คลังยืนยันไม่เก็บภาษีดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ไม่เกิน 2 หมื่นบาท

ก.คลัง 19 เม.ย. – คลังยืนยันไม่เก็บภาษีดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ไม่เกิน 2 หมื่นบาท กรมสรรพากรแนะผู้ฝากเงินยินยอมให้แบงก์ส่งข้อมูลให้กรมสรรพากร 


นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กฎหมายฉบับเดิมได้ยกเว้นภาษีจากดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ไม่เกิน 20,000 บาทต่อปี  ยอมรับว่าแบงก์ขนาดเล็กส่วนใหญ่มักแนะนำลูกค้าให้ปิดบัญชีหากผลตอบแทนดอกเบี้ยเกือบถึง 20,000 บาท เพื่อเปิดบัญชีใหม่หวังช่วยเหลือดูแลและยังถือว่าเป็นการหลีกเลี่ยงภาษีลูกค้า การออกกฎหมายฉบับใหม่ได้หารือกันมา 2 ปี เพื่อให้สถาบันการเงินปรับตัว ขณะนี้พบว่าแบงก์รัฐและ 5 ธนาคารขนาดใหญ่ได้ปรับตัวรองรับนโยบายรัฐหมดแล้ว เหลือเพียงแบงก์ขนาดเล็ก เพื่อช่วยส่งข้อมูลให้กับกรมสรรพากรและแนะนำลูกค้าให้ดำเนินการอย่างถูกต้อง จึงยืนยันว่าดอกเบี้ยไม่เกิน 20,000 บาทไม่ต้องเสียภาษี 


นายปิ่นสาย สุรัสวดี  โฆษกกรมสรรพากร  เปิดเผยว่า เพื่อให้การเสียภาษีผลตอบแทนดอกเบี้ยอย่างเป็นธรรม เพราะมีหลายคนแตกบัญชีย่อยเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี จากการแนะนำของสถาบันการเงิน แต่ยอมรับว่าการฝากเงินได้ผลตอบแทน 20,000 บาทต่อปี ต้องมียอดเงินฝากถึง 4 ล้านบาท และกฎหมายเก็บภาษีจากเงินฝากบัญชีออมทรัพย์ 15% ผ่านการหัก ณ ที่จ่าย เพื่อนำส่งกรมสรรพากรและเงินฝากบัญชีออมทรัพย์ส่วนใหญ่ 99% ของประชากร มีเงินฝากไม่ถึง 1 ล้านบาทต่อบัญชี จึงเห็นว่ารายย่อยได้รับผลกระทบน้อยมาก 

ทั้งนี้ ยอมรับว่าในช่วงที่ผ่านมาการเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ แม้จะเป็นธนาคารเดียวกัน แต่เปิดบัญชีสาขาภาคเหนือและภาคใต้ยังเชื่อมโยงข้อมูลได้ไม่ครบถ้วนในแบงก์เดียวกัน  เพราะหากข้อมูลครบถ้วนเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์บุคคลเดียวกัน แม้หลายบัญชี หากผลตอบแทนดอกเบี้ยรวมกันถึง 20,000 บาท ต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายนำส่งกรมสรรพากร  จึงแนะนำให้ธนาคารแนะนำลูกค้าเดิมหาแนวทางติดต่อกับแบงก์ เพื่อลงนามยินยอมส่งข้อมูลทางการเงินให้กับกรมสรรพากร  เพื่อให้กรมสรรพากรคำนวณจากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะฝากเงินกับแบงก์ใดผ่านบัญชีออมทรัพย์  หากมีดอกเบี้ยเกิน 20,000 บาทต้องถูกคำนวณภาษีเงินได้ ปัจจุบันคาดว่ามีบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ผลตอบแทนดอกเบี้ยเกิน 20,000 บาท ประมาณ 100 ล้านบัญชี 

