หลายหน่วยงานตรวจไฟไหม้สำเพ็ง

หลายหน่วยงานตรวจไฟไหม้สำเพ็ง

กรุงเทพฯ 27 มิ.ย.- หลายหน่วยงานลงพื้นที่ตรวจความปลอดภัยอาคารไฟไหม้สำเพ็ง นายก วสท.เผยพบอาคารหลายจุดเสียหาย โครงสร้างเหล็กเสียรูป พื้นแอ่นตัว ด้าน ผอ.โยธา กทม. ระบุบางส่วนเสียหายหนักต้องทุบทิ้ง เร่งสอบดัดแปลงอาคารขออนุญาตหรือไม่ ขณะที่ผู้ว่าฯ กฟน.ไม่ยืนยันเหตุไฟไหม้เกิดจากหม้อแปลงระเบิด แต่พร้อมเยียวยาผู้เสียหาย


สภาวิศวกร พร้อมด้วยวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ หรือ วสท. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และเจ้าหน้าที่จากเขตสัมพันธวงศ์ เข้าตรวจสอบอาคารพาณิชย์ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ย่านสำเพ็ง เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ

ดร.ธเนศ วีระศิริ  นายก วสท. กล่าวว่า จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุ โดยวิศวกรได้เข้าไปตรวจสอบอาคารพาณิชย์ที่ถูกไฟไหม้ หลังประเมินพบว่าโครงสร้างของอาคารที่เห็นภายนอกสามารถให้เจ้าหน้าที่ทั้งสำนักโยธาและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าไปสำรวจ และเก็บหลักฐานภายในอาคารได้  และจากการตรวจสอบภายในพบว่าห้องที่ 1 และ 2 ปีกซ้ายของอาคารเป็นจุดที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด เนื่องจากผนังของอาคารเป็นอิฐก่อเสริมโครงเหล็กทำเป็นชั้นของ เมื่อเจอความร้อนเหล็กจึงเสียรูป ทำให้พื้นแอ่นตัวลามไปจนถึงชั้น 3 และความร้อนยังแผ่ไปจนถึงผนังด้านหลังอาคารจนบิดตัวเช่นกัน ส่วนห้องที่ 3 ใกล้กับหม้อแปลงความเสียหายไม่มาก เนื่องจากโครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก หลังจากนี้ต้องตรวจสอบตามหลักวิศวกรเพื่อปรับปรุง แต่มีโอกาสที่จะทำให้กลับมายากต้องปรึกษาทาง กทม.ด้วย


นายไทวุฒิ ขันแก้ว ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ห้องที่ 1 และ 2 โครงสร้างอาคารไม่สามารถใช้งานได้แล้ว ต้องรื้อถอนทิ้ง โดยต้องทำการค้ำยันกันฝ้าและผนังอาคารทรุดตัว ส่วนห้องที่ 3 ซึ่งอยู่ใกล้กับหม้อแปลงต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาวิเคราะห์ ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป อาจจะต้องปิดพื้นที่และวางแผนอีกครั้งกับทางผู้อำนวยการเขตและขณะนี้ยังตรวจสอบไม่ได้ว่าที่เกิดเหตุมีการดัดแปลงอาคารหรือไม่ เนื่องจากมีความเสียหายเกิดขึ้นนั้น ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ หลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่มาประเมินกับสำนักงานเขตสัมพันธ์วงศ์ว่าจะต้องใช้ระยะเวลารื้อถอนนานเท่าใด แต่จุดเพลิงไหม้เป็นพื้นที่อันตรายห้ามบุคคลใดเข้าพื้นที่เด็ดขาด

ขณะที่นายวิลาส เฉลยสัตน์ ผู้ว่าการ กฟน. ระบุยังไม่ยืนยันว่าสาเหตุไฟไหม้ครั้งนี้เกิดจากหม้อแปลงระเบิดหรือไม่ ต้องตรวจสอบอีกครั้ง โดยปกติแล้วหม้อแปลงแต่ละลูกจะมีอายุการใช้งาน 25 ปี ส่วนหม้อแปลงลูกที่เกิดเหตุตรวจสอบแล้วใช้งานมาแล้ว 20 ปี และเพิ่งตรวจสภาพการใช้งานเมื่อกลางปีที่แล้ว และในกรุงเทพมหานครที่หม้อแปลงเกิดไฟไหม้กว่า 400 จุด พร้อมยืนยันว่าการติดตั้งหม้อแปลงแต่ละจุดเป็นไปตามาตรฐานห่างจากอาคาร 60 เซนติเมตร  เบื้องต้นขอยอมรับในความผิดพลาดไว้ก่อน ส่วนประชาชนจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย ก็ให้เป็นไปตามกฎหมาย พร้อมเยียวยาผู้เสียหายและผู้เสียชีวิต

