กรุงเทพฯ 10 เม.ย. – ไทยออยล์ย้ำบริหารต้นทุนเข้มข้น รับมือราคาน้ำมันผันผวน ส่วนโครงการ CFP มั่นใจเสร็จตามแผนพร้อมผลิตปี 66 และการขายโอนสิทธิ์โครงการโรงไฟฟ้า ERU ให้จีพีเอสซี ทำให้ผลตอบแทนโครงการดีขึ้น
นายอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า บริษัทติดตามภาวะราคาน้ำมันดิบที่ล่าสุดปรับตัวสูงสุดในรอบ 5 เดือน และจะบริหารจัดการให้มีผลกระทบต่อการดำเนินการน้อยที่สุด เพราะต้องยอมรับว่าปีที่แล้วราคาน้ำมันผันผวนอย่างหนัก ส่งผลให้ขาดทุนสตอกถึงกว่า 2,600 ล้านบาท และยังได้รับผลกระทบจาก Crude Premium ที่สูงกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบถึง 8,000 ล้านบาท หรือประมาณ 3.1 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล สูงกว่าปี 2560 ที่อยู่ที่ 1.7 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ขณะที่ค่าพรีเมี่ยมขณะนี้อยู่ที่ประมาณไม่ถึง 2 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 1 ปีนี้คาดว่าจะมีกำไรสตอกน้ำมัน เพราะราคาปิดเดือนมีนาคมปีนี้อยู่ที่ 67 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล สูงกว่าราคาปิดเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วที่ 57 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
“กลุ่มไทยออยล์เดินหน้าปรับปรุงประสิทธิภาพบริหารทั้งต้นทุนการผลิตและการเงินทุกด้าน ซึ่งตั้งเป้าหมายลดต้นทุนส่วนนี้ไม่ต่ำกว่าปีที่แล้วที่ 5,600 ล้านบาท” นายอธิคม กล่าว
ส่วนโครงการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ หรือ Clean Fuel Project (CFP) เพื่อขยายกำลังการกลั่นเพิ่มจาก 275,000 บาร์เรลต่อวัน เป็น 400,000 บาร์เรลต่อวัน มูลค่า 4,825 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จะเริ่มก่อสร้างตามแผนกลางปีและคาดว่าจะเริ่มผลิตต้นปี 2566 โดยส่วนหนึ่งของโครงการขายและโอนกรรมสิทธิ์โครงการ Energy Recovery Unit โดยการเข้าซื้อหน่วยผลิตไฟฟ้า (Energy Recovery Unit : ERU)ให้แก่ บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) วงเงิน 757 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เงินทุนโครงการนี้ลงทุนลดลงเหลือ 4,068 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และทำให้ผลตอบแทนการลงทุนโครงการ CFP ดีขึ้นจากร้อยละ 12.1 เป็นร้อยละ 12.57
ส่วนน้ำมันเดินเรือทะเลที่ทางองค์การเดินเรือทะเล หรือไอเอ็มโอจะกำหนดให้ลดกำมะกันจากร้อยละ 3.5 เหลือร้อยละ 0.5 ในปี 2563 นั้น ทางไทยออยล์เตรียมพร้อมปรับการกลั่นให้กำมะถันต่ำ ขณะที่โครงการCFP หากเสร็จก็จะทำให้ได้น้ำมันเตาลดลงจากปัจจุบันที่มีสัดส่วนร้อยละ 7 และได้น้ำมันกลุ่มดีเซลและเจ็ทเพิ่มขึ้นขึ้นไปกว่าร้อยละ 60 ซึ่งขณะนี้น้ำมันเตาของไทยออยล์ที่ผลิตได้จะขายให้เรือประมาณร้อยละ 50 แต่จากที่สามารถกลั่นน้ำมันดีเซล ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดและนำไปผสมกับน้ำมันเตาให้กำมะถันต่ำลงได้ ก็ทำให้ได้ผลดีตามไปด้วย. – สำนักข่าวไทย