คาดว่าสถาบันการเงินคงมีช่องทางติดต่อกับลูกค้า เพื่อให้เซ็นหนังสือยินยอมให้ส่งข้อมูลทางการเงินส่งให้กับกรมสรรพากร เพราะเป็นเรื่องสิทธิส่วนบุคคลดูแลลูกค้า จึงต้องการให้ส่งข้อมูลกับกรมสรรพากรก่อนการจ่ายดอกเบี้ยครึ่งปีในเดือนพฤษภาคมและเดือนพฤศจิกายน เพราะต้องจ่ายดอกเบี้ยเดือนมิถุนายนและเดือนธันวาคมของทุกปี 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าประกาศกรมสรรพากร ได้ระบุว่า การคำนวณเพื่อจ่ายดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนเงินฝากครึ่งปีแรกต้องส่งข้อมูลดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนเงินฝากทั้งปีให้กรมสรรพากรภายในวันที่ 20 พฤษภาคม และ 20 พฤศจิกายนของทุกปี 

สำหรับการคำนวณภาษีจากผลตอบแทนดอกเบี้ยที่จะได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ คือ การนำดอกเบี้ยและผลตอบแทนเงินฝากทุกบัญชีรวมกันไม่เกิน 20,000 บาทตลอดปีภาษี ระบุ ชื่อบัญชีเงิน และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรที่ใช้ในการเปิดบัญชีเงินฝาก ต้องเป็นของผู้ที่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา  และต้องยินยอมให้ทุกธนาคาร เป็นผู้จ่ายดอกเบี้ยและผลตอบแทนเงินฝาก นำส่งข้อมูลดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนให้กับกรมสรรพากร และเก็บหลักฐานการยินยอมไว้เพื่อให้เจ้าพนักงานประเมินตรวจสอบ  โดยธนาคารมีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย หากธนาคารไม่ได้หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย และนำส่งธนาคารคารต้องเสียค่าปรับพร้อมกับเงินเพิ่มอีก 1.5% ต่อเดือน หรือเศษของเดือนของเงินภาษีที่ต้องนำส่ง ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2562

ด้านรายงานข่าวจากสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า สมาคมจะมีการหารือกันในสัปดาห์หน้าถึงประกาศของกรมสรรพากรดังกล่าว โดยจะต้องมีการออกแบบฟอร์มของสมาคม เพื่อให้ลูกค้ามาลงนามให้ความยินยอมเปิดเผยข้อมูลกับกรมสรรพากรกับทุกธนาคารที่มีบัญชีเงินฝาก ซึ่งสมาคมธนาคารไทยพยายามจะอำนวยความสะดวกให้ลูกค้ามากที่สุด เพื่อให้ลูกค้าลงนามยินยอมที่ธนาคารเพียงแห่งเดียว และ ลิงค์ข้อมูลถึงทุกธนาคาร แต่ต้องใช้เวลาในการวางระบบดังกล่าวอีกระยะหยึ่ง เพราะเบื้องต้นธนาคารต้องมีการปรับปรุงระบบการหักภาษีดอกเบี้ยเงินฝากของแต่ละธนาคารใหม่ จากเดิมหากดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ต่ำกว่า 20,000 บาทต่อปี ก็ไม่ต้องเสียภาษีร้อยละ 15  ซึ่งเรื่องนี้ทางสมาชิกต้องหารือกันทั้งหมด

.- สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]

เพื่อไทยโพสต์พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

กรุงเทพฯ 5 ก.ย.- พรรคเพื่อไทย พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอบคุณทุกแรงใจ ระบุ นโยบายหลายเรื่องค้างไว้ รอวันกลับมาสานต่อ ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 311 เสียง เห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า “พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตามครรลองของรัฐสภา ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ขอขอบคุณทุกแรงใจ นโยบายหลายเรื่องที่ยังค้างไว้ เราจะรอวันกลับมาสานต่อให้สำเร็จ เพื่อคนไทยทุกคน…ตลอดไป” .-316 -สำนักข่าวไทย