นางสาวบุษกร แสงสุข ประธานคณะทำงานประสานงานด้านภัยพิบัติจากอัคคีภัย สภาวิศวกร ระบุว่าตัวอาคารมีความเสี่ยงเกิดไฟไหม้อีก ต้องระมัดระวัง และห้ามใช้พื้นที่ ขณะที่ตัวอาคารมีการใช้งานมานาน ขอให้ประชาชนในพื้นที่ระวังในการเข้าไปใช้พื้นที่ติดกับตัวหม้อแปลงโดยตรง เช่น การค้าขายที่อยู่ด้านล่างควรที่จะมีการเว้นระยะ เพราะเมื่อเกิดเหตุจะเกิดการลุกลามอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดความรุนแรงขึ้น สิ่งที่เป็นห่วง คือ การจัดเก็บสิ่งของและการใช้อาคาร โดยเฉพาะอาคารพาณิชย์ต่าง ๆ ขณะนี้มีการใช้งานเก็บสิ่งของจำนวนมาก อย่างอาคารที่เกิดเหตุมีการเก็บพลาสติก เมื่อติดไฟและทำให้ดับยาก ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ต้องถอดบทเรียนทั้งการติดตั้งบันไดหนีไฟ  การติดตั้งเหล็กดัด โครงสร้างอาคารพาณิชย์ที่ใช้ประกอบกิจการ จะต้องเป็นอาคารที่ไม่เป็นจุดเสี่ยงเกิดอัคคีภัย 


รศ.ดร.ปิยะบุตร วานิชพงษ์พันธุ์ นายกสภาวิศวกร กล่าวว่า ได้จัดทีมทำการสำรวจร่วมกับกรมโยธาธิการและผังเมืองที่จะไปบริหารจัดการข้อมูล โดยสภาวิศวกรพร้อมให้ความร่วมมือทั้งด้านงานวิศวกรรมที่ใช้ผู้เชี่ยวชาญและวิศวกรอาสาเข้ามาช่วยกันทำงานกับทาง กฟน.สำรวจจุดที่ต้องเฝ้าระวังให้เกิดความปลอดภัยกับประชาชน

นางสาวอาทิตยา โชคกิจมนัสชัย ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้อาคารพาณิชย์เสียหายมีอย่างน้อย 4 คูหา มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท พร้อมยอมรับว่าเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้รุนแรงที่สุด เท่าที่เคยเกิดมาในเขต เพราะมีผู้เสียชีวิตถึง 2 คน และเหตุการณ์ไฟไหม้เกิดขึ้นรวดเร็วมาก หลังจากหม้อแปลงระเบิดแล้วลามเข้าไปข้างใน หลังจากนี้สำนักงานเขตสัมพันธวงศ์จะให้เจ้าหน้าที่เข้าไปสำรวจจุดเสี่ยงที่มีสายไฟเก่า ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนตรวจสอบสายไฟที่อยู่ใกล้บ้านและภายในบ้านว่าอยู่ในสภาพเก่า มีความเสี่ยงจะไหม้อีกหรือไม่ พร้อมทั้งให้ความรู้ แนะนำวิธีเผชิญเหตุเมื่อเจอเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีก .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 นายกฯ เชื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย

รัฐสภา 31 พ.ค.-สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 วาระแรก เสียงท่วม 322 เสียง ตั้ง กมธ. 73 คน พบ “อนุดิษฐ์” โผล่เป็น กมธ.โควตารัฐบาล ด้านนายกฯ ขอบคุณสภาฯ ยันรัฐบาลจัดลำดับความสำคัญงบฯ ตามสถานการณ์ เชื่องบประมาณที่เสนอไปจะยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนคนไทยทุกคน ตั้งใจใช้เป็นเครื่องมือสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันสุดท้ายของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม โดยหลังจากใช้เวลากว่า 3 วัน รวม 41 ชั่วโมง ที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ด้วยคะแนน 322 ต่อ 158 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง และตั้งคณะกรรมาธิการ จำนวน 73 คน ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่า มีชื่อ […]

