ธ.กรุงศรีฯคงเป้าหมายสินเชื่อปีนี้โตร้อยะ 6-8

กรุงเทพฯ 21 เม.ย.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ตั้งเป้าหมายสินเชื่อปีนี้เติบโตได้ร้อยละ
6-8 และเสริมบริการดิจิทัลแพลตฟอร์มต่อเนื่อง หลังผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปีนี้ มีกำไรสุทธิ
12,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 104.9


นายโนริอากิ โกโตะ
กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด
(มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจในปี
2562 จากการที่เศรษฐกิจโลกได้เข้าสู่การชะลอตัวตามวัฏจักร
ธนาคารยังระมัดระวังปัจจัยต่างประเทศและผลกระทบต่อภาคส่งออกของไทย
แม้ว่าการใช้จ่ายภาครัฐชะลอตัวลงและอุปสงค์ต่างประเทศลดลง ธนาคารคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตที่ร้อยละ
3.8 โดยการใช้จ่ายในประเทศจะฟื้นตัวขึ้นจากปัจจัยด้านรายได้ที่ปรับตัวดีขึ้นและมาตรการด้านงบประมาณที่แข็งแกร่งขึ้น
รวมทั้งการเร่งเดินหน้าโครงการโครงสร้างพื้นฐาน ธนาคารยังคงเป้าหมายการเติบโตของเงินให้สินเชื่อที่ร้อยละ
6-8 และยังมุ่งเน้นด้านการเสริมความแข็งแกร่งของดิจิทัลแพลตฟอร์มเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าและสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืน

ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2562 มีกำไรสุทธิ 12,700 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 104.9 จากไตรมาส 1/2561
และเพิ่มขึ้นร้อยละ 108.5 จากไตรมาส 4/2561
โดยมีปัจจัยหนุนจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย
ภายหลังการบันทึกกำไรหลังหักภาษีจำนวน
6,700 ล้านบาทจากการขายหุ้นในบริษัทเงินติดล้อให้กับพันธมิตร
ถ้าหากไม่รวมกำไรจากการขายเงินติดล้อและค่าใช้จ่ายการชดเชยเกษียณอายุตามกฏหมายแรงงานฉบับใหม่
ธนาคารกรุงศรียังมีกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่
6,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ
11.5 จากไตรมาส 1/2561


โดยเงินให้สินเชื่อ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 คิดเป็นจำนวน 37,700 ล้านบาท
เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2561 โดยเติบโตจากสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์
สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดใหญ่ สินเชื่อเพื่อธุรกิจเอสเอ็มอีและสินเชื่อที่อยู่อาศัย
ส่วนเงินฝากเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 หรือจำนวน 39,000

ล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2561  รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย เพิ่มขึ้นร้อยละ 95.6
จากไตรมาส 1/2561 ปัจจัยหลักมาจากการบันทึกกำไรจำนวน 8.600 ล้านบาทจากการขายหุ้นร้อยละ
50 ในบริษัท เงินติดล้อ จำกัด
ให้กับพันธมิตรเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ของกรุงศรี ส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้
(
NPLs) อยู่ที่ระดับร้อยละ
1.99 ดีขึ้นจาก ร้อยละ 2.08 ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2561 อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้
ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2561 อยู่ที่ร้อยละ 14.91-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง