กลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เผยครึ่งแรกปี 68 กำไรสุทธิ 1,121 ล้านบาท

กรุงเทพฯ 25 ก.ค. – กลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เผยผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2568 กำไรสุทธิ 1,121 ล้านบาท เติบโต 25.8% ขณะที่ LH Bank กำไรสุทธิ 1,103 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.3% สินเชื่อโต 3.4%


นายวรวุฒน์ โตเจริญธนาผล President และหัวหน้ากลุ่มงานการเงินและบัญชี บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHFG เปิดเผยว่า ปี 2568 เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวที่ร้อยละ   1.3 – 2.3% YoY ตามการประมาณการของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ข้อมูล ณ เดือนพฤษภาคม 2568) โดยมีแรงหนุนจากการลงทุนภาครัฐที่มีแนวโน้มขยายตัวดีตามการปรับเพิ่มกรอบงบประมาณรายจ่ายลงทุนประจำปีงบประมาณ 2568 และการส่งออกที่เร่งตัวขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปีก่อนที่มาตรการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ จะมีผลบังคับใช้ อย่างไรก็ดี การลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มลดลงตามภาคการผลิตที่อ่อนแอประกอบกับเศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงหลายประการ อาทิ หนี้ครัวเรือนและหนี้ภาคธุรกิจที่อยู่ในระดับสูง ความไม่แน่นอนจากนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ และความยืดเยื้อของความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์

ผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2568 กลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีกำไรสุทธิ 1,121 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.8 และมีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 361,287 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.3 จากช่วงเดียวกัน   ของปีก่อน โดยบริษัทได้รับการคัดเลือกจากสถาบันไทยพัฒน์ให้เป็น 1ใน 100 บริษัทจดทะเบียนที่มีความโดดเด่นในการดำเนินธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ประจำปี 2568 (EnvironmentalSocial and Governance: ESG) เป็นปีที่ 10และบริษัทได้รับการรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์สำหรับองค์กร Carbon Footprint for Organization (CFO) และรับรองความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ประจำปี 2567 จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ในฐานะที่เป็นองค์กรที่มีส่วนช่วยสนับสนุนให้เกิดโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภายในประเทศเพื่อต่อสู้กับปัญหาภาวะโลกร้อน โดยปี 2567 บริษัทได้ชดเชยคาร์บอนเครดิตจำนวน 3,998 ตันคาร์บอนไดออกไซต์เทียบเท่า


นายฉี ชิง-ฟู่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH Bank เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ครึ่งแรกของปี 2568 มีกำไรสุทธิ 1,103 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.3 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สินเชื่อเติบโตร้อยละ 3.4 จากสิ้นปี 2567 หลักๆ เป็นการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อรายย่อยร้อยละ 9.3 และสินเชื่อธุรกิจร้อยละ 1.8 และธนาคารได้ขยายสินเชื่อ SME ด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์สินเชื่อเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรม (Product Program) ส่งผลให้สินเชื่อ SME เติบโตอย่างมีนัยสำคัญจากสิ้นปีก่อน นอกจากนี้ ธนาคารได้ขยายฐานลูกค้ารายย่อยเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 จากสิ้นปีก่อน ด้วยความสำเร็จของผลิตภัณฑ์เงินฝากดิจิทัล “B-You Max” รวมถึงการเติบโตของธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) ธนาคารได้ใช้ประโยชน์จากเครือข่ายของ CTBC ไต้หวันซึ่งเป็นบริษัทแม่ ในการสนับสนุนให้สินเชื่อกลุ่มลูกค้าต่างประเทศผ่านสินเชื่อธุรกิจต่างประเทศ (Trade Finance) และFX ขยายตัวอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าจากประเทศจีน นอกจากนี้ ธนาคารยังคงรักษาคุณภาพสินทรัพย์โดยมีอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ที่ร้อยละ 2.59 และ NPL Coverage อยู่ที่ร้อยละ 173 และมีเงินกองทุนที่เพียงพอ โดยอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง Tier 1 และ BIS Ratio อยู่ที่ร้อยละ 15.73 และ 17.81 ตามลำดับ

สำหรับกลยุทธ์ช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ธนาคารยังคงเดินหน้าขยายสินเชื่อกลุ่ม SME ผ่าน Product Program ควบคู่กับการให้บริการ Corporate E-Banking/ Mobile Banking “LHB Biz Connect” ที่รองรับการชำระเงินและธุรกรรมการค้าต่างประเทศ (Trade Finance) ทั้งสกุลเงินบาทและสกุลเงินต่างประเทศ สำหรับลูกค้ารายย่อย ธนาคารยังคงมุ่งเน้นให้บริการสินเชื่อบ้านและสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีคุณภาพ นอกจากนี้ ธนาคารเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยี AI และแอปพลิเคชัน เพื่อยกระดับความเป็นเลิศในการให้บริการลูกค้าให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อีกทั้งธนาคารยังเร่งขยายบริการบริหารความมั่งคั่งผ่านโครงการ “Family Banking” โดยมอบสิทธิพิเศษสำหรับกลุ่มลูกค้า Wealth และพร้อมตอบสนองทุกความต้องการของคนรุ่นถัดไป