นายกฯ เข้าสภา ก่อนโหวตร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69

รัฐสภา 31 พ.ค. – นายกฯ บอกเจ็บคอ หลังสื่อถามต้องเช็กเสียงก่อนโหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2569 หรือไม่ เมื่อเวลา 14.50 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าอาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วันสุดท้าย ก่อนที่จะมีการลงมติรับหรือไม่รับในวาระแรก ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า จะต้องมีการเช็กเสียงก่อนลงมติหรือไม่ นายกรัฐมนตรีไม่ตอบ เพียงแต่หันมาแล้วใช้มือชี้ที่คอของตัวเอง ก่อนระบุว่า “เจ็บคอ” และเดินขึ้นห้องประชุมทันที.-316-สำนักข่าวไทย

กองปราบย้าย “สจ.กอล์ฟ-พวก” เข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

กทม. 31 พ.ค.- ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “สจ.กอล์ฟ” พร้อมพวกทั้ง 7 คน จากเรือนจำ จ.สงขลา ไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เรียบร้อยแล้ว ด้าน ผอ.กกต.สงขลา แจ้งความดำเนินคดีอาญาเพิ่มอีก 1 คน รวมเป็น 10 คน คดีนายสิรดนัย พลายด้วง หรือ สจ.กอล์ฟ ที่สั่งลูกน้องไปรุมทำร้ายตำรวจ ตชด. ขณะปฏิบัติหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยหน่วยเลือกตั้งท้องถิ่นเทศบาลตำบลพะวง อ.เมืองสงขลา เมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา และคดีนี้มีการโอนย้ายให้ทางตำรวจกองปราบดำเนินการ และทางตำรวจกองปราบได้ยื่นหนังสือคำร้องโอนย้ายการฝากขังจากศาลจังหวัดสงขลา มาเป็นศาลอาญารัชดา และทำหนังสือไปยังอธิบดีกรมราชทัณฑ์เพื่อขอโอนตัวผู้ต้องขังทั้ง 7 ราย จากเรือนจำจังหวัดสงขลา มาคุมขังต่อยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพื่อความสะดวกในการดำเนินการทางคดี ล่าสุด เมื่อวานนี้ (30 พ.ค.68) ได้มีการส่งตัว สจ.กอล์ฟ พร้อมพวกทั้ง 7 รายจากเรือนจำจ.สงขลาไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯเรียบร้อยแล้ว โดยภารกิจนี้ถูกปิดเป็นความลับเพื่อความปลอดภัย โดยผู้ต้องขังทั้ง 7 รายประกอบด้วย นายสิรดนัย […]

ตำรวจเมากร่าง ถูกให้ออกจากราชการ

เชียงใหม่ 31 พ.ค.-ให้ออกจากราชการ ตำรวจเมากร่าง ทำร้ายร่างกายตำรวจจราจร สภ.สันกำแพง ขณะปฏิบัติหน้าที่ จากกรณีคลิปตำรวจนายหนึ่ง ได้ใช้คำพูดด่าทอหยาบคาย และถึงขั้นเข้าไปทำร้ายร่างกายตำรวจจราจรสถานีตำรวจภูธรสันกำแพง ขณะปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบริเวณแยกต้นเปาพัฒนา ตำบลต้นเปา อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ โดยต้นเหตุเกิดจาการที่ตำรวจที่มีอาการมึนเมา ขับรถไปเฉี่ยวชนรถของผู้อื่นจนได้รับความเสียหาย และต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรมาดูแลความเรียบร้อย แต่กลับถูกด่าทอ และทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจรายนี้ ที่เมาแล้วกร่าง ถูกดำเนินคดี 4 ข้อหา คือ 1.ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย 2.ขับรถในขณะเมาสุรา 3.ทำร้ายร่างกายผู้อื่น และ 4.ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน และล่าสุด วันที่ 30 พฤษภาคม ที่ผ่านมา พลตำรวจตรี วรพงศ์ คำลือ ผู้บังคับการกองบังคับการ สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ได้มีคำสั่งที่ 204 / 2568 ให้สิบตำรวจเอก นายดังกล่าว ออกจากราชการไว้ก่อน […]