกค้าเป็นข้าราชการอีกจำนวนมาก

คนไทย-คนจีนขับรถไล่ชนกันหน้าคลับดังเมืองพัทยา คาดหึงหวงสาวที่มาด้วย

รถตู้ 3 คัน และรถฟอร์จูนเนอร์ 1 คัน ขับไล่ชนกันไปมา บริเวณหน้าคลับแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา พบเป็นศึกระหว่างคนไทย 1 กลุ่ม และคนจีน 1 กลุ่ม สาเหตุคาดมาจากคนจีนหึงหวงแฟนสาวที่มาด้วย

ปัญหาต่างชาติในภูเก็ต ตอนที่ 3

ปัจจุบันการเข้ามาทำธุรกิจรถเช่าของต่างชาติที่ใช้คนไทยเป็นนอมินีในภูเก็ตมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกับจำนวนอุบัติเหตุที่เกิดจากการขับขี่รถของชาวต่างชาติในภูเก็ตก็มากขึ้นด้วย ปัญหานี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่โยงใยไปถึงเรื่องของภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัยทางการท่องเที่ยว ไม่เฉพาะแค่ภูเก็ต แต่เป็นของเมืองไทยด้วย

ศาลอาญาทุจริตฯ ยกฟ้อง คุณหญิงพรทิพย์ และพวก ในคดี GT200

ศาลอาญาทุจริตฯ ยกฟ้อง “คุณหญิงพรทิพย์” และพวกรวม 10 คน ในคดีจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด GT200 ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์
ระบุไม่พบมีมูลความผิด ทุจริต มีการแสวงหาประโยชนแก่ตนเองและผู้อื่นโดยมิชอบ

ข่าวแนะนำ

รถไฟฟ้าสีเหลืองขัดข้องอีกแล้ว (29 มี.ค.)

รถไฟฟ้าสีเหลืองขัดข้องอีกแล้วช่วงสายวันนี้ (29 มี.ค.) ทำให้รถจากสถานีลาดพร้าว เดินทางไปถึงสถานีหัวหมาก ต้องสิ้นสุดที่สถานีศรีกรีฑา

เรียกปลัดคลังพบที่ทำเนียบฯ แต่เช้า

นายกฯ เรียกปลัดคลังพบที่ทำเนียบฯ แต่เช้า หารือเรื่องยกเว้นภาษี​นำเข้าสินค้า​จากตปท.ที่ต่ำกว่า​ 1,500 บาท ​ขณะที่ปลัดยันไม่ได้คุยเรื่องดิจิทัล วอลเล็ต แต่ให้เชื่อว่าชัดเจน 10 เม.ย.นี้แน่นอน

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัดบางพื้นที่

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศร้อนถึงร้อนจัดในระยะนี้ ส่วนภาคอีสานตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ปรับแผนเดินรถจากเหตุขัดข้อง-ลดค่าโดยสาร 20%

รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง ปรับแผนการเดินรถจากเหตุขัดข้อง ตามมาตรฐานความปลอดภัย พร้อมปรับลดค่าโดยสาร 20% จนกว่าจะเดินรถได้ตามปกติ