LH Bank ดำเนินธุรกิจภายใต้หลักธรรมาภิบาลที่ดี โปร่งใส และดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนที่คำนึงถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม (Sustainable Banking)สนับสนุนการปล่อยสินเชื่อสีเขียว และสินเชื่อเพื่อการเปลี่ยนผ่าน (Transition Finance) เพื่อสนับสนุนและให้คำปรึกษาลูกค้าที่ต้องการปรับตัวสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ รวมทั้งธนาคารได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้าอย่างต่อเนื่องผ่านมาตรการ “คุณสู้ เราช่วย” เพื่อบรรเทาภาระหนี้ของลูกหนี้ ช่วยให้ลูกหนี้ปิดหนี้ได้ไว และรักษาทรัพย์สินที่เป็นหลักประกันไว้ได้ ตามหลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย


นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด หรือ LH Fund เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2568 มีสินทรัพย์สุทธิของกองทุนรวมที่นับรวมกองทุนอสังหาริมทรัพย์และทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งสิ้น 66,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 4.5% จากสิ้นปี 2567 กองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) มีขนาดกองทุน 13,093 ล้านบาท และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมีขนาดกองทุน 9,596 ล้านบาท

สำหรับกลยุทธ์ช่วงครึ่งหลังของปี 2568 บริษัทยังคงขับเคลื่อนกลยุทธ์เชิงรุกเพื่อเสริมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยปรับบทบาทของทีมงานให้สามารถบริหารผลิตภัณฑ์การลงทุนทุกประเภทได้อย่างคล่องตัวและครอบคลุมยิ่งขึ้น และปรับแนวทางการเติบโตของสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) โดยให้ความสำคัญกับการสร้างความสัมพันธ์ในระยะยาวกับกลุ่มลูกค้า High Net Worth สถาบัน และองค์กร ด้วยการนำเสนอโซลูชันที่ตอบโจทย์ลูกค้านอกเหนือจากการลงทุน สำหรับกลุ่มลูกค้ากองทุนส่วนบุคคล บริษัทได้พัฒนาโซลูชันการลงทุนและผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคลมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเร่งขยายธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพโดยเจาะกลุ่มบริษัทที่ยังไม่มีการจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นต้น  
 
นายกานต์ อรรถธรรมสุนทร กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ (LH Securities) กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจหลักทรัพย์ครึ่งแรกของปี 2568 ภาวะตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงต่อเนื่องจากปัจจัยกดดันทั้งภายในและภายนอกประเทศ เช่น ความกังวลเรื่องเสถียรภาพทางการเมือง ภาวะเศรษฐกิจ มาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ การปรับลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทยโดย MSCI และความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ เป็นต้น ทำให้ตั้งแต่ต้นปี 2568 ดัชนีปรับตัวลดลงมากกว่าตลาดหลักทรัพย์ส่วนใหญ่ในภูมิภาค โดยดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ณ สิ้นไตรมาส 2 ปิดที่ 1,089.56 จุด ลดลงร้อยละ 22.2 จากสิ้นปี 2567 ด้วยมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันหดตัวลงอยู่ที่ 41,856 ล้านบาท โดยผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2568 มีรายได้ค่านายหน้าจำนวน 40.2 ล้านบาท ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับปี 2567 สาเหตุหลักมาจากการหดตัวลงของปริมาณการซื้อขายของตลาดหุ้นไทย

สำหรับกลยุทธ์ของบริษัทยังคงมุ่งเน้นการเติบโตอย่างระมัดระวัง เน้นสร้าง Passive Income เช่น รายได้เงินปันผล รายได้ค่าธรรมเนียมการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์และที่ปรึกษาทางการเงิน รวมทั้งเพิ่มและพัฒนาบริการและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น การให้บริการซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ การพัฒนาระบบเทคโนโลยี เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า เพิ่มการมีส่วนร่วม (Engagement) ของลูกค้าเดิมด้วยบริการที่สะดวกรวดเร็วและปลอดภัย พร้อมบริหารต้นทุนอย่างเหมาะสม.-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]

เพื่อไทยโพสต์พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

กรุงเทพฯ 5 ก.ย.- พรรคเพื่อไทย พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอบคุณทุกแรงใจ ระบุ นโยบายหลายเรื่องค้างไว้ รอวันกลับมาสานต่อ ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 311 เสียง เห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า “พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตามครรลองของรัฐสภา ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ขอขอบคุณทุกแรงใจ นโยบายหลายเรื่องที่ยังค้างไว้ เราจะรอวันกลับมาสานต่อให้สำเร็จ เพื่อคนไทยทุกคน…ตลอดไป” .-316 -สำนักข่าวไทย